ในตอนที่แล้ว แอดมินพาเดินทางไปเที่ยวที่ จ.นางาซากิ (Nagasaki) มาแล้ว วันนี้จะพาไปเที่ยวที่ จ.โออิตะ (oita) หลายๆคนคงจะ งง สงสัย ครุ่นคิดอยู่ในใจ ว่ามีอะไรให้เที่ยวที่จังหวัดนี้ ไม่ต้องรอช้า เราไปดูที่เที่ยวยอดฮิตของที่นี่ คือ

เมืองเบปปุ [Beppu] และก็เมืองยูฟุอิน [Yufuin]ยังไงล่ะคะ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่นี่ >> ตอนที่ 1 >> ตอนที่ 2

นั่งรถไฟที่สถานี Hakata นั่งรถไฟขบวนโซนิคไปลงที่สถานีเบปปุ (Beppu) ที่เป็นเมืองแห่งออนเซน ที่เพื่อนๆจะสามารถมองเห็นควันลอยพุ่งมาจากที่ต่างๆในเมือง เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงามแล้วชวนฝันไปทั่วเมืองเลยนะคะ เนื่องจากเป็นเมืองออนเซนดังนั้น เราก็ต้องไปเที่ยวออนเซ็นและที่เป็นไฮไลท์ที่นี้คือ บ่อนรกทั้งแปด (Eight Hell Tour) หรือเรียกว่า Jigoku Meguri ซึ่งจิโกกุ เมกุริ คือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟ จะมีทั้งหมด 8 บ่อ และมีลักษณะที่แตกต่างกันไปค่ะแต่ละบ่อไม่สามารถลงแช่ได้ เพราะจะมีแร่ธาตุต่างๆ อยู่เข้มข้น และที่สำคัญที่สุด มันร้อนม๊าก..มากกกกกกเลย ขืนลงไปแช่นะไม่อยากจะเอ่ยเลย มันต้องทำให้สุกได้แน่ๆเลยค๊า ~~~

การเดินทางไปจะมี 6 บ่อที่อยู่ใกล้ๆกันและสามารถเดินได้ค่ะ ส่วนอีก 2 บ่อต้องต่อรถบัสไปอีกค่ะ เริ่มต้นด้วยการไป 6 บ่อแรกก่อนนะคะ เดินทางไปชมบ่อน้ำพุร้อนบริเวณ Kanawa Onsen นั่งรถเมล์จากสถานี Beppu สาย 2,5,9,41 หรือ 43 ลงที่ป้าย Umi-jigoku mae ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (ค่าโดยสาร 320 เยน)

บ่อที่ 1 ยูมิ จิโกกุ (Umi Jigoku) หรือ “บ่อทะเลเดือด (Sea Hell)” บ่อทะเลเดือด (Sea Hell) หรือ ยูมิ จิโกกุ เป็นบ่อที่นักท่องเที่ยวจะนิยมไปชมมากที่สุด เพราะมีความสวยงามดูเป็นนรกน้อยกว่าแห่งอื่น ๆค่ะ บ่อนี้ยังสามารถต้มไข่ให้สุกได้ด้วยค่ะ แล้ว ก่อนจะออกมาห้ามลืมไปนั่งแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนใต้ศาลาเป็นออนเซ็นเท้าที่จะทำให้เพื่อนๆรู้สึกสบายเท้าและมีแรงในการเดินเที่ยวต่อไปค่ะ แถมยังให้บริการแบบฟรี ๆ จะนั่งแช่นานเท่าใดก็ได้ค๊า

บรรยากาศของบ่อ Umi Jigoku หรือบ่อทะเลเดือด
บรรยากาศของบ่อ Umi Jigoku หรือบ่อทะเลเดือด
มาต้มไข่ให้สุกกันเลยดีกว่าที่บ่อทะเลเดือด
มาต้มไข่ให้สุกกันเลยดีกว่าที่บ่อทะเลเดือด

บ่อที่ 2 โอนิอิชิโบสุ จิโกกุ (Oniishibozu Jigoku) หรือ “บ่อโคลนเดือด (Monk’s Hell หรือ Mud Bubbles) โดยบ่อนี้จะมีลักษณะคล้ายโคลนสีเทาเดือดปุด ๆ ขึ้นมาเป็นฟองกลมค่ะ

