โอซาก้า สู่มิเอะ-อิเสะชิมะ เที่ยวสบายด้วย Kintetsu Rail Pass

โอซาก้า สู่มิเอะ-อิเสะชิมะ เที่ยวสบายด้วย Kintetsu Rail Pass

เส้นทางท่องเที่ยวโดย Kintetsu Rail Pass พาสที่ใช้เที่ยวเมืองสำคัญได้ถึง 5 เมืองใหญ่ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา มิเอะ และ นาโกย่า เส้นทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อาหารท้องถิ่น รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามทางธรรมชาติ ตลอดเส้นทางที่จะทำให้เราได้เรียนรู้และมีความสุขตลอดเส้นทาง

แอดจะมาแนะนำที่เที่ยวระหว่างเส้นทางจากโอซาก้า สู่มิเอะ-อิเสะชิมะ ด้วย Kintetsu Rail Pass การเดินทางที่จะทำให้เพื่อนๆ คุ้มค่าและสนุกไปตลอดทาง ตามไปดูกันเลยค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง

ย่านชินไซบะชิ – นัมบะ (Shinsaibashi-Namba) โอซาก้า (Osaka)

บริเวณชินไซบาชิ – นัมบะ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าย่าน มินามิ (Minami) เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโอซาก้า นับเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง มีทั้งห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายตั้งแต่ไปจนถึงย่านร้านค้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ย่านร้านค้าชินไซบาชิ มีร้านเสื้อผ้าและร้านอาหารเรียงรายกันอยู่เกือบ 200 ร้าน ทางทิศตะวันตกคือย่านแฟชั่น Americamura มีร้านเสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่นมากมาย ส่วนทางทิศใต้ก็มีย่านนัมบะ ซึ่งย่านโดทงโบริ (Dotonbori) จะมีป้ายกูลิโกะ (Glico) และป้ายรูปปูคานิโดระคุ (Kanidoraku) ก็จะอยู่ติดกันถือเป็นจุดแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

Osaka, Japan – 14 July 2018 – Dotonbori is visited by many tourists from the country abroad.
Osaka, Japan – 21 Nov 2018 – Dotonbori River in Namba, Osaka, Kansai, Japan

การเดินทาง : เดินจากสถานีโอซาก้า-นัมบะ ประมาณ 2 นาที

ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market)

ตลาดใจกลางเมืองโอซาก้า มีทั้งร้านขายอาหารสด อาหารพร้อมทาน ผักผลไม้ และของใช้ต่างๆ ที่สุดไฮไลท์ยกให้เป็นซีฟู้ด ปูยักษ์ กุ้ง หอย ซึ่งมีแบบทำสำเร็จบอกเลยว่าสะดวกมาก เรียกได้ว่าเป็นแหล่งของกินยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวสายกินห้ามพลาด มาเดินตลาดนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวังเรื่องของกินแน่นอน

เปิดบริการ : ทุกวัน 9:00 – 18:00

การเดินทาง : เดินจากสถานีคินเท็ตสึ-นิปปมบะชิ ประมาณ 3 นาที

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

แลนด์มาร์คของเมืองโอซาก้า เป็น 1 ใน 3 เป็นปราสาทที่งดงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และโบราณวัตถุอันล้ำค่าที่สะท้อนถึงเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี ปราสาทมีทั้งหมด 8 ชั้นด้วยกัน ตั้งแต่ชั้นที่ 1-7 จะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของปราสาท รวมถึงชีวประวัติของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้สร้างปราสาทโอซาก้า

ส่วนชั้นที่ 8 จะเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองโอซาก้า และสวนปราสาทโอซาก้า สวนสาธารณะที่สวยงามอันเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง มีต้นซากุระเรียงรายถึง 300 ต้น ต้นบ๊วยกว่า 100 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 1,270 ต้น ต้นแอพริคอต และดอกไม้ต่าง ๆ ที่บานสะพรั่งทั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง หรือจะนั่งเรือโกซาบุเนะเพื่อชมทิวทัศน์ของปราสาทได้อีกด้วย

เวลาเปิดทำการ : 9:00 – 17:00 (ปิดรับเข้า 16:30)

การเดินทาง : เดินจากสถานีทะนิมะชิยนโชเมะ (รถไฟใต้ดินโอซาก้า ต้องมีค่าโดยสารแยกต่างหาก) ประมาณ 18 นาที

การเดินทางจากโอซาก้า สามารถไปเที่ยว มิเอะ-อิเสะชิมะ สะดวกสบายด้วย Kintetsu Rail Pass ซึ่งมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย

ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Shrine)

ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานประมาณ 2,000 ปี และมีชื่อเสียงในฐานะศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ชื่ออย่างเป็นทางการคือ “จิงกู” จิงกู บ้านแห่งจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากถึง 7 ล้านคนทุกปี ศาลเจ้าอิเสะเป็นชื่อทั่วไปของศาลเจ้าหลักสองแห่ง ได้แก่ ศาลเจ้าด้านในและด้านนอก และศาลเจ้าอื่นๆ อีก 123 แห่ง แบ่งออกเป็นส่วนหลักๆ ที่ศาลเจ้ามีเทศกาลต่างๆ มากมาย และว่ากันว่ามีการจัดเทศกาลประมาณ 1,500 เทศกาลในแต่ละปี

ชิคิเน็นเซ็นกุเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดที่ศาลเจ้าอิเสะจิงกู ซึ่งดำเนินมายาวนานกว่า 1,300 ปี ศาลเจ้าและประตูโทริอิจะถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกๆ 20 ปี ไม้จากศาลเจ้าที่พังยับเยินจะถูกนำมาใช้เป็นประตูโทริอิใหม่ และอีก 20 ปีต่อมา ไม้จากประตูโทริอิจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างศาลเจ้าอื่นๆ ขึ้นมาใหม่

(C)”Visit ISESHIMA” Bureau

ศาลเจ้าอิเซะจิงงู – เกะกู (โทะโยะอุเกะไดจิงงู) (Ise Jingu / Geku )  

ที่ศาลเจ้าอิเซะจิงงู เป็นธรรมเนียมที่สืบทอดกันมาว่าผู้เข้าชมจะไปที่เกะกูก่อน แล้วจึงไปที่ไนกู ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างมานานกว่า 1,300 ปี เพื่อเป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้กับโทโยอุเกะ โอมิคามิ เทพผู้พิทักษ์ที่ควบคุมอาหาร เสื้อผ้า และที่พักพิง

(C)”Visit ISESHIMA” Bureau

การเดินทาง : เดินประมาณ 5 นาที จาก Ise-shi Station

ศาลเจ้าอิเซะจิงงู-ไนกู (โคไตจิงงู)  (Ise Jingu / Naiku)

ศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนอายุหลายร้อยปี จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือ สะพานอุจิ (Uji-bashi) ที่ทอดข้ามแม่น้ำอีซูซุ (Isuzu River) เป็นสะพานสำคัญที่มีความยาว 100 เมตร

เนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อข้ามไปจะพบบริเวณที่เรียกว่าศาลเจ้าไนกุ กล่าวกันว่าหนึ่งในสามสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าหลัก ศาลเจ้าด้านในเป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้กับ Amaterasu Omikami เขาเป็นเทพบรรพบุรุษ (เทพชินโต) ของราชวงศ์ญี่ปุ่น เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ และเป็นเทพผู้พิทักษ์ของญี่ปุ่น

