แพลนเที่ยวฟินคุ้มค่า 5 วัน

ด้วย JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)

ใครมีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นโซน Nagano, Niigata นี้ อย่าลืมกำพาสสุดคุ้มอย่าง JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) ที่เป็นพาสพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สามารถโดยสารรถไฟ JR (รวม Shinkansen และ limited express trains) ได้โดยไม่จำกัดครั้งแบบ 5 วันต่อเนื่อง ใช้เดินทางได้ในจังหวัด ดังนี้ นีงะตะ (Niigata), นากาโนะ (Nagano), กุนมะ (Gunma), ไซตะมะ (Saitama), อิบะระกิ (Ibaraki), โตเกียว (Tokyo), คะนะงะวะ (Kanagawa), ยะมะนะชิ (Yamanashi) และโทชิงิ (Tochigi) โอ้โห!! เดินทางได้เยอะขนาดนี้ คุ้มมากๆ เลยล่ะค่ะ 

แผนที่ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)

Credits image : www.jreast.co.jp

สำหรับแแพลน 5 วัน ของเราจะใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) เดินทางเที่ยวแบบสนุกๆ บนเส้นทางดังนี้ค่ะ TOKYO, NAGANO, MATSUMOTO, KARUIZAWA, GALA YUZAWA, GUNMA, KAWAGUCHIKO ใครกำลังหาแพลนเที่ยวอยู่ล่ะก็ เซฟแพลนไว้แล้วตามมาเที่ยวด้วยกันนะคะ

DAY1

Narita-Tokyo-Nagano

จากสนามบินนาริตะ เราสามารถใช้ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) นั่งรถไฟ Narita Express ออกมาจากสนามบินเข้าโตเกียวได้เลยสะดวกมาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเรานั่งชินคันเซ็นกันต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังนากาโนะ (Nagano) ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง แล้วก็ตะลุยเที่ยวกันได้เลยค่ะ 

Zenkoji Temple 

วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple) เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในตัวเมืองนากาโนะ (Nagano City) วันแรกขอไหว้พระทำบุญกันก่อนนะคะ วัดแห่งนี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญ โดยทางวัดมีการบูรณะได้คงความดั้งเดิมไว้มากที่สุด วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์แรกที่เข้ามายังญี่ปุ่น ด้านหลังของห้องโถงกลางมีเจดีย์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของวัดเซนโคจิ ภายในจัดแสดงนิทรรศกาลรูปปั้นแกะสลักพระพุทธรูปอันประณีต รวมถึงรูปสลักของสาวกราคัง (Rakan) อีกประมาณ 100 ชิ้น บริเวณถนนหน้าซุ้มประตูทางเข้าเรียกว่า “นากามิเสะ” เป็นถนนที่มีร้านรวงขายขนมและของที่ระลึกต่างๆ ให้เราซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันด้วย มีโอกาสก็อยากให้ลองแวะมาที่วัดแห่งนี้กันค่ะ

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Nagano Station โดยสารรถบัสไปประมาณ 10 นาที 

ที่ตั้ง : 491 Naganomotoyoshichō, Nagano, 380-0851 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/9j7j1R3rgvtW6Ech6

Togakure Ninpo Museum

พิพิธภัณฑ์โทงาคุเระ นินโป (Togakure Ninpo Museum) ใช้เวลานั่งรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง จากสถานี Nagano Station ตรงข้ามกับทางเข้าศาลเจ้าบนโทงาคุชิ (Togakushi Shrine) พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในป่าบนภูเขาที่อยู่ห่างจากเมืองนากาโนะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวของวิชานินจาแบบเชิงลึก แถมยังมีอุปกรณต่างๆ ของนินจาตัวจริงมาจัดแสดงให้ชมด้วยนะคะ ภายในประกอบด้วยอาคารหลายอาคาร จัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือ และอาวุธที่ใช้โดยนินจาโทงาคุระ และมีภาพถ่ายเกี่ยวกับเทคนิคการฝึกฝนของเหล่านินจาอีกด้วย จุดที่น่าสนใจมากที่สุดคืออาคารที่สร้างขึ้นอย่างซับซ้อน ด้วยประตูลับ ทางเดินวงกตที่ออกแบบมาอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมปาดาวกระจาย (shuriken) ได้เช่นกัน อาจจะมีค่าใช้จ่ายแต่ถ้าเทียบกับประสบการณ์ที่จะได้รับแล้วก็คุ้มค่ะ นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นตัวจริงเรื่องนินจาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ อดีตที่นี่เป็นโรงเรียนสอนวิชานินจามาก่อน จากผู้ที่เป็นนักรบจากนากาโนะรอดตายจากสงครามมินาโมโตะและตระกูลไทระแล้วมาตั้งโรงเรียนนินจาเป็นของตนเอง โดยต่อมานินจาไม่ได้บูมเหมือนเก่า เลยมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์โทงาคุเระ นินโป อย่างในปัจจุบันค่ะ 

