ตะลุยเที่ยวทั่วญี่ปุ่น เก็บให้ครบ 8 ภูมิภาค ด้วย “JR Rail Pass” ตั๋วรถไฟที่ใช้ได้ทั่วประเทศ

ตะลุยเที่ยวทั่วญี่ปุ่น เก็บให้ครบ 8 ภูมิภาค ด้วย “JR Rail Pass” ตั๋วรถไฟที่ใช้ได้ทั่วประเทศ

สำหรับใครที่หลงรักและชื่นชอบประเทศ “ญี่ปุ่น” มากๆ การได้ไปเที่ยวทั่วประเทศ สัมผัสเสน่ห์ เรื่องราว และวัฒนธรรมอาหารการกินที่แตกต่างกันออกไป คงเหมือนฝันที่อยากให้เป็นจริง JAPAN ALL PASS ชวนเพื่อนๆ มาสานฝันเที่ยวทั่วญี่ปุ่นด้วย บัตร JR Rail Pass ใบเดียวรันหมดทุกภูมิภาค ว่าแต่ภูมิภาคทั้ง 8 พื้นที่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย

1. ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido) 

ฮอกไกโด (Hokkaido) จังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่งดงาม เช่น ภูเขาไฟอาชิได และน้ำพุร้อน นอกจากนี้ยังมีเทศกาลหิมะที่จัดขึ้นในฤดูหนาวและอาหารทะเลสดๆ ที่ขึ้นชื่อ เช่น ปูขน และปูทาราบะ ทำให้ฮอกไกโดเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการเล่นสกีด้วย

Beautiful sunny day at Noboribetsu Jigokudani or Hell Valley in Hokkaido, Japan. Autumn season, red leaves, blue sky and sulfur gas steaming out from ground.

2. ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) 

ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ อาโอโมริ, อิวาเตะ, มิยางิ, อากิตะ, ยามากาตะ, และ ฟุกุชิมะ ไฮไลท์ของภูมิภาคนี้ หนีไม่พ้นความเป็นธรรมชาติ ภูเขาที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งน้ำพุร้อน รวมถึงเทศกาลดั้งเดิม เช่น เทศกาลทานาบาตะ นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นอร่อย เช่น อาหารทะเลและข้าวที่มีคุณภาพดี 

3. ภูมิภาคคันโต (Kanto) 

ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ โตเกียว, คานากาวะ, ไซตามะ, ชิบะ, อิบารากิ, ทชิงิ, และ กุมมะ ไฮไลท์ของภูมิภาคนี้ คือ เมืองหลวงโตเกียวที่เต็มไปด้วยความทันสมัย วัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เช่น วัดเซ็นโซจิในอาซากุสะ และภูเขาฟูจิที่อยู่ใกล้เคียง

4. ภูมิภาคชูบุ (Chubu) 

ประกอบด้วย 9 จังหวัด ได้แก่ นากาโนะ, ชิซูโอกะ, ไอจิ, กิฟุ, ฟุคุอิ, โตคิชิ, โทยามะ, อิชิคาวะ และ นีงาตะ ไฮไลท์ของภูมิภาค คือ ภูเขาฟูจิ สัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงของประเทศ แหล่งน้ำพุร้อนในเมืองชิราฮามะ และอาหารท้องถิ่นอย่าง เนื้อวัวเกรดพรีเมียม เช่น เนื้อโกเบ 

5. ภูมิภาคคันไซ (Kansai) 

ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ เกียวโต, โอซาก้า, โกเบ, นารา, ชิงะ, และ วาคายามะ จุดเด่นคือ เรื่องวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น วัดคินคะคุจิ และ ปราสาทโอซาก้า รวมถึงอาหารอร่อยอย่าง โอโคะโนมิยากิ และ ทาโกะยากิ ที่สามารถหาได้ในย่านชินไซบาชิ รวมถึงสวนสนุก Universal Studio ในจังหวัดโอซาก้า

6. ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) 

ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ฮิโรชิมะ, โอคายามะ, ซิมาเนะ, ทตโตริ, และ ยะมะกุจิ ไฮไลท์ของภูมิภาคนี้ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิมะ, เกาะมิยาจิมะ ที่มีศาลเจ้าอิตสึคุชิมิที่สวยงาม และอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ เช่น หอยนางรม และ เนื้อวัวฮิโรชิมะ 

Ancient wooden torii gate in middle sea of unesco world heritage site
Tree branch and red leaf in Autumn season, Girl sit on the bench, look at Atomic Dome from Hiroshima Peace Memorial park at Hiroshima, Japan.

