10 จุดเช็คอิน กิน เที่ยว เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) เที่ยวง่ายด้วยรถไฟใต้ดิน

10 จุดเช็คอิน กิน เที่ยว เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) เที่ยวง่ายด้วยรถไฟใต้ดิน

มาถึงนาทีนี้ สายเที่ยวญี่ปุ่นคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ฟุกุโอกะ” (Fukuoka) เมืองท่องเที่ยวประตูแห่งภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม รวมถึงร้านเด็ด อาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย มีเมนูอร่อยให้ได้ลองชิม สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง เที่ยวง่าย มีระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ใครที่ชอบเที่ยวแบบชิลๆ ผู้คนไม่วุ่นวายเหมือนเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ แนะนำต้องลองมาเที่ยวที่เมืองนี้เลย

การเดินทาง ในเมือง “ฟุกุโอกะ” นั้น รถไฟใต้ดิน (Subway) ก็เป็นวิธีการเดินทางที่ง่าย ประหยัด และเดินทางสะดวก โดยมีเส้นทางรถไฟใต้ดินครอบคลุมพื้นที่ภายในเมืองฟุกุโอกะ นับเป็นวิธีการเดินทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว  ซึ่งถ้ามีแพลนเที่ยวด้วยรถไฟใต้ดินใน 1 วัน ก็ยังมีบัตรแบบ One Day Ticket (640 เยน) ที่ใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินวนเที่ยวภายในเมืองฟุกุโอกะได้อย่างไม่จำกัด ภายใน 1 วัน โดยสามารถซื้อได้ที่เครื่องจําหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟใต้ดินทุกสถานี

แนะนำ 10 จุดเช็คอิน กิน เที่ยว ในเมือง “ฟุกุโอกะ” (Osaka) ด้วยรถไฟใต้ดิน 

1. “ศาลเจ้าคูชิดะ” (Kushida Shrine)

ศาลเจ้าเก่าแก่สำคัญของเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นศาลเจ้าที่มีการออกแบบสวยงามแบบศาสนาชินโตดูน่าเลื่อมใส โดยตลอดทั้งวัน จะมีผู้คนแวะเวียนเข้ามาไหว้สักการะขอพร ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว และให้ชีวิตประสบความสำเร็จ

นอกจากจะได้ไหว้สักการะขอพรศาลเจ้าแล้ว ก็ยังมีเครื่องรางที่จะช่วยเสริมโชคในด้านต่างๆ ให้เลือกมูติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Kushida Shrine Station แล้วเดินต่อประมาณ 150 เมตร
● เวลาเปิด : 09.00 น. – 17.00 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/MPJfnkwbmPGoL3Ps7

2. “ตลาดยานากิบาชิ” (Yanagibashi Rengo Market)

ตลาดอาหารทะเลใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เป็นตลาดขนาดเล็กที่อยู่ในซอยที่มีความยาวเพียง 100 เมตร แต่ภายในตลาดก็เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายอาหารทะเลอยู่หลายร้าน รวมไปถึงร้านจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร พวกผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์แปรรูป สินค้าท้องถิ่นให้เลือกซื้ออย่างมากมาย 

นอกจากนี้ ก็ยังมีร้านจำหน่ายอาหารทะเลที่เปิดส่วนของร้านอาหาร โดยสามารถเข้าไปสั่งอาหารทะเลสดๆ นั่งทานได้อีกด้วย มีเมนูอาหารทะเลให้ลองชิมมากมาย ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา มาครบ สด และอร่อยอย่างแน่นอน

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Watanabe-Dori Station แล้วเดินต่อประมาณ 300 เมตร
● เวลาเปิด : 09.00 น. – 17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/vsnaA9g2XfYXzb657

3. “ถนนช้อปปิ้งคาวาบาตะ” (Kawabata Shopping Arcade)

ย่านช้อปปิ้งของเมืองฟุกุโอกะ เป็นแหล่งรวมร้านค้าและร้านอาหารมากมาย เรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่งของทางเดินความยาว 400 เมตร ซึ่งตลอดทางเดินก็จะมีหลังคาที่สามารถกันแดดกันฝนได้ สามารถมาช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก ก็ช้อปปิ้งกันได้อย่างเพลินๆ

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Nakasukawabata Station 
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BuywHaTzV5YhzpUZ6

4. “ศาลเจ้าฮาโกซากิ” (Hakozaki Shrine)

ศาลเจ้าเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าที่ได้ชื่อว่าใหญ่เป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าฮาจิมัน ซึ่งบูชาเทพเจ้าฮาจิมัน ตัวศาลเจ้าออกแบบสวยงามน่าเลื่อมใส โดยจะมีผู้คนแวะเวียนมาสักการะขอพรให้สมความปรารถนา

ภายในบริเวณศาลเจ้าฮาโกซากิ จะมีสวนดอกไฮเดรนเยีย ซึ่งเป็นจุดชมดอกไฮเดรนเยียที่สำคัญของเมืองฟุกุโอกะ โดยในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี ก็จะมี “เทศกาลดอกอาจิไซ(ไฮเดรนเยีย)” งานจัดแสดงดอกอาจิไซกว่า 100 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 3,500 ต้น ให้ได้ชมอีกด้วย