IMG_9891
บ่อ Oniishibozu Jigoku หรือ “บ่อโคลนเดือด”
ฟองโคลนกลมๆที่อยู่ในบ่อบ่อโคลนเดือด
ฟองโคลนกลมๆที่อยู่ในบ่อบ่อโคลนเดือด

บ่อที่ 3 ยามะ จิโกกุ (Yama Jigoku) หรือ “หุบเขานรก (Mountain Hell)” บ่อนี้จะมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากโขดหินค่ะ และตั้งอยู่ใกล้บ่อทะเลเดือดและบ่อโคลนเดือดเลยค่ะ
บ่อที่ 4 คามาโดะ จิโกกุ (Kamodo Jigoku) หรือ “นรกกระทะทองแดง (Oven Hell หรือ Cooking Pot Hell)” บ่อนี้จะมี แอ่งน้ำพุร้อนอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส และจะตั้งอยู่ห่างบ่อทะเลเดือดและบ่อโคลนเดือดออกไปเล็กน้อย โดยทางเข้ามีรูปปั้นยมทูตถือกระบองยืนอยู่สะแหยะยิ้มอยู่เลยค๊า

บ่อที่ 3 ยามะ จิโกกุ (Yama Jigoku) หรือ "หุบเขานรก (Mountain Hell)" บ่อนี้จะมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากโขดหินค่ะ และตั้งอยู่ใกล้บ่อทะเลเดือดและบ่อโคลนเดือดเลยค่ะ บ่อที่ 4 คามาโดะ จิโกกุ (Kamodo Jigoku) หรือ "นรกกระทะทองแดง (Oven Hell หรือ Cooking Pot Hell)" บ่อนี้จะมี แอ่งน้ำพุร้อนอุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส และจะตั้งอยู่ห่างบ่อทะเลเดือดและบ่อโคลนเดือดออกไปเล็กน้อย โดยทางเข้ามีรูปปั้นยมทูตถือกระบองยืนอยู่ยิ้มหวานค๊า

IMG_0152

มีอุณหภูมิ 90 องศาถ้าตกลงไปสุกแน่ๆเลยขอบอก
มีอุณหภูมิ 90 องศาถ้าตกลงไปสุกแน่ๆเลยขอบอก

บ่อที่ 5 โอนิยามะ จิโกกุ (Oniyama Jigoku) หรือ “หุบเขาปีศาจ (Devil’s Mountain Hell)” บ่อนี้เค้าเลี้ยงจระเข้เอาไว้ด้วยนะ แต่ไม่ได้เลี้ยงไว้ในน้ำพุร้อนนะคะ เจ้าจระเข้พวกนี้จะชอบอาศัยอยู่ในน้ำอุ่นค่ะ แค่มาที่นี่ที่เดียวก็จะได้ดูฟาร์มจระเข้ไปในตัวด้วยเลยเจ้าค่ะ และที่นี้เค้ายังมีรอบเวลาให้อาหารจระเข้าด้วยน๊า ถ้าใครไปตรงช่วงเวลาก็อาจได้ชมการให้อาหารจระเข้ไปด้วยค่ะ

IMG_0147
เจ้าจระเข้น้อยที่มาโชว์ตัวให้เพื่อนได้ยลโฉม
IMG_0139
บรรยากาศรอบๆบ่อค่ะ

บ่อที่ 6 ชิราอิเกะ จิโกกุ (Shiraike Jigoku) หรือ “นรกสีขาว (White Pond Hell)” บ่อนี้มีลักษณะเป็นบ่อน้ำพุร้อนสีขาวคล้ายน้ำนมค่ะ และน้ำในบ่อนี้อุณหภูมิสูงเกินกว่าที่จะลงไปแช่ได้ค่ะ

IMG_9801
บรรยากาศน้ำพุร้อนบ่อนรกสีขาว

เดินมาจนครบ 6 บ่อแล้ว และไปต่อบ่อที่ 7 และ8 ค่ะ การเดินทางไปชมบ่อน้ำพุร้อนบ่อที่ 7 และ 8 นั่งรถเมล์สาย 9 จาก Umi-jigoku ไปที่ Shibaseki ลงที่ป้าย Chinoike Jigoku mae แต่นาน ๆมีรถค่ะ แนะนำนั่งแท๊กซี่ไปจะสะดวกกว่าค่ะ