(C)”Visit ISESHIMA” Bureau

เปิดทำการ : ทุกวัน
– 05:00 – 18:00 น. (มีนาคม, เมษายน, กันยายน และตุลาคม)
– 04:00 – 19:00 น. (พฤษภาคม – สิงหาคม)
– 05:00 – 17:00 น. (พฤศจิกายน – ธันวาคม)
– 05:00 – 17:30 น. (มกราคม – กุมภาพันธ์)

การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Ujiyamada หรือ Isuzukawa ลงที่ Naiku-mae *ฟรีสำหรับผู้ที่มี KINTETSU RAIL PASS plus

ย่านโอฮาไรมะจิ (Oharaimachi) และ โอคะเกะโยโคะโจ (Okage-yokocho)

มาเดินเล่นในเมืองที่สวยงามแห่งนี้ ซึ่งคับคั่งไปด้วยผู้สักการะมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีทางเดินปูหินจากสะพานเลียบแม่น้ำอีซูซุ โอฮาไรมาจิ/โอคาเงะ โยโคโช เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ท้องถนนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ศูนย์กลางอยู่ที่อาคารจากสมัยเอโดะและเมจิ มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และร้านขนมหวานที่มีชื่อเสียงมายาวนานเรียงรายสองข้างทาง มีร้านค้าประมาณ 50 ร้านมารวมตัวกันที่นี่ และคุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารกูร์เมต์แสนอร่อยของมิเอะได้หลากหลาย

อย่าลืมเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของภูมิภาคอิเสะ รวมถึงกลองและการแสดงภาพ ตลอดจนขนมโมจิหลากหลายชนิด Akafuku mochi เป็นขนมหวานที่มีชื่อเสียงจาก Ise-Shima และเป็นหนึ่งในของที่ระลึกยอดนิยมในญี่ปุ่น

การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Ujiyamada หรือสถานี Isuzugawa และลงที่ Jingu Kaikan-mae จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 2 นาที

ภูเขาโกะไซโชะ ภูเขากระเช้าลอยฟ้า (Mount Gozaisho)

ภูเขาโกะไซโชะ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดมิเอะ อยู่ระหว่างรอยต่อกับจังหวัดชิงะ เป็นภูเขาสูง 1,212 เมตร เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบบิวะได้จากด้านบนยอดสูงสุดของภูเขาโกไซโชะ บริเวณเชิงเขายังมีเมืองออนเซ็นบรรยากาศดีอย่าง ยูโนะยามะออนเซ็น (Yunoyama Onsen)

คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของแต่ละฤดูกาล สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้และความสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิ เพลิดเพลินกับความงามของใบไม้หลากสีสันในฤดูใบไม้ร่วงที่รายล้อมไปด้วยฝูงแมลงปอในฤดูร้อน และเพลิดเพลินกับการเล่นสกีและเลื่อนหิมะในฤดูหนาวด้วยการปีนภูเขา ใช้เวลาเพียง 12 นาทีบนกระเช้าลอยฟ้าโกไซโช และเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวอิเสะ ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหิมะ

การเดินทาง: โดยสารรถบัส Mie Kotsu จากสถานี Yunoyama Onsen ลงที่ยูโนยามะออนเซ็น/โกไซโชโรปเวย์-มาเอะ *ฟรีสำหรับผู้ที่มี KINTETSU RAIL PASS plus ยูโนยามะอนเซ็นอยู่ห่างจากที่นี่โดยใช้เวลาเดินเพียงไม่นาน ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการไปถึงยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้า

เกาะไข่มุกมิกิโมะโตะ

โคคิจิ มิกิโมโตะ เป็นบุคคลแรกในโลกที่ประสบความสำเร็จในการปลูกฝังไข่มุก และสถานที่ที่เขาทำสิ่งนี้คือเกาะไข่มุกมิกิโมโตะในปัจจุบัน คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงไข่มุกและประวัติของโคคิจิ มิกิโมโตะได้

นอกจากนี้ ในช่วงแรกของการทำฟาร์มไข่มุก นักดำน้ำอามะ (ผู้หญิงที่ตกปลาโดยการดำน้ำฟรี) ในท้องถิ่นได้สนับสนุนการทำฟาร์มไข่มุก ดังนั้นคุณจึงสามารถชมการสาธิตของพวกเขาได้

คุณสามารถซื้อเครื่องประดับแบรนด์ Mikimoto ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับจำนวนจำกัด Mikimoto Pearl Island และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Mikimoto ให้เลือกมากมาย

การเดินทาง : เดินประมาณ 5 นาที จากสถานีคินเท็ตสึโทบะ

Ama Hut Satoumian

กระท่อมอามะ Ama Hut Satoumian นี่คือสถานที่สัมผัสประสบการณ์กระท่อมอามะ ที่ตั้งอยู่ในเมืองชิมะ จังหวัดมิเอะ นักดำน้ำอามะในจังหวัดมิเอะ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และใช้งานที่นี่ในภูมิภาคอิเสะ-ชิมะมาเป็นเวลา 3,000 ปี และยังคงเป็นบ้านของชาวประมงอามะจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่น

Ama Hut Satoumian นักดำน้ำอามะเตรียมตัวตกปลาและพักผ่อนหลังจากเสร็จงาน เราอุ่นเครื่องด้วยไฟแล้วรับประทานอาหารกลางวัน สถานที่สัมผัสประสบการณ์กระท่อมอามะเป็นอาคารที่สร้างตามกระท่อมอามะ ซึ่งนักดำน้ำอามะจะปรุงอาหารหอยและปลาที่จับจากทะเลอิเสะชิมะ ต่อหน้าคุณขณะรับประทานอาหาร คุณสามารถพูดคุยกับนักดำน้ำอามะและฟังเรื่องราววิถีชีวิตของพวกเขาได้

อาหารทะเล: หอย กุ้งล็อบสเตอร์ หอยเป๋าฮื้อ ปลาแห้ง

อิเสะชิมะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่จากจังหวัดมิเอะ ในฤดูหนาว โปรดเพลิดเพลินกับล็อบสเตอร์แสนอร่อย ซึ่งมีรสหวานและอัดแน่นไปด้วยเนื้อ ในฤดูร้อนจะมีหอยเป๋าฮื้อหนาอยู่ในฤดู

การเดินทาง: จากสถานี Kintetsu Ugata ขึ้นรถบัส Mie Kotsu ที่มุ่งหน้าไปยังท่าเรือ Goza ลงที่ป้ายรถบัสอาซูริฮามะ แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที

การเดินทางสะดวกสบายด้วย Kintetsu Rail Pass

การเดินทางตลอดสองข้างทางของขบวนรถไฟคินเท็ตสึ ที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงามตลอดทุกฤดูกาล ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ที่จะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายแบบไม่มีสะดุด เติมเต็มความสนุกในการท่องเที่ยวของเราให้มีชีวิตชีวามากขึ้น

5 Day Pass

ระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ : ใช้ตั๋วได้เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งาน