7. ภูมิภาคชิโกกุ (Shikoku) 

ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ โตคุชิมะ, คาเกะวะ, เอฮิเมะ, และ โคชิ ไฮไลท์ของภูมิภาคนี้คือ เส้นทางแสวงบุญ 88 วัด ที่มีชื่อเสียง, สวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์, และน้ำพุร้อนที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นที่อร่อย เช่น โซบะ และ อาหารทะเลซีฟู้ด 

8. ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) 

ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ ฟุกุโอกะ, คุมะโมโตะ, นางาซากิ, ซากะ, นางาโนะ, คุมาโมโตะ, และ โออิตะ ไฮไลท์ของภูมิภาค มีตั้งแต่น้ำพุร้อน ที่มีชื่อเสียง, ภูเขาไฟอะโซ, และ อาหารท้องถิ่น อย่างราเมนคิวชูและเนื้อหมูคุมาโมโตะ นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม แถมยัง ปราสาทคุมาโมโต้ ที่เก่าแก่และน่ามาเยือนอีกด้วย

Bronze buddha statue in Nanzo-in Temple, Fukuoka, Japan

หลังจากเช็คลิสต์ทั้ง 8 ภูมิภาคเรียบร้อย ก็อย่าลืมมองหา “JR Pass” ไว้เป็นบัตรผ่านทางขั้นเทพ พาคุณขึ้นรถไฟ JR ได้ทุกภูมิภาค จะเที่ยวแบบ 7 วัน หรือ 14 วันก็คุ้มค่า

แต่ที่สำคัญห้ามลืม! eSim แพ็คเกจ 5G ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกอัพเดทในโลกโซเชียล จะไปกี่วันก็เลือกได้เลย

สรุปแพลนเที่ยว ต้องมีอะไรบ้าง

1. Japan Rail Pass 7, 14 Days
https://shorturl.asia/7XF0D

2. eSIM

◾️ eSIM Plus+ เน็ตเร็วเต็มสปีด แชร์ Mobile Hotspot
https://shorturl.asia/GUn9i

◾️ e-SIM Japan Unlimited 5Mbps ฟรี เน็ตเต็มสปีด 1GB
https://shorturl.asia/10PWj

◾️ e-SIM Japan Unlimited เน็ตไม่ลดสปีด
https://shorturl.asia/frlsQ

ใบไม้เปลี่ยนสีวัดนันเซ็นจิ (Nanzen-ji) 

ใบไม้เปลี่ยนสีวัดนันเซ็นจิ (Nanzen-ji) 

Nanzen-ji (南禅寺) วัดนิกายเซนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Higashiyama ทางด้านทิศตะวันออกของกรุงเก่าเกียวโต พื้นที่ภายในประกอบด้วยกลุ่มอาคารและวัดเล็กวัดน้อยอีกหลายวัดที่สำคัญคือ Sanmon Gate, Nanzenji’s main hall / Hojo, Nanzenin Temple complex, Konchi-in Temple, และ Tenjuan Temple

Nanzen-ji มีชื่อเสียงมากในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี พื้นที่ส่วนกลางของวัดเปิดให้เข้าชมได้ฟรี แต่จะมีอีกหลายๆส่วนที่จะเสียค่าเข้าชม และมีเวลาเปิด-ปิดแยกต่างหากของแต่ละส่วน ที่ด้านหน้าสุดของวัดจะพบกับอาคารไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประตู Sanmon Gate ซึ่งสามารถขึ้นไปเดินที่ระเบียงด้านบนเพื่อชมวิวโดยรอบของวัดได้ด้วย

ข้อมูลใบไม้เปลี่ยนสีวัด Nanzen-ji (南禅寺) 
วันที่ใบไม้เริ่มจับสี : กลางเดือนพฤศจิกายน
วันที่ชมได้งาม : กลาง – ปลายเดือนพฤศจิกายน

