Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro) พาสรถไฟเที่ยวเกียวโต-โอซาก้า

พาสรถไฟเที่ยวเกียวโต-โอซาก้า
Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro)

Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro) คือ พาสรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้บริการโดยบริษัท Keihan Railway และ Osaka Metro สำหรับเดินทางในพื้นที่โอซาก้าและเกียวโต

  • เดินทางระหว่างเกียวโต-โอซาก้าด้วยรถไฟ Keihan Railway ทุกประเภท ภายในเส้นทางที่กำหนด แบบไม่จำกัดรอบภายใน 1 วัน
  • เดินทางภายในโอซาก้าด้วยรถไฟ Osaka Metro ทุกเส้นทาง แบบไม่จำกัดรอบภายใน 1 วัน
ประเภทราคา (เยน)
1 วัน1,500

เส้นทางรถไฟที่สามารถใช้ Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro) ได้

Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro)

Keihan Railway

Keihan Railway ให้บริการรถไฟในภูมิภาคระหว่างโอซาก้าและเกียวโต มีรถไฟประเภทรถไฟธรรมดา (Local) รถด่วน (Express) และรถด่วนพิเศษ (Limited Express) ซึ่งทุกขบวนมีราคาเท่ากันตามระยะทาง สำหรับที่นั่งธรรมดา

พาสสามารถใช้เส้นทางรถไฟ Keihan Railway ทุกเส้นทาง (ยกเว้น Otsu Line) และ Iwashimizu-Hachimangu-Sando Cable Car


Osaka Metro

Osaka Metro รถไฟใต้ดินเมืองโอซาก้าที่มีเส้นทาง 9 สาย รวมถึงรถบัสภายในเมืองโอซาก้าเช่นกัน โดยสถานีที่เชื่อต่อทั้งรถไฟ Osaka Metro และ Keihan Railway คือ Yodoyabashi, Kitahama, Tembabashi และ Kyobashi


วิธีซื้อและใช้งาน Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro)

พาสสามารถซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซด์ Japan All Pass ล่วงหน้าได้จนกว่าอายุของพาสจะหมดในวันที่ 30 เม.ย. ของทุกปี โดยต้องนำ E-TICKET ที่มี QR Code ไปแลกรับพาสตัวจริงที่ออฟฟิศที่สถานีที่กำหนดที่ญี่ปุ่นเท่านั้น

รายชื่อสถานีที่รับแลกพาส Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro)

  • สถานี Shin-Osaka ทุกวัน 9:00-15:30 น.
  • สถานี Umeda วันจันทร์-ศุกร์ 7:00-20:00 น. / วันเสาร์ 9:00-20:00 น. / วันอาทิตย์และวันหยุด 9:00-18:00 น.
  • สถานี Namba (Yotsubashi Line) วันจันทร์-เสาร์ 9:00-20:00 น. / วันอาทิตย์และวันหยุด 9:00-18:00 น.
  • สถานี Tennoji วันจันทร์-เสาร์ 9:00-20:00 น. / วันอาทิตย์และวันหยุด 9:00-18:00 น.

การใช้งานพาส สามารถสอดเข้าประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติที่สถานีรถไฟในวันที่ต้องการใช้งานได้ทันที โดยรถไฟทุกขบวนไม่จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทั้ง Keihan Railway และ Osaka Metro


วิธีเดินทางไปจุดท่องเที่ยวต่างๆ ด้วย Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro)

โอซาก้า

ย่านอุเมะดะ
สถานี Umeda
Osaka Metro สาย Midosuji Line

ย่านโดทงโบริ
สถานี Namba
Osaka Metro สาย Midosuji Line, Sennichimae Line, Yotsubashi Line

ปราสาทโอซาก้า
สถานี Morinomiya
Osaka Metro สาย Chuo Line

ย่านเทนโนจิ
สถานี Tennoji
Osaka Metro สาย Midosuji Line

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง
สถานี Osakako
Osaka Metro สาย Chuo Line

ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซัง
สถานี Osakako
Osaka Metro สาย Chuo Line

teamLab Botanical Garden Osaka
สถานี Nakai
Osaka Metro สาย Midosuji Line

เกียวโต

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ
สถานี Fushimi Inari
Keihan สาย Main Line