  • ตั๋วส่วนลดนี้ สะดวกสำหรับการท่องเที่ยวในโอซาก้า นารา เกียวโต มิเอะ และนาโกย่า
  • สามารถขึ้นลงรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ และรถไฟฟ้าอิกะ ได้อย่างไม่จำกัดภายใน 5 วัน
สิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยว ภายในพื้นที่โอซาก้า, นารา, เกียวโต, มิเอะ และนาโกย่า
  • สามารถได้รับสิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ เมื่อแสดงตั๋วรถไฟแบบการ์ด
  • สามารถใช้สิทธิพิเศษได้เพียง 1 ครั้ง/ต่อ 1 สถานที่ และต้องใช้ภายในระยะเวลาที่ใช้บริการรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับคูปองสิทธิพิเศษอื่น ๆ

5 Day Plus Pass

ระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้ : ใช้ตั๋วได้เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งาน

  • ตั๋วส่วนลดนี้ สะดวกสำหรับการท่องเที่ยวในโอซาก้า นารา เกียวโต มิเอะ และนาโกย่า
  • สามารถขึ้นลงรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ และรถไฟฟ้าอิกะ ได้อย่างไม่จำกัดภายใน 5 วัน
  • ขึ้นลงได้ไม่จำกัดเที่ยว ภายในระยะที่กำหนด สำหรับรถบัสนาราโคซือ และรถบัสมิเอะโคซือ
สิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยว ภายในพื้นที่โอซาก้า, นารา, เกียวโต, มิเอะ และนาโกย่า
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับคูปองสิทธิพิเศษอื่น ๆ
  • สามารถได้รับสิทธิพิเศษจากสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ เมื่อแสดงตั๋วรถไฟแบบการ์ด
  • สามารถใช้สิทธิพิเศษได้เพียง 1 ครั้ง/ต่อ 1 สถานที่ และต้องใช้ภายในระยะเวลาที่ใช้บริการรถไฟฟ้าคินเท็ตสึ

Kintetsu SHIMAKAZE รถไฟด่วนท่องเที่ยวสุดหรูคินเท็ตสึ

สำหรับผู้ที่ชอบการเดินทางด้วยรถไฟ เราขอแนะนำว่าอย่าพลาดรถไฟด่วนท่องเที่ยวพิเศษ “คินเท็ตสึ ชิมาคาเสะ” (Kintetsu SHIMAKAZE)

Sightseeing Express SHIMAKAZE เป็นรถไฟด่วนพิเศษที่ต้องจองล่วงหน้า เส้นทางนี้วิ่งระหว่างโอซาก้านัมบะ คินเท็ตสึนาโกย่า เกียวโต และคาชิจิมะ จังหวัดมิเอะ คุณสามารถใช้ Kintetsu Rail Pass 5 วัน และ 5 วันพลัสได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ : https://shorturl.asia/BgXyK

Kintetsu Rail Pass เส้นทางท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์ ความสนุก ความสุขแบบครบรส และยังได้เปิดประสบการณ์แบบใหม่ที่ไม่ควรพลาด มีโอกาสไปเที่ยวที่ มิเอะ-อิเสะชิมะ กันนะคะ

ชิราคาวาโกะ(Shirakawa-Go) หมู่บ้านโบราณกลางหุบเขา เที่ยวด้วยตัวเอง เดินทางง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

ชิราคาวาโกะ(Shirakawa-Go) หมู่บ้านโบราณกลางหุบเขา เที่ยวด้วยตัวเอง เดินทางง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

สถานที่ท่องเที่ยวใน “ญี่ปุ่น” ที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยว ก็ต้องมีชื่อของหมู่บ้านโบราณ “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) จังหวัดกิฟุ (Gifu) เป็น 1 ใน List นั้นอย่างแน่นอน ซึ่งที่หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาแห่งนี้ ได้ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลก (ปี ค.ศ. 1995) ด้วยความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมของบ้านเรือน และบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยทิวเขา วิวสวยงาม จนใครๆ ก็ต้องหาโอกาสมาเยือนกันสักครั้ง

ภายในหมู่บ้าน “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) มีบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ ที่เรียกว่า “กัสโซ – สึคุริ” โดยความหมายของคำว่า “กัสโซ” แปลว่า “การพนมมือ” ซึ่งมีความคล้ายกับหลังคาของบ้านเรือนที่มีลักษณะเหมือนมือพนมเข้าหากัน (หลังคาลาดเอียง 60 องศา) ทำให้ช่วงฤดูหนาวยามที่หิมะตกหนักมาลงบนหลังคาบ้านเรือน ก็จะไหลลงมาได้ง่าย ไม่สะสมมากเกินไป จนอาจทำให้บ้านเรือนเกิดความเสียหายได้

ตลอดทั้งปี หมู่บ้านแห่งนี้ จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล ซึ่งจะได้พบกับบรรยากาศความสวยงามที่แตกต่างไปในแต่ละฤดูกาล อย่างเช่น ในช่วงฤดูหนาว (จะมีหิมะปกคลุมขาวไปทั่วบริเวณ), ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (จะมีดอกซากุระบานสวยงาม), ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมีสีสันสดใส) และ ช่วงฤดูร้อน (จะมีนาข้าวเขียวขจีสวยสบายตา)

สำหรับบทความนี้ จะพาไปเที่ยว “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) ในช่วงฤดูหนาวที่ภายในหมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ มองเห็นสีขาวไปทั่วบริเวณ เป็นอีกช่วงเวลาที่วิวทิวทัศน์สวยงามมาก

วิธีการเดินทาง ไป “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) สามารถเดินทางได้ง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สามารถวางแผนเที่ยวได้แบบเดย์ทริป ไปเช้า-เย็นกลับ ได้แบบสบายๆ ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเดินทางยอดนิยม จะเริ่มที่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) หรือ เมืองทาคายาม่า (Takayama) ก็ได้ โดยจะมีรถบัสโดยสารวิ่งให้บริการตลอดทั้งวัน

การเดินทาง จากเมืองคานาซาว่า(Kanazawa) ไป “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) สามารถมาขึ้นรถบัสที่ป้ายรถบัสหน้าสถานีรถไฟ Kanazawa Station (ป้ายหมายเลข 4) ซึ่งจำเป็นต้องซื้อตั๋วและจองที่นั่งล่วงหน้ามาก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยมีตารางเวลารอบรถ ดังนี้

ขาไป : 08.10 / 08.40 / 09.10 / 09.40 / 11.10 / 13.00 / 13.20 / 14.00 / 16.00

ขากลับ : 08.50 / 10.25 / 10.55 / 11.25 / 12.20 / 13.50 / 15.10 / 15.55 / 17.30

การเดินทาง จากเมืองทาคายาม่า(Takayama) ไป “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) สามารถมาขึ้นรถบัสที่ Takayama Bus Terminal (ป้ายหมายเลข 4) ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Kanazawa Station มีรอบรถทั้งแบบจองที่นั่งและไม่ต้องจองที่นั่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที โดยมีตารางเวลา(เฉพาะรอบรถแบบไม่ต้องจองที่นั่ง) ดังนี้

ขาไป : 08.50 / 10.50 / 11.50 / 13.50 / 14.50 / 17.50

ขากลับ : 06.43 / 10.55 / 13.15 / 15.15 / 16.15 / 17.30

เมื่อรถบัสโดยสารเดินทางมาถึง ก็สามารถเดินเที่ยวชมในตัวหมู่บ้านได้เลย มีเส้นทางถนนและทางเดินที่เดินเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย มีจุดท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ศาลเจ้า รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของที่ระลึกต่างๆ