ชื่อสถานที่ : Nanzen-ji (南禅寺)  
พิกัด : 35.01152, 135.79450
Mapcode : 7 620 890*00

การเดินทาง

  • รถไฟใต้ดิน Tozai Line : เดิน 10 นาที จาก Keage Station
  • รถบัสสาย 5 : เดิน 10 นาที จาก Nanzenji-Eikando-michi bus stop

ใบไม้เปลี่ยนสีน้ำตกมิโน (Minoo)

ใบไม้เปลี่ยนสีน้ำตกมิโน (Minoo)

สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในโอซาก้าที่ในยามปกติไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากนัก แต่กลับเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาเยือน ซึ่งถือว่าเป็น THE MUST ที่ไม่ควรพลาดคือ น้ำตก Minoo และวัด Katsuo-ji 

น้ำตกมิโน (Minoo Waterfall / 箕面大滝) ตั้งอยู่ในสวนมิโน (Minoo Park) บนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าเปลี่ยนสี การเข้าถึงตัวน้ำตกต้องเดินเท้าจากสถานีรถไฟมิโนผ่านเขตชุมชนและป่าใบไม้เปลี่ยนสีด้วยระยะทางประมาณ 2.6 กม. โดยจะเป็นทางขึ้นเนินเขาแบบไม่ชันมากนัก ตลอดระยะทาง 2.6 กม. มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นป่าเปลี่ยนสีที่สวยงาม วัด ลำธารน้ำธรรมชาติ 

ข้อมูลใบไม้เปลี่ยนสีที่บริเวณน้ำตกมิโน
วันเริ่มจับสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน
วันที่ชมได้งาม : กลาง – ปลายเดือนพฤศจิกายน 

การเดินทางสู่น้ำตกมิโน :
นั่ง Hankyu Takarazuka Line จากสถานี Hankyu Umeda มาลงที่สถานี Ishibashi จากนั้นเปลี่ยนมานั่ง Hankyu Minoo Line (ไปอีกสองสถานี) ลงสถานี Minoo 

ชื่อสถานที่ : Minoo Waterfall (箕面大滝) 
พิกัด : 34.85397, 135.47203
Mapcode : 52 071 089*68

8 พิกัด ภูมิภาคคิวชู เที่ยวสนุกด้วย JR Kyushu (North) Rail Pass 3 วัน ไม่มีหยุด

8 พิกัด ภูมิภาคคิวชู เที่ยวสนุกด้วย JR Kyushu (North) Rail Pass 3 วัน ไม่มีหยุด

ภูมิภาคคิวชู ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในด้านธรรมชาติอันสวยงาม และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน วัฒนธรรมอันหลากหลาย รอให้ทุกคนมาพบเจอ Japan All Pass ขอแชร์แผนเที่ยวกับ 8 พิกัด ในภูมิภาคนี้ จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ห้ามพลาด ตามไปดูกันเลย 

1. ฮากาตะ (Hakata)

ตั้งอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชู ถือเป็นย่านที่คึกคักและเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญ มีทั้งสถานี Hakata ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟชินคันเซ็นและสนามบินฟุกุโอกะ ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการลอง “ฮากาตะ ราเมน” ซึ่งมีน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นที่โด่งดังระดับประเทศ รวมถึงย่านช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิงมากมาย

Google map : https://maps.app.goo.gl/ZXuLJo7ueDATzcoL8 

2. โคคุระ (Kokura)

หนึ่งย่านยอดนิยมในในเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ที่นี่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นที่ตั้งของ ปราสาทโคคุระ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวมักมาเยี่ยมชม นอกจากนี้ ยังมีแหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารมากมาย ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบครันสำหรับการช้อปปิ้งและสำรวจวัฒนธรรม

Fukuoka, Japan – April 10, 2014: Kokura Castle is a Japanese castle in Kitakyushu, in Fukuoka Prefecture, Japan. Kokura Castle was built by Hosokawa Tadaoki in 1602. The castle was burnt down in 1866 and was fully restored in 1990.