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Hakozakimiya-Mae Station (ทางออก 1) แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตร
● เวลาเปิด : 08.30 น. – 17.30 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Z6iP8gkmdMNZweFB7

5. “วัดโทโชจิ” (Tochoji Temple)

วัดเก่าแก่ของเมืองฟุกุโอกะ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอัน ภายในวิหารมีพระพุทธที่มีชื่อเสียง เป็นพระพุทธรูปที่ทำจากไม้แกะสลักขนาดใหญ่ โดยมีความสูงกว่า 10 เมตร หนักมากกว่า 30 ตัน (ภายในห้ามถ่ายรูป)

และนอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดก็ยังมีเจดีย์ 5 ชั้น สีแดงสดสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศของความสงบร่มรื่น 

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Gion Station แล้วเดินต่อประมาณ 100 เมตร
● เวลาเปิด : 09.00 น. – 16.45 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/W7TzgrN4VC7ogbER7

6. “ซากปราสาทฟุกุโอกะ” (Fukuoka Castle Ruin)

ซากปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่ของ “ปราสาทฟุกุโอกะ” ที่อดีตเคยถูกทำลาย จนเหลือเพียงซากของกำแพงและฐานของหอคอย 

ภายในบรรยากาศร่มรื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะของเมืองฟุกุโอกะ ทั้งสวนไมซุรุ(Maizuru Park) และ สวนโอโฮริ (Ohori Park) ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งเป็นจุดชมซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่น่าสนใจของเมืองนี้อีกด้วย

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Ohori Park(Fukuoka Art Museum) Station 
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/scVd7HaPVqHBiv2J7

7. “ย่านนาคาสุ” (Nakasu)

แหล่งรวมร้านอาหารเมนูท้องถิ่นของเมืองฟุกุโอกะ และภูมิภาคคิวชู ซึ่งมีเมนูน่าสนใจมากมาย อย่างเช่น “ฮากาตะราเมน” ราเมนซุปกระดูกหมู, “เมนไทโกะ” ไข่ปลา, “มตสึนาเบะ” หม้อไฟเครื่องใน เป็นต้น 

มาเที่ยวถึงเมืองฟุกุโอกะ ก็ต้องมาลองชิมทุกเมนู และที่ต้องไม่พลาด ก็คือ “มตสึนาเบะ” ซึ่งขอแนะนำร้าน Hakata Motsunabeza Hanabi ร้านมตสึนาเบะ เมนูหม้อไฟต้มเครื่องในวัว(หรือหมู) ซึ่งจะเป็นส่วนของไส้อ่อนต้มกับซุปมิโสะ โดยมีส่วนผสมของ เต้าหู้ ผัก และพริกแห้ง มีรสชาติที่เข้มข้น ต้องมาลองชิม

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Nakasukawabata Station 
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/B1eSFAkBtNajhAub6

8. “สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ” (Momochi Beach Park)

ชายหาดของเมืองฟุกุโอกะ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ผู้คนนิยมมาพักผ่อน เดินเล่น กินลม ชมวิว ในช่วงยามเย็นพระอาทิตย์ตก ซึ่งบริเวณริมชายหาดก็จะมีร้านค้าที่จำหน่ายอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มต่างๆ สามารถมานั่งชิลกินดื่มชิลๆ พร้อมชมบรรยากาศได้

และ บริเวณสวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ ก็ยังมีจุดเช็คอินที่น่าสนใจ อย่างเช่น Fukuoka Tower หอคอยสูงที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ ความสูง 234 เมตร ด้านบนหอคอยสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา, Marizon แหล่งรวมร้านค้าริมชายหาด ที่เป็นเหมือนเกาะยื่นลงไปกลางทะเล ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร และเป็นสถานที่ไว้สำหรับจัดงานแต่งงาน

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Nishijin Station แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Xp7PqT9vZJh7RJNf8

9. “ศูนย์การค้าคาแนลซิตี้” (Canal City Hakata)

แหล่งช้อปปิ้งของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศูนย์การค้าที่ออกแบบให้มีคลองพาดผ่านตัวอาคาร มีการตกแต่งได้อย่างร่มรื่น ภายในศูนย์การค้ามีร้านค้ามากมาย มีสินค้าให้เลือกช้อปหลากหลายประเภท มาที่นี่ที่เดียวมีให้ช้อปอย่างครบครัน

และ ที่ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ก็คือ ลานน้ำพุขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณตรงกลางศูนย์การค้า ซึ่งจะมีการแสดงน้ำพุประกอบ แสง สี เสียง ให้ได้ชมความสวยงาม

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Kushida Shrine Station แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตร
● เวลาเปิด : 10.00 น. – 21.00 น.
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6NjHhj6muCj388Bx5

10. “ร้านยาไต” (Yatai Food Stalls)

ร้านอาหารรถเข็นริมทางแบบฉบับฟุกุโอกะ โดยสามารถพบเห็นได้ในเมืองฟุกุโอกะ และแหล่งรวมร้านยาไตก็ต้องมาที่บริเวณริมแม่น้ำ Naka River ที่อยู่ใกล้กับ Canal City Hakata จะพบกับร้านอาหารรถเข็นตั้งร้านเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ โดยจะเริ่มเปิดร้านกันตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นไป

จุดเด่นของร้าน Yatai Food Stalls จะเป็นร้านรถเข็นขนาดเล็กๆ ที่มีที่นั่งล้อมวงเป็นครึ่งวงกลม มีพื้นที่ตรงกลางไว้ประกอบอาหาร สามารถมองเห็นขั้นตอนการทำอาหาร บรรยากาศเป็นกันเอง เหมาะแก่การมานั่งกินดื่ม พูดคุย สังสรรค์กัน ใครมีโอกาสมาเที่ยว “ฟุกุโอกะ” ก็ต้องลองมานั่งร้านแบบนี้ กันสักครั้งนะ!