ถ้าได้มาถึงหมู่บ้านชิราคาวาโกะทั้งที ก็ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินที่มุมถ่ายรูปยอดนิยม ซึ่งขอแนะนำจุดแรก ณ จุดชมวิวมุมสูงของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยทิวเขารอบด้าน สามารถใช้บริการรถรับ-ส่ง ขึ้นจุดชมวิว (ค่าโดยสาร เที่ยวละ 200 เยน) หรือ ใครสายชิลมีเวลาเยอะ จะเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิวก็ได้เช่นกัน

และ อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด กับวิวบ้าน 3 หลัง มุมถ่ายภาพที่จะสามารถมองเห็นบ้านโบราณสไตล์ “กัสโซ-สึคุริ” ทั้ง 3 หลังเรียงกัน โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขา เป็นวิวที่สวยงามมาก

1 วันใน “ชิราคาวาโกะ” (Shirakawa-Go) สามารถเที่ยวชมได้อย่างสบาย เดินทางมาเที่ยวได้แบบ One Day Trip หรือ ถ้าใครอยากมาพักผ่อนแบบสโลวไลฟ์ ก็สามารถมาลองเข้าพักที่นี่สักคืนก็ได้ ซึ่งภายในหมู่บ้านก็จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพัก(จองล่วงหน้า) มีบริการที่พักแบบบ้านโบราณสไตล์กัสโซบรรยากาศย้อนยุค พร้อมบริการอาหารแบบโฮมเมดจากวัตถุดิบท้องถิ่นอีกด้วย

เที่ยว “ซัปโปโร” (Sapporo) แนะนำพิกัด กิน เที่ยว ใน 1 วัน

เที่ยว “ซัปโปโร” (Sapporo) แนะนำพิกัด กิน เที่ยว ใน 1 วัน เดินทางง่ายด้วยรถรางและรถไฟใต้ดิน

ซัปโปโร (Sapporo) เมืองท่องเที่ยวที่รู้จักกันดี ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเมืองที่น่าเที่ยวโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวอากาศหนาวเย็น มีหิมะปกคลุม และยังมีเมนูอาหารแบบท้องถิ่นให้ลองชิมมากมาย สามารถเดินทางในเมืองซัปโปโรได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 

“รถไฟใต้ดิน” (Subway) วิธีการเดินทางในเมืองซัปโปโรที่ประหยัดและมีความสะดวกสบาย เพราะมีเส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเมืองซัปโปโร มีทั้งหมด 3 สาย ได้แก่ Nanboku Line, Tozai Line และ Toho Line และถ้าในหนึ่งวันใช้บริการรถไฟใต้ดินหลายเที่ยว ก็แนะนำให้ใช้บัตรแบบ 1 Day Ticket ที่สามารถใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินได้อย่างไม่จำกัด

● วันธรรมดา : ผู้ใหญ่ 830 เยน เด็ก 420 เยน
● วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (Donichika Ticket) : ผู้ใหญ่ 520 เยน เด็ก 260 เยน

บัตรรถไฟใต้ดินแบบ 1 Day Ticket สามารถซื้อได้ที่เครื่องจําหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟใต้ดินในเมืองซัปโปโรทุกสถานี สามารถใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินได้ไม่จํากัดตลอดทั้งวัน เป็นวิธีการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโรได้อย่างคุ้มค่ามาก

และ ยังมี “รถราง” (Streetcar) อีกวิธีการเดินทางที่ดูคลาสสิคดี โดยสามารถขึ้นไปลงตามจุดท่องเที่ยวที่ต้องการได้ ซึ่งระบบรถรางจะวิ่งวนในลักษณะเป็นวงกลมสวนกัน 2 สาย แบ่งออกเป็น วนรอบใน (ทวนเข็มนาฬิกา) และ วนรอบนอก (ตามเข็มนาฬิกา) ค่าโดยสาร (ตลอดสาย) ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน

แนะนำ พิกัด กิน เที่ยว ตามเส้นทางรถไฟใต้ดิน/รถราง ในเมืองซัปโปโร

สวนนากาจิมะ (Nakajima Koen)

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองซัปโปโร แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ บรรยากาศสงบเงียบ ภายในมีต้นไม้มากกว่า 5,000 ต้น ทั้ง ซากุระ เมเปิ้ล แปะก๊วย และพันธุ์ไม้ดอกหลากชนิด ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน) ต้นไม้ที่อยู่ภายใน สวนนากาจิมะ (Nakajima Park) ก็จะมีสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม สามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Nakajimakoen Station
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/yL3dQdCtQYKhvmQo7

โรงงานซัปโปโร (Sapporo Factory)

อาคารอเนกประสงค์เก่าแก่ของเมืองซัปโปโร ตั้งอยู่ในบริเวณของโรงเบียร์ซัปโปโรแห่งแรก(สร้างขึ้นในปี 1876) เป็นอาคารที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ ภายในมีห้องโถงกว้าง ซึ่งตัวอาคารจะมีความโดดเด่นด้วยอิฐสีแดง ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้ โดยในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว(ต้นเดือนพฤศจิกายน) พันธุ์ไม้เลื้อยที่ปกคลุมตัวอาคารก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงาม เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปช่วงใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของเมืองซัปโปโร

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Bus Center Mae Station ทางออก 8 เดินต่อประมาณ 400 เมตร
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/TPxRbgnut25JMg2c8

โรงงานช็อกโกแลต (Shiroi Koibito Park)

ธีมปาร์คสวนสนุกช็อกโกแลต มีอาคารสถาปัตยกรรมยุโรปขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้าอาคารมีสวนดอกไม้สไตล์อังกฤษ มีมุมสวนสวยๆ ให้ถ่ายรูปเช็คอิน และภายในตัวอาคารจะเป็น พิพิธภัณฑ์โรงงานช็อกโกแลต มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านค้าขายของที่ระลึก รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต ของฝากขึ้นชื่อของฮอกไกโดอีกด้วย

หากใครมีโอกาสมาเที่ยวชมที่ โรงงานช็อกโกแลต (Shiroi Koibito Park) แห่งนี้ ก็ต้องไม่พลาดชิม Soft Cream  รสชาติ หวาน มัน อร่อย ติดใจแน่นอน

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Miyanosawa Station เดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/TPxRbgnut25JMg2c8

ภูเขาโมอิวะ (Mt.Moiwa)

จุดชมวิวเมืองซัปโปโร เป็นภูเขาที่มีระดับความสูง 531 เมตร โดยบนยอดเขาสามารถมองเห็นเมืองซัปโปโรได้แบบ 360 องศา ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ของจุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุด(ปี 2015) อีกด้วย สำหรับไฮไลท์ของภูเขาโมอิวะ ก็คือ ระฆังแห่งความสุข ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่ ซึ่งใครมาแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะตีระฆัง พร้อมอธิษฐานให้ชีวิตพบแต่ความสุข

ภูเขาโมอิวะ สามารถขึ้นกระเช้าไปยังจุดชมวิวด้านบนได้ โดยซื้อตั๋วแบบเหมารวม ไป-กลับ ค่ากระเช้า Ropeway และ Morris Car ผู้ใหญ่ 2,100 เยน เด็ก 1,050 เยน

● การเดินทาง : สถานีรถราง Ropeway Iriguchi Station จากนั้น เดินไปยังป้ายรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ไป สถานี Sanroku(บริการฟรี)
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/DVtihN6c2sspCtLf7

ย่านซูซูกิโนะ (Susukino)

