แจกแพลนเที่ยว : ตะลุย TOKYO 1 วัน พร้อมพิกัดที่เที่ยวโตเกียวที่ไม่ควรพลาด
“โตเกียว” เมืองหลวงของประเทศญีปุ่นที่ไม่เคยหลับใหลและเต็มไปด้วยแสง สี เสียงตระการตา เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบทั้งเรื่องสถานที่ทางประวัติศาสตร์น่าสนใจ ห้างสรรพสินค้า จุดช้อปปิ้ง รวมถึงไฮไลท์จุดที่ต้องเช็คอินให้ได้เมื่อมาถึงญีปุ่น Japan All pass รวมมาให้แล้วทั้ง 9 ที่เที่ยวโตเกียว ยอดนิยม แถมยังเที่ยวง่าย โดยใช้บัตรเดินทาง JR ด้วย จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย
1. พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace Tokyo)
ถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดย พระราชวังอิมพีเรียล ตั้งอยู่บนพื้นที่ของปราสาทเอโดะเดิม และถูกบูรณะมาจนเป็นพระราชวังในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ รายล้อมด้วยคูน้ำและกำแพงหินขนาดใหญ่
ไฮไลท์ : พื้นที่สวนตะวันออก (East Gardens) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังชั้นใน เปิดให้เข้าชมฟรี แนะนำมาในช่วงซากุระบาน และยังมี สะพานนิจูบาชิ (Nijubashi Bridge) เป็นจุดที่นิยมถ่ายรูปเพราะเมื่อมองจากด้านข้าง มุมโค้งของสะพานเมื่อสะท้อนกับผิวน้ำ คล้ายทรงแว่นตา จึงมีอีกชื่อเรียกว่า สะพานแว่นตา
นอกจากนี้ยังมีบริการนำเที่ยวชมพระราชวังตลอดทั้งปี มี 2 รอบต่อวัน คือ 10.00 และ 13.30 น. โดยมีบริการจองล่วงหน้าทางออนไลน์ หรือถ้าใครอยากเข้าชมในวันนั้น ให้ไปก่อนเวลาเริ่มทัวร์ ลงทะเบียนที่ประตู Kikyomon Gate ได้เลยค่ะ
พิกัด Imperial Palace, Tokyo, Japan
https://maps.app.goo.gl/zZzxJjqWKT6z7iwm8
วิธีเดินทาง : เดินจากสถานี Tokyo เป็นระยะเวลา 10 นาที
วัน-เวลาทำการ :
ปิดทุกวันจันทร์ และ อาทิตย์ (รวมถึงวันหยุดประจำชาติ)
วันอังคาร – พฤ และวันเสาร์ : 9:00–11:15 และ 13:30–14:45
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ฟรี (สำหรับสวนตะวันออก)
2. ศูนย์การค้า โยโกะบาชิ อะกิบะ (Yodobashi-Akiba)
‘Yodobashi-Akiba’ อาณาจักรของคนรักไอทีและเทคโนโลยีในย่าน อากิฮาบาระ กรุงโตเกียวแหล่งรวมร้านค้าขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีทั้งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายชนิด เช่น กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เสริม รวมถึงของเล่นสุดเจ๋ง การ์ตูน อนิเมะ และยังมีร้านอาหารและคาเฟ่เพื่อให้ได้พักผ่อนกันระหว่างช้อปปิ้งอีกด้วย
ไฮไลท์ : ความครบครันและหลากหลายของสินค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีให้เลือกอย่างมากมายและมีการแสดงสินค้าตัวอย่างให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้ด้วย ส่วนใครเป็นสายกาชาปอง แนะนำวิ่งขึ้นชั้น 6 แน่นๆ จุกๆ แน่นอน
พิกัด Yodobashi-Akiba
https://maps.app.goo.gl/DGJ13ckFsr5tRd36A
วิธีเดินทาง : เดินจากสถานี Akihabara 8 นาที
วัน-เวลาทำการ : 9.30 – 22.00 น. (ทุกวัน)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ฟรี
3. สวนสาธารณะ อุเอโนะ (Ueno Park)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ‘Ueno Park’ ตั้งอยู่ในย่าน Ueno ของกรุงโตเกียวที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งตั้งอยู่ภายในสวน เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โตเกียว (Tokyo National Museum) พิพิธภัณฑ์ศิลปะ บึงน้ำ Shinobazu และสวนสัตว์อูเอโนะ (Ueno Zoo) สวนสัตว์แห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย
ไฮไลท์ : ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ Ueno Park ถือเป็นจุดยอดนิยมของการชมดอกซากุระนับ 1,000 ต้น ที่บานสะพรั่ง ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม (แล้วแต่สภาพอากาศ)
พิกัด UENO Park
https://maps.app.goo.gl/D28Anrn87d6kEqj18
วิธีเดินทาง : เดินจากสถานี Ueno เป็นเวลา 5 นาที (เลือก Park Exit)
วัน-เวลาทำการ : 05.00 – 23.00 น. (ทุกวัน)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ไม่มี (ยกเว้นส่วนอื่นๆ เช่น สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ฯ เป็นต้น)
4. ตลาดคนเดิน อาเมโยโกะ (Ameyoko Shopping Street & Market)
ตลาดสดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาในย่านอุเอโนะ หรือที่เรียกกันว่า Ameya-Yokocho ตั้งอยู่ระหว่างสถานี Ueno และ Okachimachi โดยชื่อ “อะเมโยโกะ” เป็นคำย่อของ “อะเมยะโยโกโช” (ตรอกร้านขายขนม) เนื่องจากเดิมทีที่นี่มักขายขนมกัน ในปัจจุบันกลายเป็นหล่งช็อปปิ้งที่มีทั้งของคาว ของสด ขนม เสื้อผ้า เรียกว่าถ้าอยากได้บรรยากาศของตลาดแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และหาซื้อของต่างๆ ในราคาที่คุ้มค่าให้นึกถึงที่นี่ได้เลย
ไฮไลท์ : เป็นถนนที่รวมความสนุกครึกครื้นของตลาดสด และยังเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร สตรีทฟู๊ดสไตล์ญีปุ่นดั้งเดิมไว้ ไม่ว่าจะคนวัยไหน ก็สนุกร่วมกันได้ที่นี่ ถ้าให้เทียบคงเหมือนสตรีทฟู๊ด เยาวราชบ้านเรา ที่มีครบทุกรูปแบบ ห้ามพลาดเชียวนะคะ
พิกัด Ueno Ameyoko Shopping District
https://maps.app.goo.gl/sjLhuz1uck8Cf4M9A
วิธีเดินทาง : เดินจากสถานี Ueno เป็นเวลา 10 นาที (map 5 นาที)
วัน-เวลาทำการ : 10:00 – 20:00 น. (ทุกวัน)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ไม่มี
5. ร้านค้าทาเคยะ (Takeya Discount Store)
เดินมาไม่ไกลจากตลาด อาเมโยโกะ ต้องมาแวะที่ “ทาเคยะ” หรือที่คนไทยเรียกว่า ตึกม่วงอุเอโนะ เป็นร้านค้าที่ขายสินค้าปลอดภาษีที่มีสินค้าหลากหลายประเภท ในราคาประหยัด ตั้งแต่ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงของฝากและของที่ระลึก สินค้าพรีเมียมที่ไม่ได้พบเห็นโดยทั่วไป และมีในส่วนของ Lady hall มีสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ และเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิง
ไฮไลท์ : ที่นี่เรียกว่าโปรโมชั่น ส่วนลดแน่นๆ ซัพพอร์ตคนไทยสุดๆ เพราะมีโปรโมชั่นพิเศษกับค่ายมือถือและบัตรเครดิตไทยอีกด้วย ด้วยความเป็นร้านค้าที่ขอคืนภาษีได้ จึงเหมาะสำหรับแวะซื้อของฝาก จนหลายๆ คนเรียกว่า “ย่านละลายทรัพย์”
ปัจจุบันจะแบ่งเป็น 2 ตึก คือ Takeya 1 (อาหารและสินค้าความงาม) และ Takeya 3 หรือตึกม่วง (เน้นสินค้าแฟชั่น ยาและเครื่องสำอางผู้หญิง) โดยมีระยะเวลาเปิดปิดไม่เท่ากัน
พิกัด Takeya (ตึกม่วง)
https://maps.app.goo.gl/ADg461qK3bEppFR9A
วิธีเดินทาง : เดินจากสถานี Ueno เป็นเวลา 10 นาที (map 5 นาที)
วัน-เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน โดยแตกต่างตามสาขาและตามเทศกาล
Takeya 1 : 9:00 – 21:00 น.