● การเดินทาง : สถานีรถไฟใต้ดิน Kushida Shrine Station แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตร
● พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZzBD2SwEkDfqwcZU8

ใบไม้เปลี่ยนสีวัด Enzou-ji 

ใบไม้เปลี่ยนสีวัด Enzou-ji 

วัดเอ็นโซจิ วัดเอ็นโซจิ (Enzoji)  (圓藏寺) เป็นวัดเก่าแก่แห่งเมือง Aizu จังหวัด Fukushima อายุมากกว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีแม่น้ำ Tadami ไหลผ่าน วัดนี้จึงมี Location และธรรมชาติที่สวยงามมากทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงดอกซากุระบาน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี รวมทั้งฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน

วัด Enzou-ji ยังเป็นบ้านเกิดของวัวแดง Akabeko ที่เป็นสัญลักษณ์อันโด่งดังของเมือง Aizu จังหวัด Fukushima อีกด้วย 

ข้อมูลใบไม้เปลี่ยนสีวัด Enzou-ji 

วันเริ่มจับสี : กลางเดือนตุลาคม
วันที่ชมได้งาม : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน 
ชื่อสถานที่ : Enzou-ji Temple (圓藏寺) 

พิกัดที่จอดรถ : 37.53348, 139.72491
Mapcode : 397 417 581*60

คู่มือเที่ยว Universal Studios Japan โอซาก้า แบบไม่ง้อ Express Pass

คู่มือเที่ยว Universal Studios Japan โอซาก้า
แบบไม่ง้อ Express Pass

สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) ตั้งอยู่ที่จังหวัดโอซาก้า (Osaka) และเป็นหนึ่งใน 4 ของสวนสนุกธีมปาร์คของ Universal Studios เปิดทำการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2544 เป็นจุดมุ่งหมายหลักของพวกเราที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง นอกจากเครื่องเล่นที่แสนจะตื่นตาตื่นใจ คงจะหนีไม่พ้น การได้รับความรู้สึกเหมือนเป็นเด็กอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินท่ามกลางโลกแห่งเวทมนตร์ในปราสาทฮอกวอตส์จากภาพยนตร์ชื่อดัง “แฮรี่พอตเตอร์” หรือหลุดเข้าสู่โลกแห่งเกมส์กับมาริโอ้ที่ SUPER NINTENDO WORLD™

ซื้อตั๋วเข้าสวนสนุก Universal Studios Japan

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตั๋วเข้าชมสวนสนุก Universal Studios Japan มีหลากหลายราคา โดยแปรเปลี่ยนไปตามวันเข้าใช้บริการ ซึ่งตั๋ววันธรรมดาจันทร์-พฤหัสจะมีราคาถูกกว่าวันศุกร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของญี่ปุ่น ดังนั้นการซื้อตั๋วล่วงหน้าต้องระบุวันที่ใช้บริการให้ชัดเจน ตั๋วที่ได้รับจะเป็น E-Ticekt มี QR Code ซึ่งสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ในโทรศัพท์และใช้สแกนเข้าประตูสวนสนุกได้โดยไม่ต้องพิมพ์ใส่กระดาษเลย

ตั๋วเข้าสวนสนุกจะรวมเครื่องเล่นและการแสดงทั้งหมดแล้ว สามารถเล่นเครื่องเล่นได้แบบไม่จำกัดครั้งตลอดทั้งวัน

นอกจากตั๋วเข้าสวนสนุกแล้ว ยังมีตั๋วชนิดพิเศษที่เรียกว่า Express Pass ซึ่งเป็นบัตรผ่านสำหรับการลัดคิวรอเครื่องเล่นและรอบเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการรอต่อแถวเล่นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยม จากที่ต้องรอประมาณ 1 ชม. อาจลดลงเหลือ 10-15 นาที เท่านั้น แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงเกือบเท่าตั๋วค่าเข้าสวนสนุกอีกใบเลย

ซึ่งในเนื้อหานี้ เราจะสอนทริกการเที่ยวแบบไม่ง้อ Express Pass ช่วยประหยัดค่าตั๋วและเก็บครบทุกไฮไลท์ในวันเดียว

วางแผนการเดินทางด้วยรถไฟไป Universal Studios Japan

สถานีรถไฟที่ใกล้สวนสนุก Universal Studios Japan คือ สถานี Universal-City ของบริษัทรถไฟ JR West สาย Yumesaki Line เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น ซึ่งสาย Yumesaki Line สามารถเชื่อมต่อกับสาย Osaka Loop Line ของ JR West และสาย Hanshin-Namba Line ของบริษัทรถไฟ Hanshin ได้ที่สถานี Nishikujo ดังนั้นการเดินทางไป Universal Studios Japan จากจุดต่างๆ ต้องมาเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ Nishikujo เสมอ