การเดินทาง : จาก Nagano Station โดยสารรถบัสหมายเลข 70 หรือ 71 ไปลงที่ Togakushi-Okushairiguchi bus stop ใช้เวลาประมาณ 60 นาที 1,350 เยน รถบัสออกชั่วโมงละ 1 รอบ

ที่ตั้ง : 3688-12 Togakushi, Nagano, 381-4101 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/4tBTvRDLCfui2i5g9

DAY2

Nagano-Matsumoto-Karuizawa

คืนแรกเราพักกันที่แถวตัวเมืองนากาโนะ เช้าวันที่ 2 เราก็เริ่มตะลุยเดินทางไปเที่ยวกันต่อเลยค่ะ จากนากาโนะ เราเดินทางไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ โดยรถไฟ JR Shinonoi Line ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชั่วโมง

Matsumoto Castle

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) ภายในจังหวัดนากาโนะ (Nagano) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดังมากๆ ของเมืองนี้ แถมยังเป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย สถาปัตยกรรมในการสร้างนั้น จะมีหอคอยและป้อมปืนเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก รวมทั้งภายในตกแต่งด้วยไม้ จุดที่น่าสนใจ ได้แก่ บันไดไม้สูงชัน ช่องเก็บหินสำหรับโจมตีศัตรู ช่องสำหรับธนู และหอสังเกตการณ์บนชั้น 6 แต่สิ่งที่ทำให้ปราสาทดังมากๆ น่าจะเป็นสีค่ะ เพราะโทนสีเน้นไปที่สีเข้มดูมืดๆ มองไปมองมาให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่และสุขุม จนได้รับฉายาว่าปราสาทอีกา (Fugashi-Jo) นั่นเอง ช่วงที่ถือว่าได้รับความนิยมแบบสุดๆ คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะความสวยของซากุระเขาพีคสุดจริงๆ โดยมีซากุระที่รายล้อมตัวปราสาทเบ่งบานงดงามมากที่สุด ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี สวยจนกลายมาเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเลยค่ะ 

การเดินทาง : จากสถานี JR Matsumoto Station เดินไปประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถบัส Town Sneaker Northern course bus loop line ไปประมาณ 5 นาที

ที่ตั้ง : 4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/YiJkQA58Z2X16YYL7

Karuizawa Prince Shopping Plaza

Karuizawa outlet ที่ช้อปปิ้งเอาใจบรรดานักท่องเที่ยวได้แบบครบวงจรกันเลยค่ะ ที่นี่จะมีประชาสัมพันธ์ที่เราสามารถดูข้อมูล เช่น แผนที่และรายละเอียดร้านค้า คูปองส่วนลดของร้านค้า โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยอธิบายการใช้คูปองกับเราด้วย บรรยากาศที่นี่กว้างขวางมาก เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าสำหรับกระเป๋าหลายไซส์เลยและมีบริการหลายจุดด้วย โซนเสื้อผ้าตามฤดูกาลลดราคาพิเศษ และสินค้าดีๆ ราคามิตรภาพมากมายเลยค่ะ ที่นี่มีโซนร้านอาหารซึ่งสะดวกสบายด้วยเมนูภาษาอังกฤษที่กดจิ้มสั่งเองได้ เรียกว่าครบวงจรทั้งกินเที่ยวช้อปปิ้งเลยล่ะค่ะ

การเดินทาง : สามารถขึ้นรถไฟ Hokuriku Shinkansen จากสถานี Nagano Station ไปยัง Karuizawa Station 

ที่ตั้ง : Karuizawa, Kitasaku District, Nagano 389-0102 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/q9PrxuGgUUmR9KCn6