Google map: https://maps.app.goo.gl/AtY9ZoMeWikS1eqy5

3. ซากะ (Saga) 

จังหวัดในภูมิภาคคิวชูที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารที่อร่อยและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไฮไลท์ของซากะคือ ปราสาทซากะ ที่ตั้งอยู่กลางเมือง และเมืองอุเรชิโนะเป็นที่รู้จักในเรื่องน้ำพุร้อน อีกทั้งยังมีเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมากขึ้น

Google map: https://maps.app.goo.gl/3Vcwe2j595RVkYdN7

4. คุมะโมโตะ (Kumamoto) 

จังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านปราสาทคุมะโมโตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความงดงามและมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น นอกจากนี้ คุมะโมโตะ ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารอร่อย โดยเฉพาะเนื้อหมูคุมะโมโตะที่มีรสชาติหวานและนุ่ม รวมถึงน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากมายในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้คุณผ่อนคลายและสัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม

Google map: https://maps.app.goo.gl/iUrxrj8Zi8VXYMyj7

5. นางาซากิ (Nagasaki) 

เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่นี่คุณจะได้พบกับสถานที่สำคัญอย่าง สะพานสันติภาพนางาซากิ และสวนสาธารณะนางาซากิ ที่มีการแสดงถึงความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนี้ เมืองนางาซากิยังมีอาหารที่โดดเด่น เช่น ราเมน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาหารที่คุณไม่ควรพลาด

Spectacles Bridge in Nagasaki, Japan at dusk.

Google map : https://maps.app.goo.gl/1iEt23XHfchRMALK9

6. เบปปุ (Beppu)

เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อนในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ และมี “เจ็ดบ่อร้อน” ที่ให้คุณสัมผัสกับน้ำพุร้อนหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ภูเขาเทนจิน และอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ อย่างเกี๊ยวซ่าเบปปุ ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการผ่อนคลาย และสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แท้จริง​

One of the eight hells (Jigoku), multi-colored volcanic pool of boiling water in Kannawa district in Beppu, Japan.

Google map : https://maps.app.goo.gl/zSwjXM6vAR1kg6AR8

7. โออิตะ (Oita) 

จังหวัดที่มีชื่อเสียงรู้จักกันในด้านน้ำพุร้อน โดยเฉพาะในเมืองเบปปุ ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำร้อนในบ่อออนเซ็น มีให้เลือกหลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีทิวทัศน์ของภูเขาและชายหาดที่สวยงาม รวมถึงวัดโบราณที่น่าสนใจอย่าง วัดโซโจจิ ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม 

Google map : https://maps.app.goo.gl/28fN3M67XLhTmw928

8. ซาเซโบ (Sasebo) 

เมืองท่าสวยงามในจังหวัดนางาซากิ ที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสวยและอาหารทะเลสดใหม่ ที่นี่คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุก “ฮาร์เบอร์” ที่มีเครื่องเล่นหลากหลาย รวมถึงสวนสาธารณะซาเซโบ ที่เต็มไปด้วยความร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีอาหารชื่อดังอย่าง “เบอร์เกอร์ซาเซโบ” ที่ไม่ควรพลาด

Google map : https://maps.app.goo.gl/CMYmyBhXbBbQGE9B9

นอกจากจะวางแผนเที่ยวแล้ว อย่าลืมวางแผนการเดินทางในภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ด้วย JR Kyushu (North) Rail Pass แบบ 3 วัน ไม่ต้องเที่ยวแบบชะโงก ก็ได้สัมผัสเต็มอิ่มทุกสถานที่ และห้ามลืม eSim แพ็คเกจ 5G ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกอัพเดทในโลกโซเชียล จะไปกี่วันก็เลือกได้เลย ไปก่อนเริ่มทริปด้วย 

สรุปแพลนเที่ยว ต้องมีอะไรบ้าง

1. JR Kyushu North 3 Days
https://shorturl.asia/4YsSu

2. eSIM
◾️ eSIM Plus+ เน็ตเร็วเต็มสปีด แชร์ Mobile Hotspot
https://shorturl.asia/GUn9i
◾️ e-SIM Japan Unlimited 5Mbps ฟรี เน็ตเต็มสปีด 1GB
https://shorturl.asia/10PWj
◾️ e-SIM Japan Unlimited เน็ตไม่ลดสปีด
https://shorturl.asia/frlsQ