วัดคิโยมิสี
สถานี Kiyomizu-Gojo
Keihan สาย Main Line

ตลาดนิชิกิ
สถานี Gion-Shijo
Keihan สาย Main Line

อูจิ
สถานี Uji
Keihan สาย Uji Line


ข้อจำกัดการใช้งาน Kyoto-Osaka Sightseeing Pass (Osaka Metro)

  1. ไม่สามารถใช้กับรถไฟจากสนามบินคันไซได้
  2. ไม่สามารถใช้กับรถบัสในเกียวโตได้
  3. พาสหมดอายุการใช้งานเวลาเที่ยงคืนของวันที่ใช้งาน
  4. กรณีทำพาสตัวจริงหาย ไม่สามารถออกใหม่หรือขอคืนเงินได้

พาสอื่นๆ ของ Keihan Railway ที่ใกล้เคียง


รวมส่วนลดสำหรับ Shopping

แสดง QR Code นี้ต่อเจ้าหน้าที่

คลิกที่ลิงค์นี้ เพื่อรับส่วนลด https://japanportal.donki-global.com/coupon/?ptcd=0200000105

วิธีการเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ และอัพเดทชมใบไม้เปลี่ยนสี 2024

วิธีการเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ และอัพเดทชมใบไม้เปลี่ยนสี 2024

ทะเลสาบคาวากุจิ (Kawaguchi Lake) หรือคาวากุจิโกะ ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิ เป็น 1 ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 แห่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ 

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ:19-28 พ.ย. 2024 / ช่วงพีค 22 พ.ย. 2024

ข้อมูลอ้างอิงจาก: JMC
อัพเดท: 1 ต.ค. 2024

รอบๆ ทะเลสาบคาวากุจิ จะเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ล (Momiji)ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนสีสันอย่างสวยงาม จนได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสีที่เรียงรายกันรอบทะเลสาบด้านทิศเหนือกับฉากหลังที่เป็นภูเขาไฟฟูจิ เป็นภาพวิวทิวทัศน์แสนงดงามดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวทะเลสาบแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

Fujikawaguchiko Autumn leaves Festival

สถานที่จัดงาน : ริมทะเลสาบคะวะงูจิด้านทิศเหนือบริเวณ Maple Corridor ธารน้ำ Nashigawa (梨川)
วัน-เวลาจัดงาน : เดือนพฤศจิกายนของทุกปี, 9:00 – 17:00 (เปิดไฟประดับ : หลังพระอาทิตย์ตก ~ 22:00)

การเดินทาง: จากสถานี Kawaguchiko นั่ง Retro Bus (Red Line) ลงป้ายหมายเลข 17 Itchiku Kubota Art Museum (久保田一竹美術館)


การเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ สามารถเดินทางด้วยรถไฟและรถบัส ซึ่งมีให้บริการจากหลายเส้นทาง แต่เส้นทางที่นิยมมากที่สุดคือรถบัสจากโตเกียว (Tokyo) ซึ่งมีออกจากชินจูกุ (Shinjuku) ชิบูย่า (Shibuya) สถานีโตเกียว (Tokyo Station) รวมถึงสนามบินนาริตะและฮาเนดะ (Narita Airport & Haneda Airport)

รถบัสด่วน

รถบัสด่วน (Highway Bus) ตรงจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากุจิโกะวันละหลายเที่ยว ออกจาก Shinjuku Expressway Bus Terminal ราคา 2,200 เยนต่อเที่ยว / ออกจาก Shibuya Station (Shibuya Mark City) ราคา 2,100 เยนต่อเที่ยว / ออกจาก Tokyo Station (Yaesu Exit) ราคา 2,100 เยนต่อเที่ยว

เส้นทาง รอบรถบัส
Shinjuku Expressway Bus Terminal → Kawaguchiko 06:45, 06:55, 07:05, 07:15, 07:25, 07:35, 07:45, 07:55, 08:05, 08:15, 08:25, 08:35, 08:45, 08:55, 09:15, 09:25, 09:35, 09:45, 10:05, 10:15, 10:35, 10:45, 11:15, 11:45, 12:05, 12:15, 12:45, 13:15, 14:15, 14:45, 15:15, 16:15, 17:15, 18:15, 19:15, 20:15, 21:15, 22:25
Shibuya Station (Shibuya Mark City) → Kawaguchiko 06:05, 06:45, 07:30, 08:00, 08:30, 10:30, 13:30, 15:00, 17:00
Tokyo Station (Yaesu Exit) → Kawaguchiko 6:20, 6:50, 7:20, 7:40, 8:10, 8:40, 9:20, 09:50, 10:20, 12:20, 13:20, 14:20, 15:20, 16:20, 17:20, 18:20, 19:20, 20:20, 21:20
เส้นทาง รอบรถบัส
Kawaguchiko → Shinjuku Expressway Bus Terminal 07:00, 08:10, 09:00, 09:10, 10:10, 10:50, 11:00, 11:10, 12:10, 13:00, 13:10, 13:20, 13:40, 14:10, 14:40, 15:10, 15:40, 15:50, 15:55, 16:10, 16:30, 16:40, 16:50, 16:55, 17:10, 17:25, 17:40, 17:50, 18:10, 18:10, 18:25, 18:40, 19:10, 20:15
Kawaguchiko → Shibuya Station (Shibuya Mark City) 06:31, 10:20, 11:20, 12:20, 13:20, 15:20, 17:20, 18:20, 19:20
Kawaguchiko → Tokyo Station (Nihonbashi Exit) 6:30, 07:30, 8:30, 09:30, 10:30, 11:30, 12:30, 13:30, 14:30,  15:00, 15:30, 16:00, 16:30, 17:00, 17:30, 17:45, 18:00, 18:30, 19:00, 19:30

รถไฟ

มีรถไฟด่วนพิเศษ FUJU EXCURSION วันละ 4 ขบวน ทุกวัน วิ่งตรงจากสถานี Shinjuku เวลา 07:30, 8:30, 09:30, 10:30 น. ไปสถานี Kawaguchiko ขากลับออกเวลา 14:40, 14:55, 16:45, 17:33 น. ราคาค่าโดยสาร 4,130 เยนต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ซึ่งต้องจองล่วงหน้าที่สถานีรถไฟ JR East หรือเว็บไซด์ของ JR East นอกจากนี้ยังสามารถใช้พาส Tokyo Wide Pass ในการโดยสารรถไฟขบวนนี้ฟรี

สำหรับคนที่ไม่สามารถจองรถไฟ FUJU EXCURSION ได้ อีกวิธีหนึ่งในการเดินทางด้วยรถไฟ คือ ใช้รถไฟด่วนพิเศษ KAIJI ซึ่งออกจากสถานี Shinjuku ทุกชั่วโมง ลงที่สถานี Otsuki ราคา 2,360 เยน แล้วต่อรถไฟธรรมดาของ Fujikyu Railway เพื่อไปยังสถานี Kawaguchiko ราคาเริ่มต้น 1,170 เยน วิธีนี้ต้องจองเฉพาะขบวน KAIJI ระหว่าง Shinjuku-Otsuki ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 2 ชม. 10 นาที แต่สามารถใช้พาส Tokyo Wide Pass ในการโดยสารรถไฟเส้นทางนี้ฟรี

รถบัสด่วน (Highway Bus) ออกจากสนามบินนาริตะทุกวัน ราคา 5,000 เยนต่อเที่ยว (หลัง 16 ต.ค. ราคา 6,000 เยน) / ออกจากสนามบินฮาเนดะ เฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคา 2,310 เยนต่อเที่ยว

เส้นทาง รอบรถบัส
Narita Airport → Kawaguchiko Terminal 3 – 10:25 (10:55 เริ่ม 16 ต.ค.)
Terminal 2 – 10:30 (11:00 เริ่ม 16 ต.ค.)
Terminal 1 – 10:35 (11:05 เริ่ม 16 ต.ค.)
Haneda Airport → Kawaguchiko Terminal 3 – 14:40
Terminal 2 – 14:50
Terminal 1 – 14:55
เส้นทาง รอบรถบัส
Kawaguchiko → Narita Airport 13:10
Kawaguchiko → Haneda Airport 10:00

[รีวิว] ทัวร์ 1 Day Trip ฟูจิ-คาวากูจิโกะ ออกจากโตเกียว No.1072

รีวิวทัวร์ 1 Day Trip ฟูจิ-คาวากูจิโกะ ออกจากโตเกียว No.1072

ทัวร์ 1 วัน เที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ชั้นที่ 5 และทะเลสาบคาวากูจิโกะ ออกทุกวันจากโตเกียวด้วยรถบัส พร้อมไกด์ภาษาอังกฤษ นับเป็นอีกตัวเลือกการท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัว ไม่ต้องวางแผนเอง มีไกด์ดูแลตลอดทาง แถมไม่พลาดไฮไลท์ที่เที่ยวฟูจิ-คาวากูจิโกะ โดยทัวร์นี้ใช้บริการของ Limon Tour ซึ่งให้บริการทัวร์แบบร่วมกลุ่มในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

สำหรับโปรแกรม Mt. Fuji 5th Station and Lake Kawaguchi Bus Tour ออกจาก Toranomon ที่โตเกียวเวลา 7:40 น. และกลับมาประมาณ 19:00 น. (ขึ้นกับสภาพการจราจร) สามารถจองขั้นต่ำที่ 1 คนได้ แต่ถ้ายิ่งไปหลายคนยิ่งสนุก

แพ็กเกจมีให้เลือก 3 แบบ แตกต่างกันที่อาหารกลางวัน นอกนั้นโปรแกรมสถานที่เที่ยวเหมือนกันหมด

  • Plan S – รวมอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ที่ภัตตาคาร Fujiyama Terrace โรงแรม Highland Resort Hotel & Spa ราคาผู้ใหญ่ 16,000 เยน / เด็ก (3-12 ปี) 15,000 เยน
  • Plan A – รวมอาหารกลางวันแบบขนมปังและเครื่องดื่มที่ร้าน Cafe Brioche ที่ La Ville de Gaspard et Lisa สวนสนุก Fuji-Q Highland ราคาผู้ใหญ่ 14,000 เยน / เด็ก (3-12 ปี) 13,000 เยน
  • Plan T – ไม่รวมอาหารกลางวัน สามารถหาทานเองแบบอิสระที่ La Ville de Gaspard et Lisa สวนสนุก Fuji-Q Highland ราคาผู้ใหญ่ 13,000 เยน / เด็ก (3-12 ปี) 12,000 เยน

ก่อนเวลา 7:40 น. พบกับไกด์ที่ Toranomon Hills Mori Tower ชั้น 1 โดยสามารถนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya Line มาลงสถานี Toranomon Hills หรือสาย Ginza Line มาลงสถานี Toranomon

เมื่อไปถึงบริเวณจุดจอดรถบัส จะเจอไกด์ใส่เสื้อสีเหลืองยืนรอต้อนรับอยู่ ทริปนี้ไกด์ของเราชื่อคุณ Tomoko เป็นไกด์ประสบการณ์มากกว่า 30 ปี (จริงๆ แล้วเขาเป็นแค่ผู้นำทัวร์ แต่ขอเรียกไกด์เพื่อความเข้าใจง่าย) ซึ่งภาษาอังกฤษถือว่าค่อนข้างดีมาก ใครที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้คุยง่ายเลย เพราะทัวร์นี้เป็นภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ข้อดีคือคนน้อยมากๆ ทริปนี้แอดมินไปวันเสาร์ รถบัสคันใหญ่ 40 ที่นั่ง จำนวนลูกทัวร์รวมกันทั้งสิ้น 8 คน!!!

อ่านไม่ผิด . . . ทัวร์นี้มี 8 คน ใช้รถบัสคันใหญ่ แบ่งเป็นแอดมิน 1 คน คุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่น 1 คู่ และครอบครัวจากไต้หวัน 5 คน เรียกได้ว่าเป็นกรุ๊ปที่อบอุ่นมาก

สำหรับที่นั่งบนรถบัสสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย มีที่วางกระเป๋า แก้วน้ำ แต่ไม่มีห้องน้ำหรือปลั๊กชาร์ตไฟ โดยระหว่างทางรถบัสจะจอดแวะพักเข้าห้องน้ำ

จุดแรกที่มุ่งหน้าไปคือภูเขาไฟฟูจิ ชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่อยากเดินปีนถึงยอดภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูร้อน แต่สำหรับทัวร์นี้แค่แวะเดินเล่นบริเวณชั้นที่ 5 ประมาณ 30 นาที มีร้านขายของที่ระลึก และจุดชมวิวให้ชม วันนี้โชคดีมาก ฟ้าเปิด เห็นยอดภูเขาไฟชัดเจน ฤดูร้อนจะไม่มีหิมะปกคลุมบนยอด แต่จะได้ภาพบรรยากาศความคึกคักของบรรดานักปีนเขาที่มาเตรียมตัวปีนขึ้นยอดภูเขาไฟกันมากมาย

เดินทางต่อไปทานอาหารกลางวันที่สวนสนุก Fuji-Q Highland แต่ไม่ได้เข้าไปสวนสนุกนะ โดยรถบัสจะมาส่งที่หน้าโรงแรม Highland Resort Hotel & Spa ซึ่งใครที่จองแพ็กเกจอาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์ ไกด์จะพาไปยังภัตตาคารในโรงแรม ส่วนแพ็กเกจอื่นๆ ไกด์จะพาไป La Ville de Gaspard et Lisa ซึ่งเป็นโซนฟรีหน้าทางเข้าสวนสนุก Fuji-Q Highland มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกพอประมาณ สำหรับวันนี้แอดมินได้แพ็กเกจ A รวมขนมปังและเครื่องดื่มร้าน Cafe Brioche สามารถนั่งทานที่ร้าน หรือเก็บขนมบางส่วนกลับไปกินบนรถได้ ในเซ็ตมีขนมปังเบค่อน ขนมปังรูปฟูจิ คุกกี้ช็อกโกแล็ตชิพ และเครื่องดื่มกาแฟ 1 แก้ว ถือว่าอิ่มพอประมาณ

จุดนี้มีเวลาพักประมาณ 1 ชม. เดินเล่นบริเวณ La Ville de Gaspard et Lisa ได้

ออกเดินทางต่อไปทะเลสาบคาวากูจิโกะ รถบัสจะวิ่งผ่านหน้าสถานีคาวากูจิโกะและร้าน Lawson ที่มีชื่อเสียง จากนั้นมาจอดที่บริเวณริมทะเลสาบ จุดนี้มี 2 กิจกรรมที่ต้องทำ คือ นั่งกระเช้า Cable Car ขึ้นไปจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ และนั่งเรือชมวิวกลางทะเลสาบคาวากูจิโกะ ซึ่งสามารถเลือกได้ตามอิสระว่าจะทำอะไรก่อน โดยไกด์จะเป็นคนเอาตั๋วมาให้

แต่สำหรับทริปนี้พวกเราเกาะกลุ่มไปขึ้นกระเช้าด้วยกันหมด 9 คน รวมไกด์ด้วย นับว่าโชคดีต่อเนื่องเพราะฟูจิซังยลโฉมให้เห็นแบบชัดเจน ข้อดีของการมาทัวร์กรุ๊ปเล็กๆ คือ ไกด์จะถ่ายรูปให้เราได้มากขึ้น แม้จะมาเที่ยวคนเดียวก็มีรูปกลับไปเพียบ

ลงมาด้านล่างบริเวณที่รถบัสจอด คือ ท่าเรือชมวิว Lake Kawaguchiko Sightseeing Boat “Appare” เรือจะออกทุกๆ 30 นาที สามารถนำตั๋วที่ไกด์ให้มายื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อต่อคิวใช้บริการตามรอบที่ต้องการได้เลย

บนเรือมี 2 ชั้น โดยชั้นบนเป็นจุดชมวิวเปิดโล่ง ส่วนชั้นล่างเป็นที่นั่งในร่ม เรือใช้เวลาประมาณ 20 นาทีวนรอบทะเลสาบคาวากูจิ

เวลาประมาณ 17:00 น. บอกลาทะเลสาบคาวากุจิ ออกเดินทางกลับ Toranomon Hills โตเกียว ถึงประมาณ 19:00 น. โดยสวัสดิภาพ


ชี้พิกัดความสบาย ผ่อนคลายกับ The Coral Executive Lounge ก่อนการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ชี้พิกัดความสบาย ผ่อนคลายกับ The Coral Executive Lounge ก่อนการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ

The Coral Finest Business Class Lounge (Cocoon)
Suvarnabhumi Airport (International)

คอรัล เลานจ์ (โคคูน) เลานจ์ใจกลางสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ให้บรรยากาศการตกแต่งเสมือนบ้านของนักเดินทาง มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โถงรับรองพิเศษส่วนกลางที่เสมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติโอบล้อมคุณ โดดเด่นด้วยเก้าอี้โซฟาสีส้มสดใส พร้อมความร่มรื่นที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ ต้อนรับสมาชิกผู้โดยสารทุกท่านเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การใช้บริการห้องรับรองพิเศษสนามบิน

ท่ามกลางบรรยากาศความพลุกพล่านของผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ สามารถพบกับ The Coral Finest Business Class Lounge (Cocoon) ของ คอรัล เลานจ์ (โคคูน) ที่สร้างมาเพื่อเป็นห้องพักรับรองสนามบินที่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน ผู้โดยสารสามารถค้นพบความสงบและความสะดวกสบายในการเดินทาง ทุกรายละเอียดถูกคิดค้นอย่างพิถีพิถันเพื่อแสดงออกถึงความสงบ สบาย ร่มรื่น และผ่อนคลาย

หัวใจของการออกแบบ The Coral Finest Business Class Lounge (Cocoon) คือ หลักการสถาปัตย์ชนิดที่เรียกว่า “ไบโอฟิลิค” ที่รวมระหว่างระหว่างห้องในร่มกับความงดงามของธรรมชาติ ตั้งแต่สีของโทนอ่อนร่มรื่นไปจนถึงวัสดุธรรมชาติที่ถูกคัดเลือกอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างสรรค์สถานที่ที่มีความสุขสบาย ผ่อนคลายให้กับนักเดินทางก่อนการเดินทาง

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย เมนูอาหาร Homemade จากทั่วโลก และมีอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารชีวจิต ด้วยวัตถุดิบคุณภาพ และเครื่องดื่มพิเศษ พร้อมขนม ผลไม้ ของทานเล่น เครื่องดื่มร้อน-เย็นต่างๆ มากมาย
  • การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายในเลานจ์
  • ประกาศขึ้นเครื่องบนจอทีวี
  • บริการนวดไหล่
  • ห้องนอนเลาจน์ (ให้บริการลูกค้าที่มาก่อนจนกว่าจะเต็ม)
  • มินิโฮมเธียเตอร์ เหมือนมีโรงภาพยนตร์ส่วนตัว ขนาด 12 ที่นั่ง พร้อมขนมทานเล่นและเครื่องดื่มร้อนเย็นภายในห้อง
  • มีห้อง Quite Room
  • ห้องละหมาด

ที่ตั้ง : สนามบินสุวรรณภูมิ (International)
ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ C (667 ตร.ม.) 240 ที่นั่ง

สนใจสั่งซื้อได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ https://japanallpass.com/…/the-coral-finest-business…/

[รีวิว] เที่ยวฮิโรชิม่าไปกับ Have Fun in Hiroshima Pass

รีวิวเที่ยวฮิโรชิม่าไปกับ Have Fun in Hiroshima Pass

Have Fun in Hiroshima Pass คืออะไร?

Have Fun in Hiroshima Pass

Have Fun in Hiroshima Pass คือ พาสท่องเที่ยวภายในเมืองฮิโรชิม่า ภูมิภาคชูโงคุ ในรูปแบบ E-voucher สามารถแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนลดร้านค้า/ร้านอาหาร และกิจกรรมต่างๆ โดยเลือกได้รวมทั้งหมด 3 อย่างจากตัวเลือกมากมาย ภายในระยะเวลา 7 วันหลังจากใช้งานสิทธิ์แรก

ตรวจสอบสถานที่ที่สามารถใช้สิทธิพิเศษของ Have Fun in Hiroshima Pass

พาสมีจำหน่ายทั้งแบบแยกเดี่ยวหรือซื้อรวมกับพาสรถไฟอย่าง Kansai Hiroshima Area Pass ในราคาที่ถูกกว่า เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟแบบไม่จำกัดเพื่อไปใช้สิทธิ์ต่างๆ ของพาสได้


รีวิวแพลนท่องเที่ยวฮิโรชิม่าด้วย Have Fun in Hiroshima Pass

เริ่มการเดินทางที่สถานีรถไฟ Hiroshima ซึ่งเป็นสถานีหลักของเมืองฮิโรชิม่า สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นทุกขบวนจาก Shin-Osaka ประมาณ 1 ชม. 30 นาทีหรือจากสถานี Hakata ประมาณ 1 ชม.

ไปขึ้นรถรางเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima Streetcar) ติดกับสถานีรถไฟฝั่ง South Exit นั่งรถรางสาย 1 ไปยัง Hiroshima Port โดยรถรางมีออกเฉลี่ยทุกๆ 10 นาที ราคาคนละ 220 เยน สามารถจ่ายด้วยบัตร IC Card อย่าง Suica, Pasmo, ICOCA ได้ หรือจ่ายเป็นเงินสดเมื่อออกจากรถที่สถานีปลายทาง

นั่งสุดสายไปลง Hiroshima Port ใช้เวลาประมาณ 35 นาที จากนั้นเดินไปที่ Hiroshima Port Information Center ติดต่อเคาน์เตอร์เรือเฟอร์รี่ไปคุเระ (Kure) โดยสามารถยื่นโทรศัพท์ที่มี QR Code เพื่อแลกสิทธิ์แรกในการใช้เรือเฟอร์รี่เที่ยวเดียวจากท่าเรือ Hiroshima และท่าเรือ Kure

ตารางเดินเรือเฟอร์รี่ Hiroshima – Kure (มุ่งหน้าไป Matsuyama)

Hiroshima PortKure Port
6:457:30
8:159:00
9:2010:05
11:2012:05
12:2513:10
13:5514:40
15:1015:55
17:1518:00
19:4520:30
Kure PortHiroshima Port
8:209:05
10:2011:05
11:3012:15
13:0013:45
14:1014:55
16:1016:55
17:1518:00
18:4519:30
20:0020:45
22:0522:50

ตารางเวลาอาจเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่นั่งห้องแอร์ โซฟา เสื่อ ร้านกาแฟ ห้องน้ำ ตู้กดน้ำ และจุดชมวิวด้านนอก นั่งเรือชิลๆ 45 นาทีชมบรรยากาศทะเลใน Seto ที่รายล้อมไปด้วยเกาะต่างๆ

เมื่อถึงใกล้คุเระแล้วให้มองหาเจ้าหน้าที่ที่เพื่อเตรียมออกจากเรือ เนื่องจากเรือจะเดินทางต่อไปมัตสึยาม่าจึงมีเวลาไม่มากและทางออกไม่ใช้ทางเดียวกับที่เดินเข้ามา ขนาดคนญี่ปุ่นหลายคนยังหลงทางได้

จากท่าเรือคุเระ สามารถเดินไปยังสถานที่เที่ยวต่อไปได้ นั้นคือพิพิธภัณฑ์เรือยามาโตะ (Yamato Battleship Museum) แสดง QR Code ไปแลกรับบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์และเวาเชอร์ซื้อสินค้าที่ระลึกมูลค่า 1,000 เยน

เรือรบยามาโตะเป็นเรือประจันบานลำใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นับเป็นความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะเมืองคุเระ ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือรบลำนี้ แต่สุดท้ายแล้วเรือรบยามาโตะก็ถูกโจมตีจนจมลงกลางทะเล 4 เดือนก่อนสงครามจะจบโดยการทิ้งระเบิดปรมาณูลงฮิโรชิม่าและนางาซากิในปี ค.ศ. 1945

ภายในพิพิธภัณฑ์เรือยามาโตะจัดแสดงโมเดลจำลองขนาดย่อส่วน 10 เท่า ของเรือยามาโตะ และนิทรรศการประวัติของเรือยามาโตะรวมถึงอาวุธยุโธปกรณ์อื่นๆ ในกองทัพเรือจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น เช่น เครื่องบินรบ “Zero” และเรือดำน้ำตอปิโดพลีชีพ “Kaiten”

จากพิพิธภัณฑ์เรือยามาโตะสามารถเดินไปยังสถานี Kure แล้วนั่งรถไฟ Local สาย Kure Line กลับสถานี Hiroshima ได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งถ้าซื้อพร้อมกับพาสของ JR West อย่าง Kansai Hiroshima Area Pass สามารถขึ้นได้ฟรี

เมื่อกลับมาที่สถานี Hiroshima สามารถแลกสิทธิ์สุดท้ายที่ห้าง ekie สถานี Hiroshima โดยนำ QR Code ไปแสดงให้เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ Information center ชั้น 2 เพื่อรับ Gift Voucher มูลค่า 1,500 เยน สำหรับซื้อสินค้าภายในห้าง ekie

สรุปค่าใช้จ่าย Have Fun in Hiroshima Pass มูลค่า 3,500 เยน

  • เรือเฟอร์รี่ 1 เที่ยว Hiroshima – Kure ราคา 1,000 เยน
  • บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือยามาโตะ + เวาเชอร์สินค้า รวม 1,500 เยน
  • เวาเชอร์ ekie สถานี Hiroshima มูลค่า 1,500 เยน

สนใจซื้อพาส Have Fun in Hiroshima Pass กดดูสินค้าด้านล่างได้เลย