แหล่งช้อปปิ้งของเมืองซัปโปโร ที่มีบรรดาร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ในยามค่ำคืนจะคึกคักไปด้วยผู้คน เป็นอีกย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเดินทางได้อย่างสะดวก(สถานีรถไฟใต้ดิน/สถานีรถราง Susukino Station) มีทั้งที่พัก ร้านค้า และร้านอาหารเมนูอร่อยของเมืองซัปโปโร โดยมีร้านอาหารที่น่าสนใจ อย่างเช่น

Suage+ ร้านซุปแกงกะหรี่ (Soup Curry) ที่อยู่ในย่าน Susukino เป็นอีกร้านยอดนิยม ที่มีคนมารอต่อคิวเข้าร้านกันเยอะมาก โดยเมนูหลัก คือ ซุปแกงกะหรี่ รสชาติเข้มข้นด้วยเครื่องเทศ ออกรสเผ็ดนิดหน่อย ประกอบด้วยผักหลายชนิด เหมาะกับการทานกับข้าวร้อนๆ เป็นเมนูช่วยคลายหนาวได้อย่างดี

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน/สถานีรถราง Susukino Station เดินต่อประมาณ 100 เมตร
● เวลาเปิด : 11.00 น. – 21.00 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/roMifFC2rAkT9Zi4A

Charcoal Grilled Yakiniku Ippatsudon

ร้านเนื้อแกะย่าง(เจงกิสข่าน) อยู่ในย่าน Susukino มีเมนูเนื้อแกะย่าง ทั้งแบบ A La Carte และแบบ Buffet ทานไม่อั้น (2 ชั่วโมง) วิธีการปิ้งย่างเนื้อแกะ (เจงกิสข่าน) จะมีเตาถ่านและกระทะ(คล้ายกับกระทะของหมูกระทะของไทย) พร้อมมีเครื่องเคียง ถั่วงอก และหัวหอมใหญ่ รสชาติเนื้อ อร่อย ไม่คาว เป็นเมนูห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองซัปโปโร

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน/สถานีรถราง Susukino Station เดินต่อประมาณ 200 เมตร
● เวลาเปิด : 18.00 น. – 01.00 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/K7TAG4XJDAr3BapYA

Takayama ตะลอน กิน เที่ยว ย่านเมืองเก่า ในบรรยากาศย้อนยุค

Takayama ตะลอน กิน เที่ยว ย่านเมืองเก่า ในบรรยากาศย้อนยุค

“ทาคายาม่า” (Takayama) เมืองท่องเที่ยวที่อยู่ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) เป็นเมืองเก่าที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดี ถือเป็นเมืองจุดเริ่มต้นของการต่อยอดไปเที่ยวสถานที่ยอดนิยมอื่นๆ ของภูมิภาคชูบุ (Chubu) อย่างเช่น ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go), คามิโคจิ (Kamikochi), กระเช้าชินโฮตากะ (Shinhotaka Ropeway) เป็นต้น

การเดินทางมาที่เมือง “ทาคายาม่า” (Takayama) สะดวกที่สุด คือ การลงเครื่องบินที่เมืองนาโกย่า (Nagoya) ประตูสู่ภูมิภาคชูบุ (Chubu) จากนั้น เดินทางต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สามารถเดินทางด้วยรถไฟ หรือ รถบัสโดยสาร ที่ให้บริการระหว่างเมืองนาโกย่ากับเมืองทาคายาม่าได้ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง 

ภายใน เมืองทาคายาม่า จะมีลักษณะเป็นเมืองเก่าที่มีบ้านเรือนแบบโบราณ มีแม่น้ำไหลผ่าน และแวดล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม เหมาะที่จะมาเที่ยวพักผ่อนแบบชิลๆ โดยจะมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ คือ ย่านเมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town) ที่สองฝั่งถนน Sanmachi Suji เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งแต่ยุคเอโดะ บรรยากาศสุดคลาสสิค

มาเยือนถึงเมืองทาคายาม่า ก็ต้องมาเดินเล่นเลียบแม่น้ำมิยากาวะ (Miyakawa River) บรรยากาศสบายๆ มีจุดเช็คอินที่ สะพานนาคะบาชิ (Nakabashi Bridge) สะพานสีแดงเด่นที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำเชื่อมต่อทั้งสองฝั่ง เป็นอีกจุดถ่ายรูปที่ได้รับสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ในช่วงเช้าของทุกวันบริเวณริมแม่น้ำมิยากาวะ (Miyakawa River) ก็จะมี “ตลาดเช้ามิยากาวะ” (Miyagawa Morning Market) เป็นตลาดริมแม่น้ำ ที่จะมีร้านค้ามาตั้งขายของแบบสไตล์ Local ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ผัก ผลไม้ และอาหารท้องถิ่นต่างๆ โดยร้านค้าจะเปิดกันตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเวลา 12.00 น. ของทุกวัน

ภายในตลาดเช้า นอกจากจะมีร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรแล้ว ก็ยังมีพวกร้านขนมและเครื่องดื่ม สำหรับทานเป็นอาหารเช้าด้วย อย่างเช่น ร้านกาแฟ Cookie Cups ร้านกาแฟยอดนิยมที่มีความพิถีพิถันในการชงกาแฟในแต่ละถ้วย ซึ่งความน่าสนใจจะอยู่ที่ ถ้วย Cookie Cups สามารถกินถ้วยเข้าไปได้เลย เป็นร้านที่มีคนมารอต่อคิวชิมกาแฟกันเยอะมาก

และ ถ้าพูดถึงเมนูขึ้นชื่อของเมืองทาคายาม่า (Takayama) ก็ต้องยกให้เนื้อฮิดะ (Hida Beef) เป็นเนื้อชั้นดีที่มีความนุ่ม อร่อย จนได้การขนานนามว่า เป็นเนื้อที่ละลายในปาก เลยทีเดียว ซึ่งภายในเมืองก็จะมีร้านที่มีเมนูเนื้อฮิดะให้เลือกชิมอย่างมากมาย สามารถเลือกชิมเมนูที่ชอบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นแนวปิ้งย่าง, ราเม็ง, ซูชิ ฯลฯ โดยมีร้านอาหารแนะนำ อย่างเช่น

Hida Kotte Ushi

ร้านซูชิเนื้อฮิดะ มีเมนูให้เลือกแบบเป็นชุด (ราคาชุดละ 700 – 1,000 เยน) เนื้อนุ่ม อร่อย เป็นร้านยอดนิยมที่มีคนต่อคิวซื้ออยู่ตลอดเวลาที่ร้านเปิด

● เวลาเปิด : 10.00 น. – 17.00 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/YT98TzjF6AFbE1199

Hidagyu Maruaki

ร้านเนื้อฮิดะปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จนในบางช่วงเวลาอาจจะต้องใช้เวลาในการรอคิวอยู่พอสมควร ใครอยากลองชิม “เนื้อฮิดะ” (Hida Beef) แบบ A5 ต้องมาที่ร้านนี้ โดยสามารถสั่งเป็นชุด สำหรับทาน 3-4 คน (ราคา 7,880 JPY) เนื้อย่างมีกลิ่นหอม สัมผัสได้ถึงความนุ่มแบบละลายในปาก รสชาติของเนื้ออร่อยเพียงแค่แตะเกลือเพียงเล็กน้อย

● เวลาเปิด : 11.00 น. – 15.00 น. และ 17.00 น. – 21.00 น. 
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/etQyeFYqifULYNDL7