ค่าเดินทางด้วยรถไฟมีราคาที่ไม่แพง ประมาณ 190-390 เยน และใช้เวลาเดินทางจากย่านสำคัญในโอซาก้าเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น ดังนั้นเราไม่แนะนำให้ใช้พาสในการเดินทางด้วยรถไฟ สามารถซื้อตั๋วรายเที่ยวที่สถานีหรือใช้บัตร IC Card แตะจ่ายเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

สถานี Universal-City

โหลดแอปพลิเคชั่น Universal Studios Japan

แอปพลิเคชั่นที่จำเป็นมากสำหรับทุกคนที่ไปเที่ยวสวนสนุก Universal Studios Japan โหลดได้ทั้ง iOS 15.0 ขึ้นไปและ Android 8.0 ขึ้นไป

  • เช็คเวลารอคิวของเครื่องเล่นแต่ละชนิดแบบเรียลไทม์
  • เช็ครอบเวลาการแสดงโชว์และพาเหรดต่างๆ
  • มีแผนที่สวนสนุก แนะนำเครื่องเล่น ร้านอาหาร ร้านค้า ห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในแต่ละโซน
  • จองเวลาตั๋วเข้าโซนหรือกิจกรรมที่จำกัดจำนวนคนเข้าตามรอบเวลา (Timed Entry eTicket) เช่น โซน SUPER NINTENDO WORLD
แอปพลิเคชั่น Universal Studios Japan

เช็คเวลาเปิดปิดสวนสนุก เครื่องเล่น และสภาพอากาศ

เวลาเปิด-ปิดของสวนสนุกแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล เช่น ฤดูร้อนเปิดเวลา 8:00-22:00 น. ฤดูอื่นเปิดเวลา 8:30-21:30 น. รวมถึงเครื่องเล่นบางตัวอาจปิดให้บริการในวันนั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซด์ทางการของ Universal Studios Japan

การเช็คพยากรณ์อากาศในวันที่เดินทางก็สำคัญมาก เพราะหากวันนั้นเกิดฝนตก เครื่องเล่นหลายชนิดที่อยู่ภายนอกอาจปิดให้บริการชั่วคราว แล้วเราจะได้เตรียมเสื้อผ้ากับร่มให้พร้อม และวางแผนเล่นเฉพาะเครื่องเล่นในร่มเท่านั้น

เลือกเครื่องเล่นในดวงใจ

แอดมินได้จัดทำตารางให้เพื่อนๆ ช่วยในการตัดสินใจเลือกเครื่องเล่นที่ห้ามพลาด โดยให้ระดับเป็นดาว ★ ยิ่งดาวเยอะยิ่งได้รับความนิยมมาก และคิวต่อแถวก็นานมากเช่นกัน

เครื่องเล่น โซน เรตติ้ง ระดับความโหด
JAWS Amity Village ★★★★ ครอบครัว / วัยรุ่น
Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba XR Ride — Race to Swordsmith Village Hollywood ★★★★ ครอบครัว
Hollywood Dream – The Ride Hollywood ★★★★★ วัยรุ่น
Hollywood Dream – The Ride: Backdrop Hollywood ★★★★★ วัยรุ่น
Universal Monsters Live: Rock and Roll Show [การแสดงโชว์] Hollywood ★★★ ครอบครัว
The Flying Dinosaur Jurassic Park ★★★★★ วัยรุ่น
Despicable Me: Minion Mayhem Minion Park ★★★★ ครอบครัว
Freeze Ray Sliders Minion Park ★★ ครอบครัว
Detective Conan 4-D Live Show: Jewel Under the Starry Sky New York ★★★ ครอบครัว
Mario Kart: Koopa’s Challenge™ SUPER NINTENDO WORLD™ ★★★★★ ครอบครัว / วัยรุ่น
Yoshi’s Adventure™ SUPER NINTENDO WORLD™ ★★★ ครอบครัว
Flight of the Hippogriff™ The Wizarding World of Harry Potter™ ★★★ วัยรุ่น
Harry Potter and the Forbidden Journey™ The Wizarding World of Harry Potter™ ★★★★★ ครอบครัว / วัยรุ่น
Ollivanders™ [การแสดงโชว์] The Wizarding World of Harry Potter™ ★★ ครอบครัว
Big Bird’s Big Top Circus Universal Wonderland ครอบครัว
Elmo’s Bubble Bubble Universal Wonderland ★★ ครอบครัว
Elmo’s Go-Go Skateboard Universal Wonderland ★★★ ครอบครัว / วัยรุ่น
Elmo’s Little Drive Universal Wonderland เด็กเล็ก
Hello Kitty’s Cupcake Dream Universal Wonderland ★★ ครอบครัว
Moppy’s Balloon Trip Universal Wonderland ★★ ครอบครัว
Sesame’s Big Drive Universal Wonderland ★★ เด็กโต
The Flying Snoopy Universal Wonderland ★★ ครอบครัว
WaterWorld [การแสดงโชว์] WaterWorld ★★★★ วัยรุ่น
*เครื่องเล่นบางชนิดอาจปิดให้บริการ
*เรตติ้งเครื่องเล่นเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน

มาตั้งแต่เวลาสวนสนุกเปิด

ควรมารอที่หน้าทางเข้าสวนสนุกตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้า ขนาดวันธรรมดาคนก็เยอะมากแล้ว

จอง Timed Entry eTicket

เข้าแอปจองตั๋ว Timed Entry eTicket สำหรับเข้าโซน SUPER NINTENDO WORLD™ (ในตัวอย่างแอดมินจองได้รอบ 13:30 น.)

