ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวน Morioka-jo ato Park

ใบไม้เปลี่ยนสีที่สวน Morioka-jo ato Park

Morioka เมืองหลวงของจังหวัด Iwate (岩手) 1 ใน 6 จังหวัดของภูมิภาค Tohoku อยู่ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร Morioka เคยเป็นสถานีปลายทางของ Tohoku Shinkansen มานาน ทำให้เมืองนี้ที่นอกจากมีธรรมชาติที่งดงามแล้วยังเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญไม่แพ้ Sendai อีกด้วย ….. รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆไปชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในเมือง Morioka ที่สวน Morioka-jo ato Park

Morioka (盛岡) นอกจากมีภูเขา Iwate (岩手) และมีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมืองซึ่งทำให้ Morioka เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงามแล้ว ในตัวเมืองยังมีสวนสวย Morioka-jo ato Park ที่ใบโมะมิจิในสวนจะพร้อมใจกันเปลี่ยนสีอย่างงดงามในช่วงปลายเดือนตุลาคม

สวน Morioka-jo ato Park (盛岡城跡公園) เป็นสวนรอบๆ ปราสาท Morioka castle ruins (ปัจจุบันปราสาทถูกทำลายเหลือแต่ซากปราสาทเท่านั้น) ความงดงามของธรรมชาติภายในสวนนี้เป็นที่เลื่องลือดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาชมสวนนี้ตลอดทั้งปี

โดยช่วงปลายเดือนมีนาคม-ปลายเดือนเมษายน มีดอกบ๊วยและซากุระบานสะพรั่งให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ช่วงเดือนพฤษภาคม มีดอกวิสทีเรีย …กลางเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ดอกกุหลาบบานสะพรั่งทั่วทั้งสวน ส่วนเดือนกรกฏาคม มีดอกไฮเดรนเยีย และช่วงปลายเดือนตุลาคม โมะมิจิพร้อมใจกันเปลี่ยนสีอย่างงดงาม

การเดินทาง : นั่ง Dendenmushi bus จาก JR Morioka (วิ่งวนซ้ายสีเขียว) ที่ป้าย 16 ลงที่ป้าย Moriokajo kouen-mae 

ช่วงเหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

ชื่อสถานที่ : Moriokajo ato Park (Iwate Park/岩手公園)
ค่าเข้าชม : ฟรี

พิกัด : 39.70075, 141.15131
Mapcode : 81 708 677*67

หมู่บ้านซามูไร Kakunodate ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

หมู่บ้านซามูไร Kakunodate ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

Kakunodate แหล่งเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัด Akita ….. สถานที่แห่งนี้สมัยก่อนคือหมู่บ้านซามูไรอายุหลายร้อยปี ….. งดงามมากในทุกฤดู เมื่อยามดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ มีสีสันสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมทั้งช่วงหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว

Location และบรรยากาศย้อนยุคในหมู่บ้านซามูไรเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยือน ถนนหนทางและอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ในหมู่บ้านที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เหมือนในอดีต รวมทั้งยังมีคฤหาสน์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของเหล่าซามูไรหลงเหลืออยู่ ….. ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีเสน่ห์สวยแบบมีมนต์ขลังจนถูกเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนต์อยู่เนืองๆ

บอกได้เลยบรรยากาศภายในหมู่บ้านซามูไรช่วงใบไม้เปลี่ยนสีงดงามมีเสน่ห์มาก ….. จนทำให้รู้สึกเหมือนราวกับว่าเรากำลังเดินอยู่ในหมู่บ้านย้อนยุคไปเมื่อหลายร้อยปีในอดีต

ช่วงเหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากโตเกียวนั่ง Akita Shinkansen มาลงที่สถานี JR Kakunodate แล้วเดินไปหมู่บ้านซามูไรประมาณ 15 นาที หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที

ชื่อสถานที่ : Kakunodate no bukeyashiki (角館の武家屋敷)
ค่าธรรมเนียม : ฟรี

พิกัด : 39.59855, 140.56210
Mapcode : 280 337 386*88

ใบไม้เปลี่ยนสี “Nakano Momijiyama”

ใบไม้เปลี่ยนสี “Nakano Momijiyama”

เมื่อพูดถึง Aomori หลายคนจะนึกถึงปราสาท Hirosaki และทะเลสาบ Towada แต่ที่จริงแล้วสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด Aomori ยังมีอยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะเมื่อฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาเยือนบรรดารีสอร์ท แคมปิ้ง เรียวกัง มินชุคุ รวมทั้งสถานที่เล่นสกีที่มีชื่อเสียงจะถูกจองเต็มหมดก่อน 6 เดือนเลยทีเดียว

หุบเขา Nakano Momijiyama (中野もみじ山) เป็นอีกหนึ่งแหล่งใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง บริเวณหุบเขาแห่งนี้นอกจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า Nakano Jinja ที่ชาวบ้านให้ความเคารพแล้ว เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงเราจะเห็นภาพวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่หุบเขา Nakano Momijiyama ถูกโปรโมทตามสื่อโฆษณาอย่างแพร่หลาย

Nakano Momijiyama ตั้งอยู่ในหุบเขาในเมือง Kuroishi บริเวณหุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยโมะมิจิมากกว่าร้อยสายพันธ์ุ (นำเมล็ดพันธ์ุมาจากเกียวโตเมื่อปี คศ 1803) แต่ละสายพันธ์ุเปลี่ยนสีไม่พร้อมกัน ทำให้ท้่วทั้งหุบเขาเต็มไปด้วยใบไม้หลากสีสันเมื่อฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาเยือน 

การเดินทาง : 
ขาไป จากสถานี Hirosaki นั่งรถไฟ Konan Railway (弘南鉄道)​ มาลงที่สถานี Kuroishi (黒石) ก่อนขึ้นรถบัสจากสถานี Kuroishi ลงป้าย Nakano Jinja-mae (中野神社前) จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
ขากลับ นั่งบัสจากป้าย Nakano Minami-guchi(中野南口) มาลงสถานี Kuroishi (黒石) ก่อนต่อด้วยรถไฟ Konan จาก Kuroishi มา Hirosaki 

  • ช่วงเหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นพฤศจิกายน
  • ชื่อสถานที่ : Nakanomomijiyama (中野もみじ山)
  • ค่าธรรมเนียม : ฟรี
  • เปิดไฟประดับ : หลังพระอาทิตย์ตก ~ 21:00

พิกัด : 40.610593, 140.680811
Mapcode : 804 667 843*15

วิธีการจองตั๋วรถบัสญี่ปุ่น

วิธีการจองตั๋วรถบัสญี่ปุ่น

รถบัสด่วน (Highway Bus) ในประเทศญี่ปุ่นเป็นรถบัสทางไกลที่ใช้ในการเดินทางข้ามเมือง มีที่เก็บสัมภาระใต้ท้องรถ และบางคันมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ห้องน้ำ ปลั๊กไฟ หรือ ช่องเสียบชาร์ต USB ซึ่งรถบัสประเภทนี้ส่วนมากต้องจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนเดินทาง โดยวิธีการจองมีทั้งแบบออนไลน์และจองที่เคาน์เตอร์ที่สถานีรถบัส (Bus Terminal)

สำหรับรถบัสท้องถิ่น (Local Bus) หรือรถบัสที่ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า สามารถขึ้นลงได้ตามตารางเวลาของแต่ละเส้นทาง ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่วิธีการเดินทางด้วยรถบัสญี่ปุ่น

รถบัสญี่ปุ่น

จองรถบัสญี่ปุ่นที่สถานีรถบัส

สถานีรถบัสส่วนมากจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหลักของเมืองนั้นๆ ซึ่งด้านในจะมีเคาน์เตอร์จองรถบัสด่วนที่สามารถจองกับเจ้าหน้าที่ได้ หรือบางแห่งจะมีตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติให้ผู้โดยสารจองด้วยตัวเอง วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการจองและจ่ายเงิน รวมถึงเหมาะสำหรับคนที่ใช้พาสรถบัส หากกังวลเรื่องภาษา สามารถเขียนข้อความภาษาอังกฤษลงบนกระดาษ ระบุวันที่เดินทาง ต้นทาง-ปลายทาง จำนวนคน แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่หารอบรถและออกตั๋วให้ โดยสามารถจ่ายเงินสด บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตได้


จองรถบัสญี่ปุ่นทางออนไลน์

เว็บไซด์จองรถบัสด่วนแต่ละเส้นทาง ต้องจองตรงกับผู้ประกอบการรถบัสแต่ละพื้นที่ โดยระบบจองตั๋วออนไลน์จะเปิดให้จองล่วงหน้า 1 เดือนก่อนวันเดินทาง โดยสามารถจ่ายเงินด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตเท่านั้น

Willer Express บริษัทรถบัสที่มีเส้นทางทั่วญี่ปุ่น (ยกเว้นฮอกไกโด) ให้บริการทั้งรถบัสรอบกลางวันและกลางคืน มีประเภทที่นั่งหลากหลายตั้งแต่ที่นั่งธรรมดา ไปจนถึงที่นั่งแคปซูลที่สามารถเอนนอนได้สบาย เว็บไซด์สามารถจองรถบัสของบริษัท Willer Express รวมถึงบริษัทพาร์ทเนอร์อื่นๆ