Tenaga Ashinaga

ร้านรวมสารพัดเมนูจากเนื้อฮิดะ มีเมนูที่ประกอบอาหารจากวัตถุดิบเนื้อฮิดะ(Hida Beef) อย่างเช่น ชุดเนื้อฮิดะย่างใบโฮบะ, ราเม็งเนื้อฮิดะ, สตูว์เนื้อฮิดะ, ผัดผักเนื้อฮิดะ ฯลฯ โดยจะบริการเป็นชุดอาหาร ที่สามารถเลือกรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว มีเครื่องดื่มให้เลือก เช่น น้ำอัดลม ชา เบียร์ สาเก ฯลฯ และยังมีบริการน้ำเปล่าฟรีอีกด้วย

● เวลาเปิด : 11.00 น. – 15.30 น. และ 17.00 น. – 21.00 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/2wfPxQ8rtjwgVWdH6

ใครได้มีโอกาสมาเที่ยวที่เมืองทาคายาม่า (Takayama) รับรองว่าจะได้ชิมเนื้อฮิดะแบบหลากหลายอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอร่อยอื่นๆ อีกมากมาย มีร้านอาหารที่น่าสนใจอีกเพียบ เป็นอีกเมืองน่าเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลย!

Setouchi Area Pass พาสรถไฟเที่ยวภูมิภาคคันไซ ซันโย ชิโกกุตอนเหนือ และชินคันเซ็นเชื่อมโอซาก้า-ฟุกุโอกะ

Setouchi Area Pass พาสเที่ยวรอบทะเลในเซโตะ
ภูมิภาคคันไซ ซันโย ชิโกกุตอนเหนือ

และชินคันเซ็นเชื่อมโอซาก้า-ฟุกุโอกะ

เซโตอุจิ แอเรียพาส (Setouchi Area Pass) คือ พาสรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้บริการโดยบริษัท JR West สำหรับเดินทางในพื้นที่ภูมิภาคคันไซ ชูโงคุแถบซันโย และชิโกกุตอนเหนือ

  • เดินทางด้วยรถไฟ JR West เส้นทางบริเวณรอบทะเล Setouchi ทุกประเภท รวมถึงชินคันเซ็น Sanyo Shinkansen แบบจองที่นั่งล่วงหน้า (Reserved Seat) ได้ไม่จำกัดรอบตลอด 7 วัน
  • ใช้เดินทางเข้าออกจากสนามบินคันไซด้วยรถไฟด่วนพิเศษ HARUKA ได้
  • สิทธิในการใช้ระบบขนส่งอื่นๆ เช่น JR Bus Chugoku, Okayama Electric Tram Way, Okaden Bus, เรือเฟอร์รี่เกาะมิยาจิม่า และเรือเฟอร์รี่ฮิโรชิม่า-มัตสึยาม่า
ประเภท ราคา
ผู้ใหญ่ 22,000 เยน
เด็ก (6-11 ปี) 11,000 เยน

Setouchi Area Pass

JR West

Setouchi Area Pass สามารถขึ้นรถไฟประเภทรถไฟธรรมดา (Local) รถเร็ว (Rapid) รถด่วนพิเศษ (Limited Express) ของบริษัท JR West และ JR Shikoku ภายในพื้นที่ที่กำหนดบริเวณรอบทะเลในเซโตะ รวมถึงชินคันเซ็นเส้นทาง Sanyo Shinkansen แบบจองที่นั่งล่วงหน้า (Reserved Seat) ได้ฟรีไม่จำกัดรอบตลอดระยะเวลาใช้งานพาส

รถไฟด่วนพิเศษ HARUKA ไป-กลับสนามบินคันไซ ให้บริการทุกๆ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 6:31-22:16 น.

  • สนามบินคันไซ – สถานี Tennoji ประมาณ 35 นาที
  • สนามบินคันไซ – สถานี Osaka ประมาณ 45 นาที
  • สนามบินคันไซ – สถานี Shin-Osaka ประมาณ 50 นาที
  • สนามบินคันไซ – สถานี Kyoto ประมาณ 75 นาที

Limited Express ขบวนอื่นๆ ที่สามารถใช้ Setouchi Area Pass ได้

  • KUROSHIO (เฉพาะช่วง Kyoto/Shin-Osaka – Hineno)
  • KINOSAKI (เฉพาะช่วง Kyoto – Kameoka)
  • MAIZURU (เฉพาะช่วง Kyoto – Kameoka)
  • HASHIDATE (เฉพาะช่วง Kyoto – Kameoka)
  • HAMAKAZE (เฉพาะช่วง Shin-Osaka – Sannomiya – Himeji)
  • Rakuraku Biwako (เฉพาะช่วง Osaka – Kyoto)
  • Rakuraku Harima (ตลอดสาย Kyoto/Shin-Osaka – Sannomiya – Aboshi)
  • Rakuraku Yamato (ตลอดสาย Shin-Osaka – Nara)
  • SUPER HAKUTO (เฉพาะช่วง Kyoto/Shin-Osaka – Himeji – Kamigori)
  • SUPER INABA (เฉพาะช่วง Okayama – Kamigori)
  • YAKUMO (เฉพาะช่วง Okayama – Kurashiki – Soja)
  • SHIOKAZE (ตลอดสาย Okayama – Matsuyama)
  • NANPU (เฉพาะช่วง Okayama – Kotohira)
  • SHIMANTO (เฉพาะช่วง Takamatsu – Kotohira)
  • ISHIZUCHI (ตลอดสาย Takamatsu – Matsuyama)
  • UZUSHIO (เฉพาะช่วง Okayama – Kotohira
YAKUMO
SUPER HAKUTO
KUROSHIO
SHIOKAZE
UZUSHIO

รถไฟชินคันเซ็นที่มีเส้นทางให้บริการระหว่างสถานี Shin-Osaka และ Hakata โดยมีขบวนที่ให้บริการทั้งหมด 5 แบบ

NOZOMI – จอดเฉพาะสถานีหลัก ได้แก่ Shin-Osaka, Shin-Kobe, Okayama, Hiroshima, Kokura และ Hakata (บางขบวนแวะจอดที่ Nishi-Akashi, Himeji, Fukuyama, Tokuyama, Shin-Yamaguchi) ขบวนรถมีความยาว 16 ตู้ มีที่นั่งประเภท Ordinary (Reserved กับ Non-Reserved) จัดที่นั่งแบบ 3-2 และ Green Car จัดที่นั่งแบบ 2-2

MIZUHO – จอดเฉพาะสถานีหลัก ได้แก่ Shin-Osaka, Shin-Kobe, Okayama, Hiroshima, Kokura และ Hakata (บางขบวนแวะจอดที่ Himeji, Fukuyama, Shin-Yamaguchi) ขบวนรถมีความยาว 8 ตู้ มีที่นั่งประเภท Ordinary Reserved จัดที่นั่งแบบ 2-2, Ordinary Non Reserved จัดที่นั่งแบบ 3-2 และ Green Car จัดที่นั่งแบบ 2-2

HIKARI – จอดบางสถานี ขบวนรถมีความยาว 8 และ 16 ตู้ มีที่นั่งประเภท Ordinary (Reserved กับ Non-Reserved) จัดที่นั่งแบบ 3-2 และ Green Car จัดที่นั่งแบบ 2+2

SAKURA – จอดบางสถานี ขบวนรถมีความยาว 8 ตู้ มีที่นั่งประเภท Ordinary (Reserved กับ Non-Reserved) จัดที่นั่งแบบ 3-2 และ Green Car จัดที่นั่งแบบ 2-2