เล่นเครื่องเล่นที่ต้องการเป็นอย่างแรก

เมื่อประตูสวนสนุกเปิด สิ่งที่ควรทำคือรีบเดินไปยังเครื่องเล่นที่เล็งไว้เป็นอย่างแรก (ห้ามวิ่ง!) แนะนำว่าควรเป็นเครื่องเล่นยอดฮิต ได้แก่ The Flying Dinosaur หรือ Harry Potter and the Forbidden Journey™ หรือ Despicable Me: Minion Mayhem เท่านั้น เนื่องจากที่ตั้งอยู่ไกล คนน้อยกว่า ใช้เวลารอไม่เกิน 30 นาที และเป็นเครื่องเล่นที่อยู่ใน Express Pass ด้วย ได้เล่นก่อนแบบไม่ต้องรอนานแน่นอน

เครื่องเล่นที่อยู่ใน Express Pass

  • The Flying Dinosaur
  • Harry Potter and the Forbidden Journey™
  • Despicable Me: Minion Mayhem
  • Flight of the Hippogriff™
  • MarioKart: Koopa’s Challenge
  • Yoshi’s Adventure
  • Hollywood Dream – The Ride
  • JAWS
  • Detective Conan 4-D Live Show: Jewel Under the Starry Sky

เลี่ยงการขึ้นเครื่องเล่น Hollywood Dream – The Ride และ Hollywood Dream – The Ride: Backdrop เพราะเป็นเครื่องเล่นแรกที่ใกล้ประตูทางเข้าสวนสนุกที่สุด ทำให้คนส่วนใหญ่ไปยืนรอต่อแถวกันตั้งแต่เวลาเปิด

The Flying Dinosaur

เล่นเครื่องเล่นถัดไปทันทีหลังเสร็จเครื่องเล่นแรก

หลังจากเล่นเครื่องเล่นแรกเสร็จแล้ว เวลานั้นก็น่าจะประมาณ 9 โมงกว่าๆ ควรเล่นเครื่องเล่นที่อยู่ใกล้เคียงต่อทันที หรือถ้ามีแรงเดินมากพอก็ไปเครื่องเล่นยอดฮิตในโซนอื่นได้ ซึ่งเวลานี้จะยังมีคิวรอที่ไม่นานเกิน 1 ชม. แนะนำว่าควรเป็นเครื่องเล่นที่เหวี่ยงเขย่ากะเพราะมากที่สุดเท่าที่รับได้ รถไฟเหาะทั้งหลายควรจบตั้งแต่เช้านี้ เพราะหลังจากนี้จะเป็นเครื่องเล่นเบาๆ แล้ว

ทานอาหารกลางวันก่อนเวลา 11:30 โมง

ถึงแม้ภายในสวนสนุกจะมีตัวเลือกร้านอาหารที่มากมาย แต่แอดมินไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องมาเจอความวุ่นวายในช่วงเที่ยงวันที่ทุกคนแห่กันมาทานอาหารกลางวัน ทำให้ต่อคิวรอสั่งอาหารนาน แถมยังหาที่นั่งยากอีก ดังนั้นควรเริ่มทานอาหารกลางวันตั้งแต่เนิ่นๆ

อิ่มท้องแล้วลุยต่อช่วงบ่าย

เวลาเที่ยงถึงบ่าย เป็นช่วงเวลาที่เครื่องเล่นทุกตัวคิวจะแน่นที่สุด บางเครื่องเล่นรอนานกว่า 2 ชม. แนะนำให้เปิดแอปดูเครื่องเล่นที่คิวไม่นาน หรือถ้ารอไหวก็สามารถไปยืนต่อแถวรอให้อาหารย่อยไปในตัว

สำหรับคนที่ได้ตั๋วรอบเวลาเข้าโซน SUPER NINTENDO WORLD™ ช่วงบ่าย ไม่แนะนำให้เล่นเครื่องเล่นที่รอคิวนานเกินเวลาที่กำหนดเข้าโซน เพราะเวลาที่กำหนดคือเวลาเข้า แต่เมื่อเข้าไปแล้ว สามารถอยู่ในโซนได้เรื่อยๆ แบบไม่มีกำหนด เราควรเล่นเครื่องเล่นทั้งหมด ได้แก่ MarioKart: Koopa’s Challenge และ Yoshi’s Adventure ซึ่งทั้ง 2 เครื่องเล่นนี้ ใช้เวลารอรวมกันประมาณอย่างละ 1 ชม. บวกกับกิจกรรมต่างๆ ในโซนที่มีให้ทำมากมาย รวมๆ แล้วเราจะใช้เวลาในโซน SUPER NINTENDO WORLD™ ประมาณ 3 ชม.เป็นอย่างต่ำ