DAY3

Karuizawa-GalaYuzawa-Gunma

สำหรับวันที่ 3 นี้ เราจะพาไปฟินกับบรรยากาศของที่เที่ยวยอดฮิต นั่นคือ Gala Yuzawa Ski Resort ในจังหวัดนีงาตะ (Niigata) และแวะพักผ่อนกับบรรยากาศสบายๆ ของ Takaragawa Onsen ออนเซ็นยอดนิยมในจังหวัดกุนมะด้วยค่ะ 

Gala Yuzawa Ski Resort 

กาล่า ยูซาว่า (GALA Yuzawa) เป็นรีสอร์ทท่ามกลางหิมะ ที่มีอุปกรณ์สกีให้เช่าและคอร์สเรียนสกี รวมถึงเส้นทางสวยงามหลากหลายแบบ ทำให้ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวที่นี่ต่างประทับใจและอยากกลับมาเที่ยวใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก กาล่า ยูซาว่า เป็นลานสกีที่ไปง่ายที่สุดจากโตเกียวเพียงแค่ 90 นาทีเท่านั้น ถ้าสำหรับบางท่านที่เริ่มเดินทางจากโตเกียวกันนะคะ ใครอยากไปเล่นหิมะแบบใกล้ๆ ขอแนะนำลานสกี กาล่า ยูซาว่า (GALA Yuzawa) ที่เมืองเอจิโกะยูซาวะ (Echigo-Yuzawa) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) รับรองว่าจะได้เจอวิวหิมะขาวโพลนไปทั้งเมือง ที่สำคัญคุณภาพของหิมะดี เนื่องจากเป็นหิมะที่เนื้อละเอียด แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถลื่นบนหิมะได้อย่างไม่ต้องกังวลค่ะ จะไปเช้าเย็นกลับก็ยังได้ แถมที่นี่มีคอร์สสอนสกีภาษาไทย และทัวร์เดินเขาหิมะ และยังมีคอร์สสอนเล่นสกีสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อนด้วยค่ะ 

การเดินทาง : จากสถานี Karuizawa นั่งรถไฟ Hakutaka ใช้เวลาประมาณ 15 นาที มาลงที่สถานี Takasaki นั่งรถไฟ Toki Shinkansen ไปลงที่สถานี EchigoYuzawa ใช้เวลาประมาณ 29 นาที ใช้ทางออกทิศตะวันออก (East Exit) แล้วรอขึ้นรถชัตเทิลบัสรับส่งฟรีไปลงที่ GALA Yuzawa 

หรือนักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้น Tanigawa Shinkansen จากสถานี Takasaki ไปยังสถานี GALA Yuzawa ได้เช่นกัน (เฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น)

ที่ตั้ง : 1039-2 Yuzawa, Minamiuonuma District, Niigata 949-6101 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/jechGVsd7zph9VdK6

Takaragawa Onsen Osenkaku (Gunma) 

ทาคารากาวะ ออนเซ็น (Takaragawa Onsen) เป็นออนเซ็นยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมาก ด้วยบรรยากาศอันสวยงามที่ใครหลายคนอยากไปพักผ่อนสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง เพราะที่นี่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้และเสียงธารน้ำไหล มีออนเซ็นทั้งในร่มและกลางแจ้งตั้งกระจายอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำ และมีออนเซ็นแบบรวมชายหญิงขนาดใหญ่ซึ่งคุณสามารถสวมชุดสำหรับแช่น้ำร้อนที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ลงไปแช่ตัวได้เลยค่ะ

ฤดูที่นิยมมาพักผ่อนที่ ทาคารากาวะ ออนเซ็น ก็คือ ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกโปรยปราย โดยบ่อแช่น้ำส่วนใหญ่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับแขกที่เข้าพักในโรงแรม เราจึงสามารถนั่งแช่ออนเซ็นไปแล้วก็ดูดาวไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

การเดินทาง : จากสถานี EchigoYuzawa นั่งรถไฟ Toki Shinkansen ใช้เวลาประมาณ 12 นาที มาลงที่สถานี Jomo-Kogen แล้วนั่งรถบัส Bus Stop Exit 1 Minakami Line ไปลงที่สถานี Minakami ใช้เวลาประมาณ 23 นาที จากนั้นโดยสารรถบัสจากสถานี Minakami ประมาณ 30 นาที ไปที่ Takaragawa Onsen (หรือตอนจองที่พักให้นัดหมายเวลารับส่งตรงสถานีที่ทางโรงแรมให้บริการไว้ก่อนค่ะ)