KODAMA – จอดทุกสถานี ขบวนรถมีความยาว 8 ตู้ มีที่นั่งประเภท Ordinary (Reserved กับ Non-Reserved) จัดที่นั่งแบบ 3-2 และบางขบวนมี Green Car จัดที่นั่งแบบ 2-2

NOZOMI / HIKARI
MIZUHO / SAKURA
KODAMA

สามารถใช้บริการรถบัสและเรือเฟอร์รี่ในเส้นทางเหล่านี้ได้ เพียงแสดงพาส Setouchi Area Pass ให้กับพนักงานขับรถหรือเจ้าหน้าที่ที่ท่าเรือ


Setouchi Area Pass สามารถซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซด์ Japan All Pass ล่วงหน้าได้ 90 วัน โดยต้องนำ E-TICKET ที่มี QR Code และพาสปอร์ตตัวจริงของผู้ใช้ทุกคนไปแลกรับพาสตัวจริงที่ญี่ปุ่น โดยสามารถแลกได้ 2 ช่องทาง คือ ออฟฟิศแลกพาสกับตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ สามารถตรวจสอบสถานีที่สามารถแลกพาสได้ที่ https://www.westjr.co.jp/global/th/ticket/receive/

สถานี Kansai Airport ชั้น 2 สนามบินคันไซ

จุดแลกพาส สถานีฮากาตะ (ฟุกุโอกะ)

สถานี Hakata ฝั่งประตู Shinkansen Central Gate

สามารถทำได้เฉพาะตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติสีเขียวที่มีสัญลักษณ์พาสปอร์ตสีฟ้าเท่านั้น เนื่องจากต้องสแกนพาสปอร์ตก่อนแลกรับพาส

ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่สามารถแลกรับพาสได้
ขั้นตอนการแลกพาสผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

การใช้งานพาส สามารถสอดเข้าประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติที่สถานีรถไฟหรือแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูได้ สำหรับการจองรถไฟ Limited Express และ Shinkansen สามารถจองผ่านตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติสีเขียว (สูงสุด 7 ครั้ง) หรือจองกับเจ้าหน้าที่ที่ Ticket Office (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจองตั๋วผ่านตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติสีเขียว


ย่านอุเมะดะ
สถานี Osaka
สาย Osaka Loop Line, JR Kyoto / JR Kobe Line, JR Takarazuka Line, Osaka Higashi Line

ปราสาทโอซาก้า
สถานี Morinomiya
สาย Osaka Loop Line

ย่านเทนโนจิ
สถานี Tennoji
สาย Osaka Loop Line, Hanwa Line, Yamatoji Line

สวนนารา
สถานี Nara
สาย Nara Line, Yamatoji Line, Man-yo Mahoroba Line

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
สถานี Inari
สาย Nara Line

อาราชิยาม่า
สถานี Saga-Arashiyama
สาย Sagano Line

ท่าเรือโกเบ
สถานี Kobe
สาย Sanyo Line

ปราสาทฮิเมจิ
สถานี Himeji
สาย Sanyo Line, Sanyo Shinkansen

ปราสาทโอคายาม่า
สถานี Shiroshita
Okayama Electric Tramway

Kurashiki Bikan Historical Quarter
สถานี Kurashiki
สาย Sanyo Line

เกาะมิยาจิม่า
สถานี Miyajimaguchi
สาย Sanyo Line
แล้วนั่งเรือเฟอร์รี่ JR West

สวนสันติภาพฮิโรชิม่า
สถานี Hiroshima
สาย Sanyo Line, Sanyo Shinkansen, Kure Line
แล้วนั่งรถบัส Meipuru-pu

ทาคามัตสึ
สถานี Takamatsu
สาย Yozan Line

มัตสึยาม่า
สถานี Matsuyama
สาย Yozan Line

ฟุกุโอกะ
สถานี Hakata
สาย Sanyo Shinkansen


  1. สามารถใช้กับชินคันเซ็นทุกขบวนเฉพาะในเส้นทาง Sanyo Shinkansen (Shin-Osaka – Hakata) เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับชินคันเซ็นระหว่าง Shin-Osaka – Kyoto ได้
  2. ไม่สามารถใช้กับรถไฟอื่นๆ ในคิวชูได้ นอกจากชินคันเซ็น Sanyo Shinkansen ซึ่งขึ้นลงรถไฟชินคันเซ็นได้เฉพาะสถานี Kokura กับ Hakata เท่านั้น
  3. ผู้ใช้งาน 1 ท่าน ไม่สามารถใช้พาสมากกว่า 1 ใบ ภายในช่วงเวลาเดียวกัน
  4. กรณีทำพาสตัวจริงหาย ไม่สามารถออกใหม่หรือขอคืนเงินได้

พาสรถบัส JAP x Limon Bus: Osaka ↔ Kanazawa ↔ Shirakawago ↔ Takayama

พาสรถบัส JAP x Limon Bus
เส้นทาง Osaka ↔ Kanazawa ↔ Shirakawago ↔ Takayama

บัตรบุฟเฟ่ต์รถบัสเส้นทาง โอซาก้า ↔ เกียวโต ↔ คานาซาว่า ↔ ชิราคาวาโกะ ↔ ทาคายาม่า บัตรเดียวเท่านั้นที่ไปครบจบทุกไฮไลท์ที่ห้ามพลาดในญี่ปุ่นใน 5 วัน


สถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทาง Osaka / Kyoto ↔ Kanazawa ↔ [Shirakawago] ↔ Takayama

โอซาก้า

เมืองใหญอันดับสองของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่กิน ที่ช้อป ย่านความบันเทิง ที่หลากหลายเหมาะกับทุกเพศทุกวัน

เกียวโต

เมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในความสวยงามของวัดและศาลเจ้าโบราณหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ทั่วเมือง

หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ

หมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ในหุบเขา มีบ้านเรือนแบบกัสโชสึคุริซึ่งมีหลังคาชันเพื่อรองรับหิมะในฤดูหนาว ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

คานาซาว่า

เมืองเก่าแก่ในอนุภูมิภาคโฮคุริคุ เป็นจุดหมายหลักสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเมืองต่างๆ เช่น ชิราคาวาโกะ โทยาม่า และทาคายาม่า

เมืองเก่าทาคายาม่า

เมืองประวัติศาสตร์ที่ยังคงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม มีถนนเก่าและบ้านเรือนโบราณที่อนุรักษ์ไว้อย่างดี


สามารถใช้รถบัสในเส้นทาง โอซาก้า/เกียวโต ↔ คานาซาว่า ↔ [ชิราคาวาโกะ] ↔ ทาคายาม่า ได้แบบไม่จำกัดรอบ โดยสามารถจองย้อนกลับในเส้นทางเดิมได้

เส้นทาง จำนวนวันที่ใช้ได้ ราคา*
Osaka / Kyoto ↔ Kanazawa ↔ [Shirakawago] ↔ Takayama 5 วัน ติดต่อกัน 14,800 เยน

* เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปนับเป็นราคาเดียวกับผู้ใหญ่

เส้นทางและเวลารถออก จำนวนรอบรถบัส

Osaka OCAT 7:20
Kyoto 8:20

[แวะพัก 15 นาที Otsu (Biwako) 9:05~9:25]
[แวะพัก 10 นาที Suizu 10:55~11:05]
[แวะพัก 25 นาที Amagozen 12:05~12:30]