ช่วงเย็นคือเวลาถ่ายรูปและช้อปปิ้ง

ช่วงเย็นฟ้าแสงสีกำลังสวย เราสามารถเดินเล่นถ่ายรูปได้แบบชิลๆ เพราะเครื่องเล่นส่วนใหญ่น่าจะเก็บครบหมดตามที่ต้องการ สายช้อปปิ้งก็จัดให้เต็มที่ แนะนำว่าซื้อที่ร้านค้าในโซน Hollywood จะรวบรวมสินค้าจากโซนต่างๆ ไว้เหมือนกัน ถ้าอยากได้ทั้งสินค้ามินเนี่ยนและแฮรี่พอตเตอร์จะได้ไม่ต้องเดินไกล

ช่วงค่ำ คิวน้อย อยากเล่นอะไรซ้ำ จัดไป

ใครที่ยังมีแรงเหลือๆ หรือคนที่ตื่นสายมาช่วงเช้าไม่ทัน ช่วงค่ำตั้งแต่เวลา 19:00 น. เป็นต้นไปคนเริ่มน้อยลงเยอะ แต่อย่าลืมว่าสวนสนุกปิด 21:30 น. แปลว่าเรายังมีเวลาอีก 2 ชม.กว่าที่จะเล่นเครื่องเล่นที่ยังไม่ได้เล่น หรือเล่นเครื่องเล่นที่ชอบซ้ำได้อีก เวลารอคิวจะสั้นกว่าช่วงกลางวันมาก แถมได้ฟิลลิ่งบรรยากาศสวยคนละแบบ

สำหรับใครที่หมดแรงแล้ว แนะนำว่าให้ดูโชว์ Universal Monsters Live: Rock and Roll Show ปิดท้ายก่อนกลับ ซึ่งเป็นโชว์การแสดงสดแนวมิวสิกคัลภายในโรงละคร ใช้เวลาแสดงประมาณ 30 นาที ไม่ต้องรอคิวเพราะมีที่นั่งเยอะ แต่ต้องเช็ครอบเวลาของวันนั้นๆ บนแอปก่อน บางวันมีแค่รอบเดียว

เนื่องจากอาหารภายในสวนสนุกค่อนข้างมีราคาสูงมาก ไม่แนะนำให้ทานอาหารเย็นที่สวนสนุก แต่ด้านนอกจะเป็น Universal City Walk ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกทานมากมายในราคาที่ถูกกว่า


หลายคนอาจไม่ทราบว่าทุกคนได้รับสิทธิการใช้ช่องพิเศษที่เรียกว่า “ซิงเกิ้ลไรเดอร์” (Single Rider) แปลว่าผู้เล่นคนเดียว มีไว้สำหรับเติมที่นั่งให้เต็ม โดยช่องพิเศษนี้จะแยกจากคิวปกติและคิว Express Pass มีเฉพาะบางเครื่องเล่นซึ่งส่วนใหญ่คือเครื่องเล่นยอดฮิตทั้งนั้น ซึ่งเวลารอคิวจะน้อยกว่าคิวปกตินิดหน่อย ถ้าโชคดีบางจังหวะอาจได้เข้าแล้วเล่นเลย แต่ช่อง Single Rider เปิดเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น ขึ้นกับการจัดคิวของเจ้าหน้าที่หน้าทางเข้า

รายชื่อเครื่องเล่นที่มีช่อง Single Rider

  • The Flying Dinosaur
  • Harry Potter and the Forbidden Journey™
  • Despicable Me: Minion Mayhem
  • MarioKart: Koopa’s Challenge
  • Hollywood Dream – The Ride
  • JAWS
  • Elmo’s Go-Go Skateboard

การใช้สิทธิ Single Rider ง่ายมากๆ เพียงแค่เดินไปที่หน้าทางเข้าเครื่องเล่นที่มีช่อง Single Rider แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า “Single Rider” (สำเนียงญี่ปุ่นจะออกเสียง ชิน-กุ-รุ-ระ-อิ-ดะ) หรือแค่ชี้นิ้วชี้ 1 นิ้วให้แทนการพูด เจ้าหน้าที่จะเปิดช่องให้เราเดินเข้าช่องพิเศษได้เลย แต่ถ้าเวลานั้นไม่ปิด เจ้าหน้าที่จะให้เข้าช่องปกติทั่วไป


1 Day Trip นั่งรถไฟไป “ยูฟุอิน” ด้วยขบวน Yufuin no Mori เส้นทางรถไฟสุดคลาสสิค ที่ต้องมาลองนั่งกันสักครั้ง

1 Day Trip นั่งรถไฟไป “ยูฟุอิน” ด้วยขบวน Yufuin no Mori เส้นทางรถไฟสุดคลาสสิค ที่ต้องมาลองนั่งกันสักครั้ง

“ยูฟุอิน” (Yufuin) เมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งภูมิภาคคิวชู (Kyushu) อยู่ในจังหวัดโออิตะ (Oita) เป็นอีกเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ที่มีบรรยากาศน่ารัก ทั้งอาคาร บ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่มีการออกแบบและตกแต่งได้ฟีลแบบยุโรป ซึ่งบรรดาอาคารเหล่านี้ ก็ได้เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านจำหน่ายของที่ระลึกมากมาย บรรยากาศภายในเมืองแวดล้อมด้วยทิวเขาและธรรมชาติ สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี

การเดินทางไปเมือง “ยูฟุอิน” (Yufuin) สามารถเดินทางด้วยรถไฟ โดยมีขบวนรถไฟยอดนิยมสุดคลาสสิคอย่าง YUFUIN NO MORI ที่วิ่งเชื่อมต่อระหว่างเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) เริ่มต้นที่สถานี Hakata Station ไปยังเมืองยูฟุอิน (Yufuin) ที่สถานี Yufuin Station ซึ่งรถไฟขบวนนี้ เป็นขบวนที่ขึ้นชื่อว่าได้รับความนิยมจนบางเที่ยวถูกจองเต็มทุกที่นั่ง และต้องจองล่วงหน้าร่วมเดือนเลยทีเดียว ถึงจะจองได้ตามตารางเวลารถไฟที่ต้องการ

YUFUIN NO MORI ขบวนรถไฟสุดคลาสสิค มีจุดเด่นที่การตกแต่งทั้งภายนอกและภายในตู้โดยสารได้อย่างสวยงาม ได้บรรยากาศของความคลาสสิค พร้อมบริการต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

วิธีการจอง YUFUIN NO MORI สามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าแบบออนไลน์ได้ โดยเลือกเที่ยวรถไฟตามตารางเวลาที่ต้องการ ซึ่งขอแนะนำว่า หากได้ไปเที่ยวเมือง “ยูฟุอิน” ทั้งที เลือก ขาไป เที่ยวแรกสุด และขากลับ เที่ยวสุดท้าย จะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า มีเวลาได้เที่ยวในยูฟุอินได้แบบสบายๆ ใน 1 วัน

สำหรับ ตารางเวลารถไฟของขบวน YUFUIN NO MORI จะให้บริการ 3 เที่ยวต่อวัน ใช้เวลาในการเดินทางระหว่าง Hakata Station – Yufuin Station ประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ การให้บริการจำนวนเที่ยวต่อวัน อาจแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล

● ขาไป Hakata Station – Yufuin Station : 

Yufuin no Mori No.1 (9:17) 

Yufuin no Mori No.3. (10:11) 

Yufuin no Mori No.5 (14:38)

● ขากลับ Yufuin Station  – Hakata Station : 

Yufuin no Mori No.2 (12:01) 

Yufuin no Mori No.4 (15:56) 

Yufuin no Mori No.6 (17:17)

ภายใน ขบวนรถไฟ YUFUIN NO MORI จะมีห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีที่นั่งที่กว้างนั่งได้อย่างสบาย และมีหน้าต่างที่ใหญ่เป็นพิเศษ สามารถมองเห็นวิวบรรยากาศระหว่างการเดินทางได้อย่างชัดเจน 

ในระหว่างการเดินทาง ก็มีพนักงานที่คอยให้บริการรถเข็นขายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก มาบริการถึงที่นั่งอีกด้วย ชิมขนมอร่อยๆ ไป จิบเครื่องดื่มไป พร้อมชมวิวไปด้วย เพลินมากเลย และ บนขบวนรถไฟ YUFUIN NO MORI ก็ยังมีตู้โดยสารที่มีบาร์เล็กๆ สำหรับจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกเกี่ยวกับ YUFUIN NO MORI โดยผู้โดยสารสามารถเดินไปเลือกซื้อสินค้าได้ตามความต้องการ ตลอดเวลาที่เดินทางด้วยขบวนรถไฟนี้

เมื่อขบวนรถไฟ YUFUIN NO MORI พามาเทียบที่ชานชาลาของสถานีรถไฟ Yufuin Station ก็ได้เวลาตะลอนเที่ยวในเมืองยูฟุอิน ซึ่งก็มีจุดเช็คอินที่น่าสนใจ อย่างเช่น

● Yufuin Floral Village หมู่บ้านบรรยากาศน่ารัก เป็นการจำลองหมู่บ้านที่ได้บรรยากาศของความคลาสสิคเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในนิยาย โดยภายในหหมู่บ้านจะมีทางเดินเล็กๆ ที่สองข้างทางเรียงรายด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านจำหน่ายของที่ระลึก มีการจัดสวน ประดับด้วยต้นไม้และดอกไม้ มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเล่นมากมาย พร้อมกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนต่างๆ อย่างเช่น การโชว์แสดงสัตว์ การให้อาหารสัตว์ เป็นต้น

● SNOOPY CHA-YA ร้านค้าและคาเฟ่บรรยากาศน่ารัก ที่ตกแต่งด้วยตัวละคร Snoopy รวมถึงตัวละครจาก Peanuts ผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว โดยมีเมนูอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาออกแบบในธีม Snoopy ได้อย่างน่ารัก อย่างเช่น Snoopy Nama Dorayaki, Japanese Style Snoopy Pancakes และเมนูของฝาก อย่างเช่น ช็อกโกแลต พุดดิ้ง และขนมหวานชิ้นเล็กๆ ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าของที่ระลึก(ลิมิเต็ด)ที่เกี่ยวกับ Snoopy อย่างเช่น ชุดออนเซ็น Yukemuri Onsen Series, กระเป๋าผ้าปักลาย Snoopy, แก้วมัคลาย Snoopy ฯลฯ ให้แฟนคลับ Snoopy และแก๊ง Peanuts ได้หาซื้อกลับไปสะสมอีกด้วย

● Kinrin Lake (ทะเลสาบคินริน) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองยูฟุอิน เป็นทะเลสาบที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาตอ น้ำในทะเลสาบใสสะอาดมีอุณหภูมิของน้ำสูงตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นน้ำที่ไหลมาจากแหล่งน้ำพุร้อน บริเวณโดยรอบทะเลสาบแวดล้อมด้วยบรรดาต้นไม้ และทิวเขา บรรยากาศร่มรื่น มีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ เป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของภูมิภาคคิวชู

● Oita River (แม่น้ำโออิตะ) จุดเช็คอินบรรยากาศริมแม่น้ำ ชมธรรมชาติที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาสวยงาม ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสมาเยือนในช่วงของฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ก็จะเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของภูมิภาคคิวชูเช่นกัน ซึ่งความพิเศษของที่นี่จะได้ชมทั้ง ซากุระ(สีชมพู) และดอกนาโนะฮานะ(สีเหลือง) บานสะพรั่งพร้อมกัน มีสีสันตัดกันอย่างสวยงาม

เมืองยูฟุอิน(Yufuin) เป็นอีกเมืองท่องเที่ยวที่เที่ยวง่าย เดินทางได้อย่างสะดวก เที่ยวแบบ 1 Day Trip ได้อย่างสบาย ซึ่งถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวที่ฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู ก็อย่าพลาดการนั่งรถไฟ YUFUIN NO MORI ขบวนสุดคลาสสิคมาเที่ยวที่เมืองน่ารักแห่งนี้กันนะ

วิธีเช็คข้อมูลมือถือที่ใช้ไป How To Check Data Usage

0

วิธีเช็คข้อมูลมือถือที่ใช้ไป How To Check Data Usage

การใช้งานซิมมือถือบางครั้งอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนใช้งานยาก โดยเฉพาะเมื่อพบกับปัญหาที่ไม่คาดคิด และอีกปัญหาหนึ่งคือการเช็คอินเทอร์เน็ตที่ยังเหลืออยู่จากแพ็กเกจที่ซื้อทำได้ยากมาก วันนี้ eSIM ได้พัฒนาระบบใหม่โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถเช็คแพ็คเกจคงเหลือได้อย่างง่ายดาย และตลอดเวลา เราสร้างระบบที่ไม่ซับซ้อนและไม่ยุ่งยาก เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบการใช้งานของคุณเองได้ตลอดเวลา

วิธีเช็คข้อมูลมือถือที่ใช้ไป สำหรับ Android

>> ไปที่ การตั้งค่า / Go to Setting
>> เลือกการเชื่อมต่อ / Connections
>> เลือกการใช้ข้อมูล / Data Usage

ตัวเลขแสดงจำนวนการใช้ของข้อมูลการโรมมิ่งทั้งหมด / The number show data Usage all of data roaming

วิธีเช็คข้อมูลมือถือที่ใช้ไป สำหรับ iOS

>> ไปที่ การตั้งค่า / Go to Setting
>> เลือกเซลลูลาร์ / Cellular
>> เลือกรอบเวลาปัจจุบัน / Current Period

ตัวเลขแสดงจำนวนการใช้ของข้อมูลการโรมมิ่งทั้งหมด / The number show data Usage all of data roaming

ทุกครั้งที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ อย่ารอช้า ที่จะเริ่มต้นใช้งาน eSIM…ซิมที่ทำให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้น

ถนนต้นแปะก๊วย Azuma Sports Park

ถนนต้นแปะก๊วย Azuma Sports Park

Azuma Sports Park (あづま総合運動公園) ….. สวนขนาดใหญ่กว่า 100 เฮกเตอร์ชานเมือง Fukushima ได้รับการยกย่องว่าเป็นสวนสาธารณะที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามตลอดทั้งปี ทั้งช่วงซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ดอกลิลลี่สีทองในฤดูร้อน และแปะก๊วยสีเหลืองทองในฤดูใบไม้ร่วง

จุดเด่นของสวน Azuma Sports Park ในฤดูใบไม่ร่วงคือ อุโมงค์ต้นแปะก๊วย กว่าร้อยต้นที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสีตลอดแนวทางเดิน 520 เมตร….. บรรยากาศงดงามเหมือนเรากำลังเดินในอุโมงค์ใบไม้สีเหลืองทอง

อัลบั้มชุดนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 24 Oct 2023

ชื่อสถานที่ : Azuma Sports Park (あづま総合運動公園)

ช่วงที่ชมได้งาม : ระหว่างปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

Light Up : 18 Oct – 12 Nov 2023 / 17.00 ~ 20.00 (สวนหยุดทุกวันอังคาร)

พิกัดที่จอดรถ : 37.718927, 140.359953

Mapcode : 475 163 827*77

Homepage : https://www.azumapark.or.jp/english/

การเดินทาง : ทำได้สองวิธี

  • ขับรถ … พิกัดที่จอดรถ : 475 163 827*77
  • นั่งรถบัส (Kotsu Bus) จากสถานี JR Fukushima(East Exit / bus stop 7, บัสสายที่มุ่งหน้าไปยัง Sabara・Shiki no Sato / 佐原・四季の里) ลงสถานี Azuma General Gymnasium (Azuma Sougou Taiikukan / あづま総合体育館), 30 Min / 640Yen