หน้าร้อนของญี่ปุ่น ร้อนแค่ไหน?

หน้าร้อนของญี่ปุ่นจะเริ่มในช่วงกลางเดือนมิถุนายน – กันยายน เดือนที่ร้อนที่สุดคือสิงหาคม อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยประมาณอยู่ที่ 30-35 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนของญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกับเดือนเมษายนของไทยมากเท่าไหร่ ดูแล้วหน้าร้อนของญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นปัญหา หรืออุปสรรคสำหรับคนไทยสักเท่าไหร่ เพราะเรามีสภาพอากาศหน้าร้อนที่ใกล้เคียงกัน

ข้อดีของการเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าร้อนก็มีหลายอย่างนะคะ
1. ตั๋วเครื่องบิน และที่พักราคาถูก เพราะเป็นช่วง Low Season ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลง โดยเฉพาะราคาที่พักถูกลงมากกว่าปกติ
2. จัดกระเป๋าเดินทางง่าย เนื่องจากไม่ใช่ฤดูหนาว เราจึงไม่ต้องขนเสื้อผ้ากันหนาวตัวใหญ่ๆ น้ำหนักเยอะๆ ให้ลำบากไงล่ะคะ
3. สินค้าในญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน ลดราคาค่อนข้างมาก สำหรับใครที่เป็นนักช้อป ต้องไม่อยากพลาดแน่นอนค่ะ
4. ไม่ต้องแออัดยัดเยียด เบียดเสียดกับใคร มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าช่วงอื่น ทำให้เราเดินเที่ยวได้แบบชิลๆ เลยค่ะ

วันนี้ขอเลือกสถานที่เที่ยวหน้าร้อนที่ไม่ควรพลาด และน่าสนใจมาให้เพื่อนๆ ชมกันค่ะ

เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

image 1

เขื่อนคุโรเบะ เป็นเขื่อนที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังมีสันเขื่อนแนวโค้งใหญ่ที่สุดอีกด้วย ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ.1963 รวมระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 7 ปี ด้วยแรงงานคนประมาณ 10 ล้านคน ถือว่าสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ได้สืบทอดผลงานที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ
ไฮไลท์ของเขื่อนแห่งนี้คือการปล่อยมวลน้ำจำนวนมหาศาลออกมาจากสันเขื่อนที่มีความสูงถึง 186 เมตร โดยจะปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้ชมในช่วงเวลาที่จำกัด คือตั้งแต่เดือนมิถุนายน – ตุลาคม เท่านั้น เราจะได้เห็นมวลน้ำขนาดใหญ่ที่พุ่งกระเซ็นออกมากระทบกับแสงแดดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้เห็นรุ้งกินน้ำสีสันสวยงาม และทิวเขาที่มีต้นไม้สีเขียวครึ้มสลับกับร่องรอยของหิมะบางๆบนยอดเขา เป็นบรรยากาศที่งดงามเกินจะบรรยายจริงๆ อยากให้เพื่อนๆได้มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเขื่อนคุโรเบะด้วยตัวเองค่ะ

image 4

ทะเลสาบมิคุริกะ (Lake Mikuriga)

image 2

ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟทาเตยามะ ซึ่งตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,405 เมตร ถึงแม้ว่าทะเลสาบแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะอยู่ตลอดเวลาจนถึงเดือนมิถุนายน แต่พอเข้าเดือนกรกฎาคม น้ำแข็งจะเริ่มละลายเราจะมองเห็นผิวน้ำสีฟ้าคราม สะท้อนภาพภูเขาทาเตยามะอย่างงดงาม ยาวไปจนถึงเดือนตุลาคมก่อนเข้าฤดูหนาว

ทะเลสาบมิคุริกะ มีเนื้อที่ประมาณ 30,000 ตารางเมตร ความลึก 15 เมตร ความยาวรอบทะเลสาบ 631 เมตรจึงเป็นทะเลสาบที่ใหญ่และลึกที่สุดในมุโรโด ที่รายล้อมไปด้วยป่าสน และบริเวณรอบๆทะเลสาบยังเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้ป่า นานาชนิด เหมาะอย่างยิ่งที่จะสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์กับธรรมชาติที่สวยงาม ที่นึ่จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาชมอย่างไม่ขาดสาย

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

22060

หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามแม่น้ำโชกาวะ (Shokawa River) ในเขตจังหวัดกิฟู (Gifu) ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้เดินชมบ้านที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นสไตล์ กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช”  ซึ่งแปลว่า “พนมมือ”

22065

ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านในฝันของใครหลายคน ที่มีความสวยทั้งกลางวันและกลางคืน มีทิวทัศน์สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบดั้งเดิมสุดคลาสสิคที่นี่ และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆมากมาย

เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)

Beautiful gulf of kabira of ishigaki island

เกาะอิชิงากิ เป็นเกาะหลักของหมู่เกาะยาเอยามะ ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในจังหวัดโอกินาวา บนเกาะมีหาดทรายขาวเนียนละเอียดมากมาย โดยเฉพาะที่หาดโยเนะฮาระ (Yonehara) เป็นจุดเล่นน้ำและดำน้ำตื้นยอดนิยม ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สามารถมองเห็นแนวปะการังสวยงาม เป็นที่เที่ยวที่เหมาะสุดๆ ในการมาเที่ยวหน้าร้อน