มัดรวมไฮไลท์เด็ด ท้าลมหนาว ทั่วเกาะ Hokkaido 

มัดรวมไฮไลท์เด็ด ท้าลมหนาว ทั่วเกาะ Hokkaido 

มวลอากาศหนาวมาถึงแล้ว ใครที่ยังไม่รู้จะเดินทางออกไปเที่ยวไหน วันนี้ Japan All Pass รวบรวมไฮไลท์เด็ดของเมืองต่างๆ รอบเกาะ Hokkaido ไว้ให้แล้ว เที่ยวง่าย ไร้กังวล ด้วยบัตร JR Hokkaido Rail Pass พร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปสัมผัสความหนาวท่ามกลางหิมะกันได้แล้ว

1. New Chitose Airport

สนามบินแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสนามบินหลักที่มีผู้มาใช้บริการมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูมิภาคฮอกไกโด ที่เมืองชิโตเสะ ซึ่งติดกับเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นจุดเชื่อมการเข้า-ออกภายในฮอกไกโดและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในญี่ปุ่น ที่ให้ความสะดวกสบายและรวดเร็ว 

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด New Chitose Airport
https://maps.app.goo.gl/eE3X8agohs63kx5x6

2. Sapporo

เริ่มต้นรับลมหนาวกันที่ Sapporo เมืองที่ผสมผสานความงดงามทางธรรมชาติและความทันสมัยของเมืองได้อย่างลงตัว ที่มีกิจกรรมให้เลือกทำอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออกไปผจญภัยลุยหิมะกันที่สกีรีสอร์ต หรือจะเป็นการไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมือง อีกทั้งที่นี้ยังเป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์หลักอย่าง เทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ตระการตา

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Sapporo
https://maps.app.goo.gl/cFFy9czo6CVFecBZ8

3. Otaru

เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่งดงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย โอตารุเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาในช่วงฤดูหนาว ทั่วทั้งเมืองจุดเทียนส่องแสงสว่างไสวท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมตลอดสองข้างทาง สร้างบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและโรแมนติก นอกจากยังยังมีสินค้าท้องถิ่นชื่อดังอย่าง กล่องดนตรี งานเครื่องแก้ว Kitaichi ไปจนถึงชีสเค้กแสนอร่อยๆจาก LeTao

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Otaru
https://maps.app.goo.gl/UMKUHSwMrdSB7xR66

4. Hakodate

เมืองท่าติดริมทะเลที่มีเสน่ห์ยามค่ำคืน ด้วยผังเมืองและสิ่งก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งยุโรป จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมความงามที่เป็นเอกลักษณ์นี้ อีกทั้งในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นหิมะปกคลุมทั่วทั้งเมืองและแสงไฟที่ส่องประกายระยิบระยับในช่วงพลบค่ำ ก็เป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างชิล และฮีลใจอยู่ไม่น้อย

Hakodate, Hokkaido, Japan city skyline from Mt. Hakodate at dawn.

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Hakodate
https://maps.app.goo.gl/vjMftkTGdhc9PhSv6

5. Asahigawa

เป็นเมืองขนาดใหญ่รองจากซัปโปโร ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ และวิวสวยๆ ของเมือง ที่นี่แม้ไม่ได้มีความคึกคักมาก แต่ก็มีไฮไลท์เด่นๆ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เช่น การไปดูการโชว์พาเหรดนกเพนกวิน และสัตว์ป่าเมืองหนาวหายากที่สวนสัตว์อาซาฮิยามะ หรือเป็นการไปชิมราเมงต้นตำรับ ที่หมู่บ้านราเม็ง Asahikawa Ramen Village อีกทั้งที่นี้ยังมีเทศกาลฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่อลังกาลไม่แพ้เมืองอื่นๆ ของฮอกไกโด

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Asahigawa
https://maps.app.goo.gl/h6S28kyLLhzBCyNWA