Takeya 3 : 10.00 – 19.00 น.
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ไม่มี
6. วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเก่าแก่คู่บุญของเมืองโตเกียว ‘วัดเซ็นโซจิ (浅草寺, Sensōji) เป็นอีกหนึ่งวัดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สร้างมาตั้งแต่สมัยปี ค.ศ. 647 ถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองโตเกียว จุดเด่นแรกเมื่อมาถึงวัด คือ ประตูคามินาริมง (Kaminarimon gate) ประตูยักษ์ใหญ่ที่มีสัญลักษณ์ของย่าน อะซากุสะ ก่อนเดินผ่านถนน Nakamise เพื่อเข้าสู่ภายในวัด มีการประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่ห้องโถงหลัก Hondo และเจดีย์ 5 ชั้น
ไฮไลท์ :ตลอดระยะทาง 200 เมตร จากประตู คามินาริมง ไปจนถึงประตูชั้นใน บนถนน Nakamise เต็มไปด้วยร้านขายขนม พัด ของที่ระลึกและบริการให้เช่าชุดยูคาตะ ที่ทุกคนสามารถเข้าไปไหว้พระและใกล้ชิดกับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ วัดเซ็นโซจิ ยังมีการจัดงานเทศกาลประจำปี “Sanja Matsuri” เป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโตเกียว ช่วงพฤษภาคม และเทศกาลอื่นๆ ที่น่าสนใจตลอดทั้งปี
พิกัด Sensoji Temple
https://maps.app.goo.gl/nCwQTh7azUUX89Di9
วิธีเดินทาง : สามารถใช้สาย Tokyo Metro Ginza Line และลงที่สถานี Asakusa เดินต่อ 5 นาที
วัน-เวลาทำการ : ภายในห้องโถงหลัก เปิดบริการ ตั้งแต่ 06.00-17.00 น.
(ตั้งแต่ 06.30 น. ตั้งแต่เดือนตุลาคม-มีนาคม)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ไม่มี
7. เส้นทางเท้าริมแม่น้ำซูมิดะ (Sumida River Walk)
เป็นเส้นทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่างวัดเซ็นโซจิ (Sensoji temple) และ Tokyo Skytree ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมสำหรับการเดินเล่นและชมวิวที่งดงามของแม่น้ำและเมืองโตเกียว และยังเป็นจุดล่องเรือยอดนิยมยิ่งในช่วงซากุระบาน ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ห้ามพลาด
ไฮไลท์ : สามารถไปยืนถ่ายรูปวิวเมืองกับสะพานข้ามแม่น้ำมิซูดะ (Sumida River Bridge) โดยช่วงเวลาที่ดีสำหรับการถ่ายรูป คือ ช่วงเย็นเมื่อแสงไฟของเมืองสะท้อนลงบนผิวน้ำ และยังสามารถชมวิวของ Tokyo Skytree สัญลักษณ์ของโตเกียวได้อีกด้วย
พิกัด Sumida River Walk
https://maps.app.goo.gl/fBKLWimP56YXTP3dA
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line และลงที่สถานี Asakusa เดินต่อ 8 นาที หรือ เดินต่อจากวัดเซ็นโซจิได้เลย
วัน-เวลาทำการ : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (ยกเว้น Sumida River Bridge ที่ปิดในตอนกลางคืน)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ไม่มี
8. แหล่งรวมร้านค้า “โตเกียว มิซึมะชิ” (Tokyo Mizumachi )