ภูมิอากาศของเกาะอิชิงากินั้นอบอุ่นตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 30°C และในฤดูหนาวมีอุณหภูมิประมาณ 20°C ด้วยเหตุนี้คุณสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าต้องการไปเล่นน้ำทะเลและทำกิจกรรมในทะเล แนะนำให้ไปในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงตุลาคมค่ะ

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย เมืองฮาโกเน่

Hydrangea and hakone tozan railway

ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกอาจิไซ (Ajisai) ของเมืองฮาโกเน่ (Hakone) จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa)
เป็นดอกไม้ที่ออกดอกเป็นช่อสวยงามหลากสี มีทั้งสีขาว ฟ้า ชมพู เราสามารถชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียด้วยการนั่งรถไฟสายอาจิไซ ซึ่งจะวิ่งผ่านทุ่งดอกไม้เป็นทางยาวสวยงามมาก โดยดอกไฮเดรนเยียจะเริ่มเบ่งบานในช่วงเดือนมิถุนายน และยังเป็นช่วงเวลาที่สถานที่ต่างๆ เช่น วัด ถนน และพิพิธภัณฑ์ของเมือง หรือแม้แต่ทะเลสาบก็ยังเต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยีย บอกเลยค่ะว่าเส้นทางรถไฟสายนี้สุดแสนจะโรแมนติกที่สุดเลยค่ะ

ทุ่งลาเวนเดอร์ (Lavender)

11806869 980728371949643 1421004805 o

ทุ่งลาเวนเดอร์ในญี่ปุ่นมีอยู่หลายที่ เราอยากแนะนำเพื่อนๆไปชมความงามของที่นี่เลยค่ะ
ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะ (Furano) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เรียกได้ว่าเป็นฟาร์มที่มีชื่อเสียงในเรื่องของทุ่งดอกไม้ที่มีความสวยมากๆที่สุดแห่งหนึ่ง ถือว่าที่นี่เป็นจุดชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง เพราะว่าทิวทัศน์และบรรยากาศงดงามมาก ยังมียังฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ (Tokachi mountain) จะถ่ายภาพมุมไหนก็บอกเลยว่าฟินสุดๆค่ะ

นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์แล้ว ที่นี่ยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ เป็นทุ่งดอกไม้ 7 สี หรือ ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่มีทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู เรียงรายกันอยู่เต็มทุ่งอย่างสวยงาม และที่ไม่ควรพลาดเลย ต้องมาชิมซอฟท์ครีมลาเวนเดอร์ ที่หอมหวาน อร่อยมากกกก

ฟลาวเวอร์แลนด์ (Flower Land)

11791234 980728315282982 784112294 o

ฟลาวเวอร์แลนด์ เมืองฟุราโนะ (Furano) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ทุ่งดอกไม้ใหญ่เวอร์สมชื่อ ฟลาวเวอร์แลนด์ มีดอกไม้หลายชนิดหลายสายพันธุ์ หลากสีสันผลัดกันเบ่งบานในฤดูกาลของตัวเอง เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกป๊อบปี้ และอีกมากมายหลายอย่าง ปลูกลดหลั่นกันบนเนินเขาอย่างสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อน สูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ได้อย่างเพลิดเพลิน

เราพบกับความสวยงามเหล่านี้ได้ในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ของทุกปีเลยค่ะ ที่นี่มีรถนำเที่ยวชมทุ่งดอกไม้และพื้นที่ในไร่ เป็นรถลากด้วยแทรคเตอร์ อินกับบรรยากาศสุดฟินของการเที่ยวแบบชาวไร่ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรม work shop หลายอย่าง ทั้งหมอนจากดอกไม้แห้ง ถุงหอม การ์ดที่ทำจากดอกไม้ และป้ายน่ารักๆ ที่เอากลับมาเป็นที่ระลึกได้อีกด้วยค่ะ

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)

image 3

ศาลเจ้าเมจิ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว (Tokyo) ในย่านฮาราจุคุ (Harajuku) ใกล้กับสถานี JR Harajuku

เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชาพระจักรพรรดินี แห่งราชวงศ์เมจิ สร้างขึ้นในปี 1915 จนถึงปี 1920 เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในกรุงโตเกียว ทางเข้าเราจะเห็นเสาโทริอิ (Torii) เป็นเสมือนประตูไม้ให้เราได้เดินเข้าไปสู่โลกแห่งเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ บริเวณโดยรอบศาลเจ้าเต็มไปด้วยต้นไม้กว่า 365 สายพันธ์ ประมาณ 120,000 ต้น พื้นที่นี้มีสีเขียวมากมายและระบบนิเวศที่สมบูรณ์มาก อากาศและบรรยากาศโดยรอบ แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรากำลังอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ความสงบเงียบ ความร่มรื่น สูดหายใจได้อย่างเต็มปอด และสดชื่นมากๆ เป็นที่หลบร้อนในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนมากมายต่างหลงรักค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับที่เที่ยวหน้าร้อนในญี่ปุ่น ที่เรานำมาให้ดูเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นยังมีที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเลยค่ะ ฝากเพื่อนๆติดตาม Japan All Pass นะคะ ว่าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นกันต่อค่ะ