6. Biei

เป็นเมืองเล็กๆ อันแสนสงบที่อัดแน่นไปด้วยวิวธรรมชาติ ป่าเขาและทุ่งกว้างไกลสุดลุกหูลุกตา มีสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่าง น้ำตก Shirahige และ Blue Pond ซึ่งมีความพิเศษที่สีของน้ำเป็นสีฟ้า และถ้ายิ่งมาในช่วงฤดูหนาวที่หิมะปกคลุมขาวทั่วผืนป่าตัดกับสีของบ่อน้ำ ก็สวยจนแถบหยุดหายใจ

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Biei
https://maps.app.goo.gl/uboSwVu2agJWqdoQ9

7. Kushiro

เมืองท่าทางตะวันออกของฮอกไกโด ที่เลื่องชื่อในด้านความสดของอาหารทะเลที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีอุทยานแห่งชาติที่อนุรักษ์สัตว์ป่าหายากอย่างนกกระเรียนมงกุฏแดงที่มักมารวมตัวกันในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ขึ้นชื่อว่าสวยและโรแมนติกที่สุดในฮอกไกโดเลยก็ว่าได้

A red-crowned crane pair duets with exhaling in Tsurui Village, Hokkaido.

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Kushiro
https://maps.app.goo.gl/sxRkV5D1JoXWtJ8Z6

8. Abashiri

เมืองเล็กๆ ที่หันหน้าออกสู่ทะเลโอค็อตสค์ ซึ่งในฤดูหนาวของทุกๆ ปีจะมีธารน้ำแข็งจากขั้วโลกลอยมาบริเวณชายฝั่งของเมือง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนที่นี่ โดยจะเป็นการนั่งเรือออกไปชม นอกจากนี้ที่ยังมีพิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก ให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศและความหนาวของบริเวณขั้วโลกเหนืออีกด้วย

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Abashiri
https://maps.app.goo.gl/tkwrtdHJFJK8tcxt8

9. Wakkanai

เมืองที่อยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีธรรมชาติและบรรยากาศอันเงียบสงบและสวยงาม ที่นี่เน้นการท่องเที่ยวในเชิงของการชมวิวทิวทัศน์ โดยคนมักจะนิยมไปยังบริเวณ แหลมโซยะ จุดเหนือสุดของญี่ปุ่น ที่สามารถมองเห็นเกาะซาฮาลินของรัสเซียอยู่ไกลๆ นอกจากนี้ของสดของทะเลที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าเมืองอื่นๆ ในแถบฮอกไกโด

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Wakkanai
https://maps.app.goo.gl/p2iwHn9CGbrF5TFg9

10. Niseko

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะฮอกไกโด ถือเป็นเมืองสววรค์ของเหล่าบรรดานักเล่นสกีและผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางหิมะ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพของหิมะที่นุ่มฟูและละเอียดราวกับผงแป้ง จึงทำให้เป็นแหล่งรวมของที่พักและสกีรีสอร์ทยอดนิยมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ก็ยังมีเส้นทางเดินเขาและจุดชมวิวที่สวยงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Niseko
https://maps.app.goo.gl/BqwoemdWxuQNYcyA7

11. Noboribetsu

เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนและการแช่ออนเซ็น ซึ่งน้ำแร่ของที่นี้จะคุณสมบัติพิเศษที่ดีต่อผิวพรรณและบำบัดการปวดเมื่อยได้อย่างดี โดยออนเซ็นที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่คือ Jigokudani ที่มีบ่อน้ำแร่และจุดชมวิวปล่องภูเขาไฟที่งดงาม

ข้อมูลเบื้องต้น : 
พิกัด Noboribetsu
https://maps.app.goo.gl/wuX82DFeagumLmsE9

เพลิดเพลินไปกับความหนาวแหน็บ เติมเต็มทริปในฝันของคุณให้ราบรื่น ด้วย JR Hokkaido Rail Pass พาสสำหรับนักเดินทาง ที่นำคุณเข้า-ออกภูมิภาคฮอกไกโด ทุกที่ได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นการชมธรรมชาติที่ Biei หรือการเล่นสกีและหิมะนุ่มฟูที่ Niseko ก็ไม่ใช่เรื่องยาก จองได้แล้วที่นี่

อีกทั้งเรายังมี eSIM ให้เลือกหลากหลายแพ็คเกจ สำหรับนักท่องเที่ยวสายคอนเทนต์

สรุปแพลนเที่ยว ต้องมีอะไรบ้าง

1. JR Hokkaido 5 Days
https://shorturl.asia/6nWf7

2. eSIM
◾️ eSIM Plus+ เน็ตเร็วเต็มสปีด แชร์ Mobile Hotspot
https://shorturl.asia/GUn9i
◾️ e-SIM Japan Unlimited 5Mbps ฟรี เน็ตเต็มสปีด 1GB
https://shorturl.asia/10PWj
◾️ e-SIM Japan Unlimited เน็ตไม่ลดสปีด
https://shorturl.asia/frlsQ

แผนเที่ยว ตะลุยภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ด้วย JR East PASS (Tohoku area) 5 วัน จัดเต็ม

แผนเที่ยว ตะลุยภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ด้วย JR East PASS (Tohoku area) 5 วัน จัดเต็ม

ภูมิภาค “โทโฮคุ” (Tohoku) จุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่ชื่นชมความเป็นธรรมชาติ ที่สวยงาม เต็มไปด้วยภูเขา น้ำพุร้อน และแหล่งท่องเที่ยวที่สงบเงียบ วันนี้ Japan All Pass ขออาสาแชร์พิกัดเมืองน่าเที่ยวในภูมิภาค โทโฮคุ และคันโต โดยใช้ JR East Pass (Tohoku Area) แบบ 5 วัน จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย

1. สนามบินนาริตะ หรือ สนามบินฮาเนดะ (Narita Airport or Haneda Airport)

จุดเริ่มต้นของการเดินทาง โดยสนามบินทั้งสองแห่ง ถือเป็นประตูหลักสู่โตเกียวและประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถนั่งรถไฟ JR เพื่อเดินทางในทริปนี้ได้ 

2. เมืองโตเกียว (Tokyo)
Japan. Tokyo. Asakusa Temple at night. Tourists on Asakusa street. Tourists in night Tokyo. People near the Buddhist pagoda. Pagoda at Sensoji Temple. Tours in Tokyo. Traveling in Japan.
TOKYO, JAPAN – MAY 7, 2017: Crowds pass through Kabukicho in the Shinjuku district. The area is an entertainment and red-light district.

เมืองหลวงที่ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่กับความทันสมัย เต็มไปด้วยแสง สี เสียงตระการตา คุณสามารถเที่ยวชม วัดเซ็นโซจิ แต่ก็สามารถแวะย่านช้อปปิ้ง ชินจูกุ หรือสนุกกับเทคโนโลยีล้ำสมัยใน ย่านอากิฮาบาระ เรียกว่าเที่ยวครบหมดทุกรูปแบบที่นี่ที่เดียว 

3. เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama)
Cityscape of Yokohama at night, Japan

จัดเป็นเมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น ไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ ย่านมินาโตะมิไร (Minato Mirai) เป็นศูนย์กลางความบันเทิงที่มีชื่อเสียง เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าโรงแรม และพิพิธภัณฑ์ราเมน สถานที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักอาหาร สามารถชื่นชมความงามของท่าเรือ และวิวริมทะเลในยามเย็นได้อีกด้วย

4. เมืองอาตามิ (Atami)

อีกหนึ่งเมืองริมทะเลที่มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) และทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ ปราสาทอาตามิ และสวนจิโนะซาวะ เมืองนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติ และยังมีเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี เที่ยวได้ทุกฤดู 

5. เมืองคารุอิซาวะ (Karuizawa) 

เมืองที่เต็มไปด้วยโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ ด้วยชื่อเสียงด้านอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติที่สวยงามของทุ่งหญ้าและป่าไม้ ทำให้ คารุอิซาวะ เป็นที่นิยมในฤดูร้อนสำหรับการเดินป่าและในฤดูหนาวสำหรับการเล่นสกี

6. รีสอร์ท กาล่า ยูซาวะ (สวนจิโนะซาวะ) 

รีสอร์ทสกีที่มีชื่อเสียงในจังหวัดนากาโนะ มีลานสกีที่หลากหลายเหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญ แถมยังเดินทางสะดวกสบายเพราะตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟชินคันเซ็น จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นสกีหรือสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบ

7. เมืองฟุกุชิมะ (Fukushima)

เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำพุร้อนและธรรมชาติที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีสำหรับการเที่ยวพักผ่อน มีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ำตกและสวนที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น นอกจากนี้ ฟุกุชิมะ ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้เป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมและการเกษตรอีกด้วย 

8. เมืองเซนได (Sendai)

เมืองหลวงของจังหวัดมิยางิ ในภูมิภาคโทโฮคุ เป็นที่รู้จักในฐานะ “เมืองต้นไม้” เพราะมีพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะที่สวยงาม เซนได ยังมีวัฒนธรรมที่หลากหลายและมีอาหารท้องถิ่นที่อร่อย เช่น เนื้อวัวเซนได นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญ เช่น ปราสาทเซนได และเทศกาลทานาบาตะ ที่จัดขึ้นในฤดูร้อน ทำให้เซนไดเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว

9. เมืองยามากาตะ (Yamagata)

เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติที่สวยงาม และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นที่รู้จักของแหล่งเพาะปลูกผลไม้รสหวาน เช่น เชอรี่ และแอปเปิ้ลคุณภาพสูง  นอกจากนี้ยังมีน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมกลางแจ้งในฤดูหนาว เช่น สกีที่ภูเขาซาโอะ ทำให้ ยามากาตะ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและการสัมผัสธรรมชาติ

Cobalt blue lake at the top of the mountain
10. เมืองอาคิตะ (Akita City) 

เต็มไปด้วยสถานที่ที่ชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาทิเช่น ปราสาทอาคิตะ ที่เคยเป็นที่ตั้งของผู้ปกครองท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ของเล่นอาคิตะ, สวนเมืองอาคิตะ, ทะเลสาบทาซาวะ, Akita-Dog-Museum และยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหาร เช่น ข้าวอาคิตะ และสุนัขพันธุ์อาคิตะที่โด่งดังอีกด้วย

11. เมืองโมริโอกะ (Morioka)

เมืองหลวงของจังหวัดอิวาเตะ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น ปราสาทโมริโอกะ สวนสาธารณะที่สวยงามเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และยังมีอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ เช่น เนื้อวัวเกรดพรีเมียม และ บะหมี่อิวาเตะ ที่เหล่านักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด 

12. เมืองอาโอโมริ (Aomori) 

ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของเกาะฮอนชู มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารท้องถิ่นอย่าง ตลาดปลาอะโอโมริ ที่นี่จะมีเมนูข้าวที่ให้เราได้สนุกกับการเลือกหน้าอาหารทะเลมาวางลงบนข้าวได้เองตามใจชอบเรียกว่า “Nokke Don” ก่อนอื่นเราต้องซื้อ “Donburi Gohan หรือ ข้าวเปล่าใส่ถ้วย” นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ และ อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ ที่มีความงามของธรรมชาติ ทำให้ อาโอโมริ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสำรวจ

ถึงพื้นที่ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku area) จะมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก แต่ถ้าแค่ทุกคนมีบัตร “JR East Pass Tohoku Area Pass 5 Days” by Japan All Pass ก็ทำให้เรื่องการเดินทางง่ายขึ้นแบบไม่มีอะไรมากั้น

ที่สำคัญห้ามลืม! eSim แพ็คเกจ 5G ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกอัพเดทในโลกโซเชียล จะไปกี่วันก็เลือกได้เลย

สรุปแพลนเที่ยว ต้องมีอะไรบ้าง

1. JR East Pass (Tohoku Area) 5 Days
https://shorturl.asia/14iHS

2. eSIM
◾️ eSIM Plus+ เน็ตเร็วเต็มสปีด แชร์ Mobile Hotspot
https://shorturl.asia/GUn9i
◾️ e-SIM Japan Unlimited 5Mbps ฟรี เน็ตเต็มสปีด 1GB
https://shorturl.asia/10PWj
◾️ e-SIM Japan Unlimited เน็ตไม่ลดสปีด
https://shorturl.asia/frlsQ