เป็นแหล่งร้านค้าและร้านอาหารที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานี Asakusa และ Tokyo Skytree ติดริมแม่น้ำ Sumida โดยถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงความทันสมัยของ Tokyo Skytree กับความดั้งเดิมของย่าน Asakusa เข้าด้วยกัน กลายเป็นคอมมูนิตี้โซนใหม่ที่มีทั้งความร่วมสมัย และสร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสถึงย่าน Asakusa มากขึ้น
ไฮไลท์ : นอกจากจะเป็นคอมมูนิตี้โซนที่รวมเอาร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่สวยเก๋ โฮสเทลและร้านขายของฝาก น่ารักๆ ยังมีพื้นที่กิจกรรม อีเว้นท์ได้อีกด้วย
พิกัด Tokyo Mizumachi
https://maps.app.goo.gl/3VeXuzPrAzQCH6hq5
วิธีเดินทาง : จากสถานี Asakusa เดินต่อ 3 นาที
วัน-เวลาทำการ : 10.00 – 20.00 น. (เวลาเปิดอาจแตกต่างตามแต่ละร้านค้า)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ไม่มี
9. หอคอยโตเกียว สกายทรี (Tokyo Skytree)
นี่คือ หอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียว ใครไม่มาถ่ายรูปกับที่นี่ถึอว่ามาไม่ถึง! ด้วยความสูงถึง 634 เมตร (2,080 ฟุต) จึงสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองโตเกียวได้ที่ระดับความสูงที่แตกต่างกัน โดยที่ฐานของ Tokyo Skytree (Tokyo Solamachi) ยังมีร้านค้า ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Sumida Aquarium)
ไฮไลท์ : Tembo Deck (ชั้นชมวิวที่ 1) และ Tembo Galleria (ชั้นชมวิวที่ 2) เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของ Tokyo Skytree มีทางเดินลาดชันที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในอากาศ
พิกัด Tokyo Skytree
https://maps.app.goo.gl/WcJqgsDbXCR7Qzqn6
วิธีเดินทาง : จากสถานี Asakusa เดินต่ออีก 10 นาที
วัน-เวลาทำการ :
9:00 – 21:00 น. สำหรับ Tembo Deck และ Tembo Galleria (รอบสุดท้าย 20.00 น.)
10.00 – 21.00 น. สำหรับร้านค้าบริเวณ Tokyo Solamachi (เวลาปิดอาจแตกต่างตามร้าน)
ค่าธรรมเนียมเข้าชม :
ราคาตั๋วของ Tembo Deck ~2,100 – 3,100 เยน (ขึ้นอยู่กับวันและเวลา)
ราคาตั๋วของ Tembo Galleria ชำระเพิ่มอีก 1,000 เยน เพื่อขึ้นไปชั้นถัดไป
เต็มอิ่ม จุใจกับสถานที่เที่ยว โตเกียว ทั้ง 9 แห่ง เรื่องการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมเตรียมตัวช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วย แพ็คเกจจาก Japan All Pass ที่รวมการเดินทางโดย [ Keisei Skyliner + Tokyo skytree + Tokyo Subway ] ครอบคลุมการเดินทางภายในเมืองโตเกียว และสะดวกยิ่งกว่าแบบไม่มีอะไรมากั้น ด้วย eSim แพ็คเกจ 5G ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกอัพเดทในโลกโซเชียล จะไปกี่วันก็เลือกได้เลย
สรุปแพลนเที่ยว ต้องมีอะไรบ้าง
1.Keisei Skyliner
https://shorturl.asia/VeoYW
2.Tokyo Subway 72H
https://shorturl.asia/VeoYW
3.Tokyo Skytree 350M
https://shorturl.asia/VeoYW
4.eSim
- eSIM Plus+ เน็ตเร็วเต็มสปีด แชร์ Mobile Hotspot
https://shorturl.asia/GUn9i - e-SIM Japan Unlimited 5Mbps ฟรี เน็ตเต็มสปีด 1GB
https://shorturl.asia/10PWj - e-SIM Japan Unlimited เน็ตไม่ลดสปีด
https://shorturl.asia/frlsQ