10 ที่เที่ยวฮอกไกโด ห้ามพลาด เมื่อมี JR Hokkaido Pass

JR Hokkaido Pass สามารถใช้เที่ยวได้ทั่วเกาะฮอกไกโด ไม่จำกัดภายในพื้นที่ที่กำหนด และสามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟท้องถิ่น, รถบัส หรือรถไฟด่วน/ด่วนพิเศษสาย JR Hokkaido ซึ่ง JR Hokkaido มีอยู่ 2 แบบ คือ
แบบ 5 วัน ราคา 19,000 เยน
แบบ 7 วัน ราคา 25,000 เยน

ฮอกไกโด(Hokkaido) เมืองในฝันของใครหลายคนที่อยากไปให้ได้สักครั้ง ซึ่งการเดินทางในญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วก็ค่อนข้างสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ JR Hokkaido Pass เป็นทางเลือกที่ช่วยให้เราได้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่า ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีที่เที่ยวที่ไหนน่าไปกันบ้าง

Otaru, Japan historic canal and warehouse in summer twilight time, people are walking alongside the canal, famous tourist attraction of Sapporo, Hokkaido.

1. ซัปโปโร (Supporo) เป็นจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันที่เมืองซัปโปโร โดยในทุกๆปีจะมีการจัดงาน เทศกาลหิมะซัปโปโร  (SAPPORO SNOW FESTIVAL) การจัดแสดงประติมากรรมหิมะ-น้ำแข็งขนาดเล็กใหญ่มากมาย บริเวณลานโอโดริ (Odori Park) และลานซูซูกิโนะ (Susukino) โดยธีมของประติมากรรมหิมะในแต่ละปีจะแตกต่างกันออกไป ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์ จะเห็นว่ามีประติมากรรมน้ำแข็งรูปต่างๆ สวยงามมาก ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิดได้หยุดจัดงานไปหลายปี แต่กำลังจะมีข่าวดีในปีหน้า ปี2023 การท่องเที่ยวฮอกไกโดกลับมาจัดงานสโนว์เฟสติวัลอีกครั้ง งานจัดขึ้นวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2023 เตรียมจองตั๋วล่วงหน้ากันได้เลยนะคะ

2. โอตารุ (Otaru) เมืองแห่งความโรแมนติก ภายในเมืองมีอาคารและโกดังเก่าแก่ในสไตล์ตะวันตกแบบวิคตอเรียนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณเลียบคลองโอตารุ (Otaru Canal)  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมือง ในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมโกดังสีส้มริมแม่น้ำ จุดนี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum)  เป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเก่าแก่ของญี่ปุ่น และร้านขนมคิตะคะโระ (Kitakaro) ร้านซอฟท์ครีมที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด มีรสชาติต่างๆ มากมายหลากหลาย ให้เราได้แวะซื้อเป็นของฝากกันอีกด้วย
การเดินทาง : จากซัปโปโร โดยรถไฟ JR Hokkaido มาที่โอตารุ ใช้เวลาเพียง 30 นาที

The Old Warehouse along Otaru Canal, Famous Landmark of Otaru

3. ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองท่า เมืองเก่าของฮอกไกโด จะมีความเป็นยุคเก่าบวกกับความทันสมัยรวมกันอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ จุดท่องเที่ยวสำคัญอันดับแรกๆที่คนไทยชอบไปคือ ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku) เป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นมาในปลายยุคสมัยเอโดะ ในปัจจุบันเปิดเป็นสวนสาธารณะให้เข้าชมได้ ลักษณะพิเศษของที่นี่คือเป็นป้อมรูปดาว 5 แฉก หากไปเที่ยวในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงดอกซากุระบาน สวนสาธารณะแห่งนี้ปลูกต้นซากุระกว่า 100 ต้นตามแนวคูน้ำ ที่นี่จึงกลายมาเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เราสามารถชมความสวยงามของสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกซากุระ และที่สำคัญเราจะได้เห็นวิวป้อมดาวห้าแฉกจากมุมสูงได้ชัดเจนแบบ 360 องศา โดยขึ้นไปชมบนหอคอยโงเรียวกาคุ (Goryokaku Tower) ที่มีความสูงถึง 90 เมตร