ที่ตั้ง : 1899 Fujiwara, Minakami, Tone District, Gunma 379-1721 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/AYSPP5swK5jotAJW9

DAY4

Gunma-Kawaguchiko-Fuji

เผลอแป้ปเดียวก็เข้าวันที่ 4 แล้วค่ะ วันนี้เรามุ่งหน้าจากเมืองมินาคามิ จังหวัดกุนมะ ไปเที่ยวกันต่อที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ ตามไปดูฟูจิด้วยกันค่ะ ตามมาเลย!!

Kawaguchiko

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ในปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเดินทางที่สะดวก มีทั้งรถไฟและรถบัสให้บริการ ที่นี่เป็นหนึ่งในห้าทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองจากทั้งห้าทะเลสาบ และยังมีวิวที่สวยงามเพราะทะเลสาบคาวากุจิโกะถือว่าเป็นทะเลสาบที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิมากที่สุดด้วยค่ะ บริเวณรอบๆทะเลสาบยังสามารถนั่งรถบัส หรือจะปั่นจักรยานชมวิวสวยๆ ของภูเขาไฟฟูจิได้ตลอดเส้นทางอีกด้วย คือเรียกได้ว่าอยู่เที่ยวแบบชิลๆ ถ่ายรูปเพลินๆ ได้ทั้งวันเลยล่ะค่ะ 

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากมาเที่ยวรอบบริเวณนั้น ที่สถานี Kawaguchiko มีรถบัสไปยังสถานที่ต่างๆ จำนวน 3 สาย รับรองไม่หลงแน่นอน ได้แก่

  1. Kawaguchiko Sightseeing Bus (Red-Line) : สายนี้วิ่งรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
  2. Saiko Sightseeing Bus (Green-Line) : สายนี้วิ่งไปทะเลสาบไซโกะ (Saiko)
  3. Narusawa/Shojiko/Motosuko Sightseeing Bus (Blue-Line) : สายนี้วิ่งไปทะเลสาบโมโตสุโกะ (Motosuko)

ใครที่อยากท่องเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ ก็จะใช้สายสีแดง “Red-Line” เป็นหลักนะคะ ส่วนคนที่จะขึ้นรถบัสหลายๆ รอบก็มีพาส Sightseeing Bus Pass ให้ใช้เที่ยวทุกเส้นทางใน 2 วันแบบไม่จำกัดเที่ยวด้วยค่ะ (ผู้ใหญ่ 1500 เยน, เด็ก 750 เยน) 

การเดินทาง : จากสถานี Jomo-Kogen นั่งรถไฟ Tanigawa Shinkansen ประมาณ 1 ชั่วโมง 13 นาที ไปลงที่สถานี Tokyo ต่อรถไฟ JR Chuo Line Rapid ประมาณ 14 นาที ไปลงที่สถานี Shinjuku จากนั้นนั่งรถไฟ Kaiji ประมาณ 58 นาที ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วต่อรถไฟ Fuji kyuko Line ประมาณ 58 นาที ราคา 1,170 เยน ไปลงที่สถานี Kawaguchiko    

ที่ตั้ง : ฟุจิกะวะงุชิโกะ Minamitsuru District, จังหวัดยะมะนะชิ ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/krmj5bCsDrzrPtwv8

DAY5

Kawaguchiko-Tokyo-Narita

วันสุดท้ายแล้วค่ะ ยังพอมีเวลาเที่ยวได้อีกหน่อยก่อนที่เราจะเดินทางไปสนามบินกันนะทุกคน เลยขอออกมาเดินเล่นถ่ายรูปกับวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่สามารถมองเห็นได้จากบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะ แล้วบอกลาน้องฟูจิซัง เตรียมตัวเดินทางกลับโตเกียว และแวะช้อปปิ้งที่ชินจุกุก่อนกลับบ้านกันค่ะ

ชินจุกุ (Shinjuku)