บ่อที่ 7 ชิโนอิเกะ จิโกกุ (Chinoike Jigoku) หรือ “บ่อสีเลือด (Blood Pond Hell)” บ่อนี้เป็นบ่อที่มีชื่อฟังดูน่ากลัวเน๊อะ แต่ไม่ได้น่ากลัวแบบชื่อเลยค่ะ เพียงแค่บ่อนี้มีสีแดงคล้ายสีเลือดเดือดที่เห็นเป็นสีแดงเพราะมีส่วนประกอบของสนิมเหล็กอยู่มากค่ะ และบ่อนี้จะอยู่ห่างจากบ่อนรกทั้ง 6 แห่งข้างต้นมาอีกราว 10 นาทีโดยรถเมล์ค่ะ

IMG_9791
น้ำมีสีคล้ายสีเลือด

บ่อที่ 8 ทัตสึมากิ จิโกกุ (Tatsumaki Jigoku) หรือ “น้ำพุนรก (Spout Water Hell)” ที่เรียกน้ำพุนรก ก็เพราะทุก ๆ 20-30 นาทีจะมีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพอย่างรุนแรงแล้วแต่ละครั้งใช้เวลาพ่นน้ำนานถึง 5 นาทีเลยที่เดียวค่ะ และมีการพุ่งกันทั้งคืนทั้งวันทั้งเดือนทั้งปีเลยนะจ๊ะ บ่อนี้อยู่ไม่ไกลจากบ่อสีเลือดเพื่อนๆสามารถเดินไปได้ค่ะ

และแล้วก็พาไปเดินเที่ยวชมจนครบทั้ง 8บ่อแล้วจ้า~~ ไปเที่ยวกันต่อดีกว่าค่ะ อื้ม….

พาไปเที่ยวยูฟุอิน จากสถานีเบปปุนั่งรถไฟขบวน YUFUIN NO MORI ไปลงที่สถานียูฟุอินเลยค่ะ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พอออกจากสถานีก็จะมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาป Kinrinko แต่ระหว่างทางจะพบกับร้านค้าต่างๆมากมายเต็มไปหมดเลยค่ะ

IMG_5342
ถนนคนเดินที่หมู่บ้านยูฟูอินค่ะ (โรแมนติก มว๊ากก)

อีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Yufuin Floral Village เป็นเมืองจำลองเมืองเล็กๆ ในสไตล์ยุโรปค่ะ ทุกร้านค้าจะมีธีมเป็นบ้านดิน มีขายของจิปาถะมากมายเลยค่ะ

Yufuin Floral Village
Yufuin Floral Village

หลังจากที่แวะ Yufuin Floral Village แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยจนสุดทางก็จะเจอ ทะเลสาป Kinrinko ค่ะ

มีบ้านแบบนี้ก็คงจะดีเน๊อะ
มีบ้านแบบนี้ก็คงจะดีเน๊อะ
ทะเลสาป Kinrinko
ทะเลสาป Kinrinko
ลำธารนี้เชื่อมไปถึงทำเลสาบเลยค่ะ
ลำธารนี้เชื่อมไปถึงทะเลสาบเลยค่ะ

IMG_0571

สำหรับเพื่อนๆที่ไปเที่ยวที่เกาะคิวชูไม่ควรพลาดจังหวัดโออิตะ (Oita) เลยนะคะ เพราะที่จังหวัดนี้ถือเป็นเมืองที่มีอากาศที่บริสุทธิ์และมีออนเซนที่น่าสนใจมากมายหลายบ่ออย่างเมืองเบปปุ (Beppu) และยูฟุอิน (Yufuin) ค่ะ การเดินทางไปเที่ยวก็ไม่ยากแค่มีตั๋ว JR Pass หรือ JR Kyushu North ก็สามารถเดินทางไปเยือน 2 เมืองนี้ได้แล้วค่ะ

Cover

ในตอนต่อไป สำหรับเพื่อนๆ ที่มี JR Kyushu North  หรือ JR Pass จะได้ไปเที่ยวไหนอีก เดี๋ยวแอดมินจะพาทัวร์กันอีกตอนค่ะ

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty