เที่ยวเมืองดาไซฟุ (Dazaifu) ไหว้ศาลเจ้า เดินเล่นถนนคนเดิน ชิมขนมท้องถิ่นอร่อยๆ เที่ยวง่ายใน 1 วัน

จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) เป็นอีกจังหวัดน่าเที่ยวที่หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ยิ่งในช่วงหลังมานี้ ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเที่ยวได้ง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และนักท่องเที่ยวไม่แออัดจนเกินไปนัก 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ นอกเหนือจากการเที่ยวในตัวเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ก็คือ การออกไปเที่ยวเมืองดาไซฟุ (Dazaifu) อีกเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่เดินทางจากตัวเมืองฟุกุโอกะ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น สามารถเที่ยวได้แบบสบายๆ ใน 1 วัน ใครมีแพลนเที่ยวฟุกุโอกะ แล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศออกไปนอกเมืองแบบเดินทางไม่ไกลมาก ที่นี่ก็น่าสนใจดี

IMG 2935

การเดินทาง จากตัวเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) เริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Nishitetsu – Fukuoka Station ไปลงที่สถานี Nishitetsu – Futsukaichi Station จากนั้น เปลี่ยนสายไปลงที่สถานี Dazaifu Station ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง รวมใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 26 นาที (ค่าโดยสาร 420 เยน)

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองดาไซฟุ (Dazaifu) มาถึงที่นี่ทั้งที ก็ต้องมาไหว้สักการะ “ศาลเจ้าดาไซฟุ” (Dazaifu Tenmangu Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคเฮอัน ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการเคารพในฐานะเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้ โดยมีชื่อเสียงอย่างมากเกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนรู้ ดังนั้น ผู้คนที่มาเยือนที่นี่ส่วนใหญ่มักจะมาขอพรกันเรื่องการเรียน ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวชมที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ก็จะพบเห็นบรรดา นักเรียน นักศึกษา เข้ามาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย

62213E2D EF4D 4A10 BCDD 4F6D1F64CEBE 21924 00003F383933081C 1
86B46C35 59B1 4DDC 9035 5168C5DF2845 21924 00003F383E9D5552 1

เส้นทางเดินเข้าสู่ตัวศาลเจ้าดาไซฟุ จะเป็นสะพานขนาดใหญ่สีแดงสดทอดตัวผ่านบึงน้ำ ซึ่งมีชื่อว่า “Taiko Bridge” เป็นสะพานที่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ซึ่งมีความหมายถึง “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต” โดยมีความเชื่อว่า “หากได้ข้ามสะพานนี้ จะเป็นการช่วยชำระร่างกายและจิตใจ ก่อนที่จะเข้าไปสู่ศาลเจ้า”

003189AF 4D1E 4D83 9A4B DA2965DC4615 21924 00003F381D613957

การมาเที่ยวชม “ศาลเจ้าดาไซฟุ” ในช่วงนี้ (2024) อาจจะดูแปลกตาไปจากเดิม เพราะตัวศาลเจ้าอยู่ระหว่างการซ่อมแซม โดยจะมีการสร้างอาคารศาลเจ้าชั่วคราวไว้เพื่อเป็นที่สักการะขอพร ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวอาคารดั้งเดิม แต่ก็มีเรื่องราวการออกแบบที่น่าสนใจ 

ในส่วนของศาลเจ้าชั่วคราวนั้น เป็นศาลเจ้าที่ออกแบบได้อย่างสวยงามและดูร่วมสมัย เป็นการออกแบบโดยสถาปนิก Sousuke Fujimoto สื่อแนวคิดเหมือนป่าลอยน้ำ แสดงออกถึงความเป็นธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์รอบๆ ศาลเจ้าดาไซฟุ โดยจุดเด่นอยู่ที่หลังคาของศาลเจ้าชั่วคราว จะมีการปลูกต้นไม้ต่างๆ ทั้งต้นบ๊วยและพืชจากพื้นที่บริเวณรอบๆ ศาลเจ้า และเมื่อการซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อย ต้นไม้ต่างๆ ก็จะย้ายกลับไปยังป่าในบริเวณศาลเจ้าเหมือนเดิม โดยมีกำหนดการซ่อมแซมใช้ระยะเวลา 3 ปี

39224EA2 D52D 4985 9E97 AF4FC8E7818D 21924 00003F3836818B24
9178FF96 A2BB 4264 ACC4 ECA54F407D26 21924 00003F383180EC93

อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้ามาสักการะศาลเจ้า ก็คือ “นาเดอุชิ” รูปปั้นวัวที่ความเชื่อกันว่า “ถ้าได้ลูบตรงส่วนไหนของรูปปั้นวัว จะทำให้อาการเจ็บปวดที่ร่างกายตรงส่วนนั้นทุเลาบรรเทาลงได้” อย่างเช่น ถ้ามีอาการปวดเมื่อยที่ขา ก็ลูบที่ส่วนขาของวัว เป็นต้น หรือ ถ้าใครได้ลูบหัวรูปปั้นวัว “นาเดะอุชิ” ก็จะเป็นคนหัวดี ฉลาด มีโชคในการสอบอีกด้วย

168B6CE9 E300 4A34 8097 B1A772E0C0F7 21924 00003F3851C21BBF

“ศาลเจ้าดาไซฟุ” (Dazaifu Tenmangu Shrine) สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี มีบรรยากาศความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล อย่างเช่น ช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม) จะเป็นช่วงที่ดอกบ๊วยบาน โดยสวนบ๊วยที่อยู่รอบศาลเจ้าก็จะออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม หรือ ช่วงเข้าสู่หน้าร้อน (เดือนมิถุนายน – กรกฏาคม) ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) หรือ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกอาจิไซ (Ajisai) กำลังเบ่งบานอวดสีสันสวยงามให้ได้ชม และทางศาลเจ้าก็จะเตรียม “ฮานะโชซุ” (Hana Chouzu) ดอกไฮเดรนเยียหลากสีสันที่ลอยอยู่ในบ่อที่ไว้สำหรับชำระล้างก่อนเข้าสู่ศาลเจ้า

80277B7D 36CA 40A0 A22B 41E71346F865 21924 00003F3823C7FE62 1
ADF97EBE 45F0 44AF A0FB 206CF9725AA6 21924 00003F383BF82B10

ภายในบริเวณศาลเจ้า สามารถเลือกซื้อเครื่องรางเพื่อให้มีความโชคดี หรือ ถ้าใครอยู่ในช่วงของการสอบแข่งขัน ก็ยังมีดินสอ 2B ของศาลเจ้า สำหรับเลือกซื้อหาไว้ไปใช้ในการสอบแข่งขันต่างๆ ได้

หลังจากที่ไหว้สักการะ “ศาลเจ้าดาไซฟุ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมาเดินเล่นที่ถนนคนเดินซันโด หรือ  Monzenmachi กันต่อ เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟ Dazaifu Station และ ศาลเจ้าดาไซฟุ มีความยาวประมาณ 200 เมตร โดยสองข้างทางของถนนจะเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย

IMG 2935 1

ที่นี่ ขึ้นชื่อเรื่องขนมท้องถิ่น มีร้านขนมหวานมากมายให้ได้ลองชิม และขนมที่ต้องไม่พลาดลองชิม ก็อย่างเช่น “อุเมะกาเอะโมจิ” ขนมเค้กข้าวปิ้งยัดไส้ถั่วแดง รสชาติหอมอร่อย ซึ่งภายใน ถนนคนเดินซันโด ก็มีร้านจำหน่าย “อุเมะกาเอะโมจิ” ให้เลือกชิมอยู่หลายร้าน

IMG 2939 1
IMG 2937
IMG 2938

ร้านขนมหวานญี่ปุ่น มักจะเป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มีเมนูแนะนำหลายเมนู อย่างเช่น “Kakuni Manju” มันจูไส้หมูสามชั้น ตุ๋นมาแบบนุ่มๆ หุ้มด้วยแป้งซาลาเปา, “Ichigo Daifuku” ขนมไดฟุกุไส้สตรอว์เบอร์รี่ทั้งลูกแบบเต็มคำ หวานฉ่ำอร่อย หรือ เมนู “Ice Bar” ไอศกรีมรูปแบบใหม่ ภายในมีสตรอเบอร์รี่ที่หั่นเป็นชิ้นเหมือนแช่แข็งเคี้ยวกรุบๆ ไว้ข้างไหน มีความหนึบนอก กรุบใน จุดเด่นอยู่ที่ความหนึบของตัวไอศกรีม เวลาละลายจะไม่ไหลย้อยลงมา เป็นเมนูที่จะมีจำหน่ายเฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น

IMG 2940
IMG 2943
IMG 2944

และ จุดเช็คอินถ่ายรูปห้ามพลาดของถนนคนเดินแห่งนี้ ก็คือ Starbucks สาขา Dazaifu Tenmangu เป็นอีกสาขาที่มีการออกแบบที่สวยสะดุดตา ออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อ คุมะ เคนโกะ (Kuma Kengo) โดยใช้เทคนิคสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นโบราณ โดยใช้ท่อนไม้ 2,000 ท่อน มาประกอบเข้าด้วยกันเป็นโดยไม่ใช้ตะปู เป็นผลงานการออกแบบที่เรียบง่ายสวยงาม จนนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาเป็นอันต้องแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

IMG 2942
IMG 2945

นอกจากนี้ ก็ยังมีร้านค้าต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย สามารถเดินชมหรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก กลับไปเป็นของฝากได้ ช้อปปิ้งกันได้อย่างเพลินเลย 

65CF15FC 265B 4978 A71C E40386ABF8C9 21924 00003F382EF544E1

มาเที่ยว “ดาไซฟุ” (Dazaifu) วันเดียวได้เที่ยวอย่างสุดคุ้ม ได้ไหว้สักการะขอพรศาลเจ้า และมูเครื่องรางเพื่อความโชคดี ได้ชิมเมนูท้องถิ่นอร่อยๆ พร้อมช้อปของฝากของที่ระลึกไม่เหมือนใคร เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่ต้องมาเยือนสักครั้ง!