4. จุดชมวิว ภูเขาฮาโกดาเตะ(Mount Hakodate) เราสามารถชมวิวอ่าวฮาโกดาเตะ ที่มองเห็นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสวยงามมาก จุดชมวิวนี้สามารถไปเที่ยวชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งถ้าเป็นในช่วงเวลากลางคืน เราจะเห็นแสงไฟส่องสว่างทั่วทั้งเมืองฮาโกดาเตะตัดกับสีพื้นน้ำและท้องฟ้า ทำให้ทัศนียภาพยามค่ำคืนงดงามโรแมนติกมาก จุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยงามหนึ่งในสามที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น

Hakodate, Hokkaido, Japan city skyline from Mt. Hakodate at dawn.
Hakodate City night view from Mt. Hakodate observatory, big bright moon light up the sea, golden reflection on surface. Famous scenic spot in the world. Hokkaido, Japan

5. เมืองฟุระโนะ (Furano) เป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในการชมทุ่งดอกไม้ที่มีดอกไม้หลากชนิดผลัดกันบานสะพรั่ง แต่ดอกไม้ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชมมากที่สุด คือทุ่งลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งทั่วเมืองฟุระโนะมากที่สุดในช่วงกลางเดือนกรกฏาคม ถึงสิงหาคม จุดชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดคือ โทมิตะฟาร์ม (Tomita Farm) นั่งรถไฟจากซัปโปโรไปลงที่ฟุระโนะ และไปต่อรถบัสของโทมิตะฟาร์ม เพื่อเข้าไปชมสวนดอกไม้ได้เลย

Woman and Child Tourists enjoy sightseeing Colourful Flower and Lavender Field at Tomita Farm in Summer, furano, Hokkaido, Japan
Shikisai No Oka Flower Garden with Blue Sky in Summer, Biei, Hokkaido, Japan
Colorful Lavender Flower Fields

6. ลานสกีฟูราโนะ (Furano Ski Area) เป็นสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงอย่างมากอีกเเห่งของฮอกไกโด โดยประมาณในเดือนเมษายน – พฤษภาคม เป็นช่วงที่สามารถเล่นสกีได้ ซึ่งเป็นลานสกีที่มีทั้งทางลาดต่ำสำหรับผู้ที่เริ่มหัดเล่นสกี หรือจะเป็นทางลาดชันสำหรับนักเล่นสกีที่มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น ลานสกีฟูระโนะ จึงได้รับความนิยมจากบรรดานักเล่นสกีเป็นอย่างมาก

7. ล่องเรือตัดน้ำแข็งที่อะบาชิริ (Abashiri Ice Breaker) จะล่องใต้ที่สุดของมหาสมุทรที่เป็นธารน้ำแข็ง โดยเรือจะพาล่องเข้าไปกลางแผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทร ให้บริการเฉพาะฤดูหนาวช่วงกลางเดือนมกราคม จนถึงเดือนเมษายนเท่านั้น
การเดินทาง : จากซัปโปโร นั่งรถไฟ JR Hokkaido มาที่สถานีอะบาชิริ และต่อรถบัสไปที่ท่าเรือ มีวันละประมาณ 4-5 รอบ ก่อนไปควรเช็คเวลาออกของเรือให้แน่นอนก่อนออกเดินทาง

8. หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu) หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ Hell Valley ที่มาของคำว่า นรก เพราะหุบเขาแห่งนี้มีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดน้ำพุร้อนออนเซ็น (Onsen) หากเข้าไปเที่ยวบริเวณบ่อความร้อนควรใส่หน้ากากอนามัย เพราะกลิ่นกำมะถันค่อนข้างแรงมาก ซึ่งที่นี่ถือเป็นความสวยงามที่ดูแปลกตาอีกที่นึเลยค่ะ

9.สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asakiyama Zoo) ถือเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไฮไลท์เของที่นี่คือ อุโมงค์แก้วเพนกวิน ซึ่งจะเป็นอุโมงค์ที่จะผ่านบริเวณสระว่ายน้ำของเจ้าเพนกวิน ทำให้เราได้เห็นเจ้าเพนกวินแบบใกล้ชิด และยังมีการแสดงโชว์เหล่าเพนกวินออกมาเดินโชว์ตัวท้าลมหนาว และสัตว์อื่นๆอีกมากมาย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Hokkaido มาที่สถานี Asakiyama

10. Niseko ski resort สกีรีสอร์ทที่มีครบทุกกิจกรรม ที่ล้อมรอบไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ มีเส้นทางสำหรับการเล่นสกีหรือทำกิจกรรมบนหิมะหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเหมาะกับนักสกีระดับชั้นต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ ถือว่าเป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น