Kanazawa ถึง 13:10~ออก 13:50
แวะเที่ยว Shirakawago 15:10~16:40

→ Hida Hotel Plaza 17:30
Takayama 17:40

1 เที่ยว / วัน
Takayama 8:20
→ Hida Hotel Plaza 8:30
แวะเที่ยว Shirakawago 9:20~11:50
Kanazawa ถึง 13:10~ออก 13:30
[แวะพัก 10 นาที Onagatani 15:10~15:20]
[แวะพัก 15 นาที Shizugatake 16:15~16:30]
[แวะพัก 20 นาที Otsu (Biwako) 17:35~17:55]
Kyoto 17:40

Osaka OCAT 18:40
1 เที่ยว / วัน

เส้นทาง: Osaka/Kyoto → Shirakawago → Takayama → Shirakawago → Kanazawa → Osaka/Kyoto
ระยะเวลา: 5 วัน 4 คืน

วันที่ รายละเอียด ที่พัก
วันที่ 1 เดินทางช่วงเช้า จากโอซาก้าหรือเกียวโตตรงไปทาคายาม่า
– แวะพักทานอาหารกลางวันแบบอิสระที่คานาซาว่า
– แวะหมู่บ้านชิราคาวาโกะ 90 นาที ในช่วงบ่าย
ทาคายาม่า
วันที่ 2 – 3 อิสระในการเลือกสถานที่ท่องเที่ยว
– เมืองทาคายาม่า
– กระเช้าชินโฮทากะ
– หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ทาคายาม่า
วันที่ 4 เดินทางช่วงเช้า จากทาคายาม่าไปคานาซาว่า
– แวะหมู่บ้านชิราคาวาโกะ 2 ชม. 30 นาที ในช่วงเช้า
– เที่ยวคานาซาว่าช่วงบ่าย
คานาซาว่า
วันที่ 5 เที่ยวคานาซาว่าช่วงเช้าก่อน เดินทางช่วงบ่ายจากคานาซาว่ากลับไปโอซาก้าหรือเกียวโต โอซาก้า หรือ เกียวโต
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ทาคายาม่า
ปราสาทคานาซาว่า

*รถบัสอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากตัวอย่างภาพโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า


ลูกค้าสามารถจองรอบรถบัสภายใน 7 วันหลังสั่งซื้อพาส โดยการแจ้งมาที่ไลน์ @japanallpass เมื่อทำการสั่งซื้อแล้ว ท่านจะได้รับอีเมลรอบการจองตามที่แจ้งมาทั้งหมด

  • ต้องกำหนดวันเดินทางและเส้นทางให้ครบทุกวัน กรณีไม่ใช่รถ ต้องระบุว่าไม่ใช่รถ
  • การจองจะยืนยันทางอีเมลที่ท่านลงทะเบียนไว้ สามารถบันทึกไว้ในโทรศัพท์เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่คนบนรถบัสได้
  • จองรถบัสได้วันละ 1 เที่ยวเท่านั้น
  • กรณีไม่ปรากฏตัวในวันที่จองไว้ (No show) ถือว่าท่านได้สละสิทธิ์การใช้บริการตลอดทั้งวันนั้น

สถานที่ จุดขึ้นรถบัส
โอซาก้า (Osaka) Namba OCAT ชั้น 2 (ประตู 5)
เกียวโต (Kyoto) สถานี Kyoto หน้า AVANTI Hachijo Exit (ป้าย G2)
ทาคายาม่า (Takayama) สถานี Takayama (West Exit Bus Stop)
คานาซาว่า (Kanazawa) สถานี Kanazawa (West Exit Bus Stop ป้าย 1 ไป Takayama)
สถานี Kanazawa (West Exit Bus Stop ป้าย 2 ไป Kyoto / Osaka)

หมายเหตุ

  • ไม่สามารถขึ้นจากโอซาก้าไปลงเกียวโต หรือขึ้นจากเกียวโตไปลงโอซาก้าได้
  • หมู่บ้านชิราคาวาโกะไม่ใช่จุดรับส่งของ Limon Bus แต่เป็นจุดแวะจอดเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งผู้โดยสารทุกคนต้องลงและกลับมาขึ้นรถตามเวลาที่กำหนด

จุดขึ้นรถบัส: Namba OCAT ชั้น 2 (ประตู 5)

วิธีการเดินทางมาจุดขึ้นรถบัส: จุดขึ้นรถอยู่ที่ชั้น 2 อาคาร OCAT ย่าน Namba ซึ่งติดกับสถานี JR-Namba และสามารถเดินจากสถานี Namba ของรถไฟใต้ดิน Osaka Metro และรถไฟ Nankai หรือจากสถานี Osaka-Namba ของรถไฟ Kintetsu และ Hanshin

ตัวอย่างโรงแรมแนะนำใกล้จุดขึ้นรถบัส

  • Toyoko Inn Osaka Namba
  • APA Hotel & Resort Osaka Namba Ekimae Tower
  • Hotel Gracery Osaka Namba
  • Hotel Monterey Grasmere Osaka
  • APA Hotel Namba-Shinsaibashi

จุดขึ้นรถบัส: สถานี Kyoto Hachijo Exit (ป้าย G2)

วิธีการเดินทางมาจุดขึ้นรถบัส: เดินทางสถานีรถไฟ Kyoto ประตูทางออก Hachijo Exit ข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้าย เดินประมาณ 1 นาที จุดจอดอยู่ที่ป้าย G2

ตัวอย่างโรงแรมแนะนำใกล้จุดขึ้นรถบัส

  • Hotel Keihan Kyōto Ekiminami
  • Via Inn Prime Kyoto Station Hachijo Exit
  • HOTEL VISCHIO KYOTO by GRANVIA
  • REF Kyoto Hachijoguchi by VESSEL HOTELS
  • Miyako City Kintetsu Kyoto Station

จุดขึ้นรถบัส:
สถานี Kanazawa West Exit (ป้าย 1 ไป Takayama)
สถานี Kanazawa West Exit (ป้าย 2 ไป Kyoto / Osaka)

วิธีการเดินทางมาจุดขึ้นรถบัส: จากสถานี Kanazawa เดินออกมาทางออก West Exit แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปยังจุดจอดรถบัสป้าย 1 เพื่อไป Takayama หรือป้าย 2 เพื่อไป Kyoto/Osaka

ตัวอย่างโรงแรมแนะนำใกล้จุดขึ้นรถบัส

  • APA Hotel Kanazawa Ekimae
  • Toyoko Inn Kanazawa-eki Higashi-guchi
  • Kanazawa Manten Hotel
  • Hyatt House Kanazawa
  • AB Hotel Kanazawa

จุดขึ้นรถบัส: สถานี Takayama (West Exit Bus Stop)

วิธีการเดินทางมาจุดขึ้นรถบัส: จากสถานี Takayama เดินออกมาทางออก West Exit แล้วเดินเลี้ยวขวาไปยังที่จอดรถบัส ข้างจุดจอดจักรยาน

ตัวอย่างโรงแรมแนะนำใกล้จุดขึ้นรถบัส

  • Hida Takayama Washington Hotel Plaza
  • Hotel Wing International Hida Takayama
  • Tokyu Stay Hida Takayama Musubinoyu
  • Country Hotel Takayama
  • Hotel Kuretakeso Takayama Ekimae