1 วัน เที่ยว “นารา” เมืองที่เต็มไปด้วยกวาง เที่ยวง่าย เดินทางสะดวก จาก โอซาก้า วันเดียวก็เที่ยวได้
ถ้าพูดถึงเมือง นารา(Nara) ก็ต้องนึกถึง “กวาง” สัตว์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองนารา ที่ใครได้มีโอกาสมาเที่ยวชมเมืองนี้ ก็จะได้พบกับฝูงกวางจำนวนนับพันที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระ เป็นบรรยากาศการท่องเที่ยวที่หลายคนอยากมาสัมผัส ได้มาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ พร้อมได้ถ่ายรูปเล่นกับกวางหรือลองให้อาหารกวาง เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจดี
นารา(Nara) เป็นอีกเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ที่อยู่ไม่ไกลจาก โอซาก้า(Osaka) สามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวได้อย่างง่ายๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง เท่านั้น ไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ได้อย่างสบาย มีเวลาวันเดียวก็เที่ยว “นารา” ได้
การเดินทางด้วยรถไฟ จากเมือง “โอซาก้า” นั่งรถไฟสาย Kintetsu Nara Line ไปลงที่สถานีรถไฟ Kintetsu-Nara Station ใช้เวลาเดินทาง 35 นาที(ค่าโดยสาร 680 เยน) ซึ่งรถไฟ Kintetsu Nara Line ในบางขบวนก็จะมีการตกแต่งเป็นธีมน้องกวางน่ารักๆ โดยทั้งขบวนรถไฟจะเต็มไปด้วยลวดลายของน้องกวาง ไม่ว่าจะเป็นที่ ประตู หน้าต่าง เบาะที่นั่ง ราวจับ ต่างก็เป็นลายน้องกวาง ชวนให้น่านั่งเป็นอย่างมาก
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีปลายทางที่เมือง นารา(Nara) เดินออกมากจากสถานีรถไฟต่อไปไม่ไกล ก็จะเริ่มพบเห็นกวางออกมาทักทาย โดยเฉพาะที่ สวนสาธารณะนารา(Nara Park) อันเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนารา ซึ่งที่นี่ก็จะได้พบกับบรรดาฝูงกวางนับพันตัวกระจายตัวอยู่รอบบริเวณ เดินไป เดินมา ใช้ชีวิตอย่างอิสระ พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตามสวนสาธารณะ ฟุตบาท ทางเดิน หรือ ตามมุมต่างๆ โดยรอบของสวนแห่งนี้
ภายใน สวนสาธารณะนารา(Nara Park) มีจุดจำหน่ายอาหารกวาง สำหรับคนที่อยากให้อาหารน้องกวางด้วย โดยจำหน่าย ชุดละ 200 เยน สามารถนำอาหารไปให้กวางได้อย่างใกล้ชิด แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้กวางกัดหรือแย่งสิ่งของด้วยนะ
สำหรับจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนารา(Nara) ที่ใครๆ ก็ต้องเข้ามาเที่ยวชม ก็คือ วัดโทไดจิ(Todai-ji) วัดเก่าแก่ในศาสนาพุทธ ที่มีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต(หรือ ไดบุตสึ) ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยประดิษฐานในวิหารไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมจากยูเนสโก
ทางเข้าสู่ “วัดโทไดจิ” จะเป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม เมื่อผ่านประตูเข้าไปก็จะพบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย โดยเฉพาะนักเรียนที่เข้ามาทัศนศึกษา รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศที่แวะเวียนเข้ามาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย
ภายใน “วัดโทไดจิ” จะมีวิหารไม้ขนาดใหญ่ อันเป็นที่ประดิษฐานของ “ไดบุตสึ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่มีความสูงราว 15 เมตร และหนักราว 500 ตัน และมีรูปปั้นโพธิสัตว์ อยู่ด้านหลังของพระพุทธรูปไดบุตสึด้วย
อีกจุดน่าสนใจของ “วัดโทไดจิ” ก็คือ เสาไม้ขนาดใหญ่ ของวิหารไม้ ที่บริเวณตรงโคนเสาด้านล่างจะเป็นช่องขนาดเล็ก ซึ่งมีความเชื่อว่า.. “ถ้าใครสามารถลอดผ่านช่องเสาขนาดเล็กนี้ไปได้ ก็จะเป็นผู้ที่ตรัสรู้ได้ในชาติหน้า” จึงเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมารอต่อแถวลองลอดช่องของเสากันเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสมาเที่ยว “วัดโทไดจิ” ก็ลองมาลอดช่องนี้กันได้
ห่างจาก วัดโทไดจิ(Todai-ji) ไปไม่ไกล เดินมาเที่ยวต่อที่ วัดโคฟุคุจิ(Kofuku-ji) วัดในศาสนาพุทธ ที่มีความเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งแต่ยุคสมัยที่นาราเป็นเมืองหลวง เป็นวัดประจำตระกูล Fujiwara ตระกูลขุนนางใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในสมัยนั้น โดยจุดเด่น ของ วัดโคฟุคุจิ(Kofuku-ji) คือ เจดีย์ 5 ชั้น ที่มีความสูงถึง 50 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ เมืองนารา(Nara) ก็ยังมี จุดเช็คอิน จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ให้ได้เลือกเที่ยวชม เป็นเมืองที่เที่ยวง่าย เดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่าง รถไฟ เดินทางได้ง่าย จาก โอซาก้า ใครมีโอกาสไปเที่ยว “โอซาก้า” ก็อย่าลืมใส่เมือง “นารา” เข้าไปในลิสแพลนท่องเที่ยวได้เลย!