ชินจุกุ (Shinjuku) หลายคนที่มาเที่ยวก็ต้องแวะช้อปปิ้งของตัวเองและของฝากกันใช่มั้ยคะ ที่ชินจุกุเป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของโตเกียวที่ไม่ว่าใครก็รู้จักค่ะ ทั้งย่านเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ รายล้อมเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Odakyu ที่มีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ Shinjuku Keio เน้นเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับคุณผู้หญิง ของกุ๊กกิ๊กน่ารักก็มี ISETAN ศูนย์รวมของอร่อยทั่วญี่ปุ่นเลยค่ะ ต้องมาลองนะ 0101 (Marui) เป็นห้างเก่าแก่ที่มีทั้งสตรีทแบรนด์ไปจนถึงแฟชั่นแนวโลลิต้าผู้ยิ๊งผู้หญิง ส่วนของคุณผู้ชายก็มีค่ะ พวกกระเป๋า รองเท้า คือเยอะมากจนตาลาย มาชินจุกุที่เดียวคือตอบโจทย์การช้อปปิ้งครบเลยทีเดียวค่ะ

การเดินทาง : จากสถานี Kawaguchiko นั่งรถไฟ Fuji Kyuko Line ประมาณ 57 นาที ไปลงที่สถานี Otsuki จากนั้นต่อ JR kaiji ประมาณ 1 ชั่วโมง ไปลงที่สถานี Shinjuku

ที่ตั้ง : 3 Chome-38-1 Shinjuku, Shinjuku City, Tokyo 160-0022 ญี่ปุ่น

พิกัด : https://goo.gl/maps/ubPn7KKUcjZku1EE8

วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) 

วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) แวะกันต่อก่อนกลับสนามบินที่ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ (Narita) ภายในจังหวัดชิบะ (Chiba) ที่นี่ข้อดีคือตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาตินาริตะค่ะ วัดแห่งนี้มีความเก่าแก่และมีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นวัดของศาสนาพุทธที่มีขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.940 ภายในวัดมีอาคารที่หลากหลายตั้งอยู่ในบริเวณที่กว้างขวาง เช่น ห้องโถงหลัก เจดีย์ 3 ชั้น มาดูวัดไหว้พระเอาสิริมงคลก่อนเดินทางกลับบ้านกันแล้ว คิดว่าสายช้อปปิ้งก็น่าจะถูกใจเช่นกัน เนื่องจากเส้นทางที่เดินเข้ามายังวัดนาริตะซัง คือถนนช้อปปิ้งโอโมเตะซังโดะ (Omotesando street) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่สถานีรถไฟเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย ทั้งของกิน ของใช้ รวมไปถึงร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวให้ได้ช้อปปิ้งกันแบบเพลินๆ กันเลยค่ะ 

การเดินทาง : จาก Tokyo Station นั่งรถไฟสาย Sobu Rapid Line ไปลงที่ Narita Station แล้วเดินเท้าต่อไปยังวัดประมาณ 16 นาที 

ที่ตั้ง : ญี่ปุ่น 〒286-0023 Chiba, Narita, 1番地

พิกัด : https://goo.gl/maps/oatyACcg7h96Uneo8

หลังจากเที่ยวกันเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลากลับสนามบิน Narita International Airport กันแล้ว จากวัดนาริตะซัง ขึ้นรถไฟที่สถานี Narita นั่ง JR Narita Line Rapid ประมาณ 9 นาที ก็มาถึงที่สถานี Narita Airport Terminal 2 และ 3 ค่ะ

และหากเพื่อนๆ คนไหนวันสุดท้ายไม่ได้แวะเที่ยวอะไร อยากนั่งรถไฟจากโตเกียวกลับสนามบินเลยก็ย่อมได้ สามารถขึ้นรถไฟ Narita Express จากสถานีโตเกียว ประมาณ 1 ชั่วโมง 3 นาที ก็มาถึงที่สถานี Narita Airport Terminal 2 และ 3 เช่นกันค่ะ

เชื่อว่าแพลนเที่ยวคุ้มค่า 5 วันติด ด้วย JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) คงทำให้ใครหลายคนเมมเกือบเต็ม สนุกฟินกระจาย ทั้งสายกิน สายเที่ยว สายช้อปปิ้ง ใครที่มีแพลนจะเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นตามเส้นทางเหล่านี้ก็เซฟแพลนไว้แล้วตามรอยไปเที่ยวด้วยกันนะคะ ^_^


VDO ที่เกี่ยวข้อง