JR Buses รถบัสในเครือ JR Group ที่มีเส้นทางครอบคลุมทั่วประเทศผ่านบริษัทลูก 8 บริษัท JR Hokkaido Bus, JR Tohoku Bus, JR Kanto Bus, JR Tokai Bus, Nishinihon JR Bus, Chugoku JR Bus, JR Shikoku Bus และ JR Kyushu Bus มีจุดหมายหลักตามสถานีรถไฟ JR แต่เป็นตัวเลือกการเดินทางในราคาที่ประหยัดกว่ารถไฟ

Highwaybus.com เว็บไซด์ของบริษัท Keio Dentetsu Bus ซึ่งมีสถานีรถบัสหลักที่ชินจูกุ โตเกียว เว็บไซด์รองรับภาษาไทยและสามารถจองรถบัสด่วนในภูมิภาคต่างๆ เช่น เมืองหลักอย่าง โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า ฟูจิ-คาวากูจิโกะ คามิโคจิ ชิราคาวาโกะ เป็นต้น

รถบัสด่วนบางเส้นทาง เช่น รถบัสสนามบิน สามารถซื้อตั๋วในราคาพิเศษออนไลน์โดยไม่ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า เนื่องจากมีรอบรถถี่ และสามารถจองหน้างานได้เมื่อนำตั๋วที่ซื้อออนไลน์มายื่นให้เจ้าหน้าที่


เที่ยวญี่ปุ่นภูมิภาคโทโฮคุ ใช้พาสอะไรดี?

เที่ยวญี่ปุ่นภูมิภาคโทโฮคุ ใช้พาสอะไรดี?

ภูมิภาคโทโฮคุ เป็นภูมิภาคทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ อาโอโมริ (Aomori), อากิตะ (Akita), อิวะเตะ (Iwate), ยามากาตะ (Yamagata), มิยากิ (Miyagi) และฟุกุชิมา (Fukushima) วันนี้ Japan All Pass จะมาแนะนำพาสรถไฟเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุมาเปรียบเทียบกัน


ตารางเปรียบเทียบพาสรถไฟเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ

※ เด็กอายุ 6-11 ปี คิดราคาครึ่งหนึ่งของราคาผู้ใหญ่


ข้อดีของ JR East Pass (Tohoku Area)

  • ใช้กับรถไฟ JR East ประเภทรถไฟธรรมดา รถเร็ว รถด่วนพิเศษ และชินคันเซ็นได้ทุกเส้นทาง ภายในพื้นที่โทโฮคุและคันโตได้
  • ใช้กับรถไฟจากสนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ และสนามบินเซ็นได ได้
  • จองที่นั่งรถไฟภายในเส้นทางที่ใช้พาสได้ฟรี

ข้อเสียของ JR East Pass (Tohoku Area)

  • ต้องวางแผนเดินทางไกลติดต่อกันหลายวันเพื่อใช้พาสให้คุ้มค่า
  • ไม่สามารถใช้กับรถไฟใต้ดินในเมืองโตเกียวได้

พื้นที่ที่สามารถใช้พาส JR East Pass (Tohoku Area)

โทโฮคุ JR East Pass Tohoku

ข้อดีของ JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass

  • ใช้กับรถไฟ JR East ประเภทรถไฟธรรมดา รถเร็ว รถด่วนพิเศษ และชินคันเซ็นได้ทุกเส้นทาง ภายในพื้นที่โทโฮคุและฮอกไกโดตอนใต้ได้
  • ใช้กับรถไฟ JR Hokkaido ประเภทรถไฟธรรมดา รถเร็ว รถด่วนพิเศษ และชินคันเซ็น ภายในพื้นที่พาสได้
  • ใช้กับรถไฟจากสนามบินเซ็นไดและนิวชิโตเสะได้
  • จองที่นั่งรถไฟภายในเส้นทางที่ใช้พาสได้ฟรี

ข้อเสียของ JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass

  • ไม่สามารถใช้รถไฟจากโตเกียว สนามบินนาริตะ และสนามบินฮาเนดะได้
  • ต้องวางแผนเดินทางไกลติดต่อกันหลายวันเพื่อใช้พาสให้คุ้มค่า

พื้นที่ที่สามารถใช้พาส JR Tohoku-South Hokkaido Rail Pass


ข้อดีของ JR East-South Hokkaido Rail Pass

  • ใช้กับรถไฟ JR East และ JR Hokkaido ประเภทรถไฟธรรมดา รถเร็ว รถด่วนพิเศษ และชินคันเซ็นได้ทุกเส้นทาง ภายในพื้นที่โทโฮคุ คันโต และฮอกไกโดตอนใต้ได้
  • ใช้กับรถไฟจากสนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ สนามบินเซ็นได และสนามบินนิวชิโตเสะได้
  • จองที่นั่งรถไฟภายในเส้นทางที่ใช้พาสได้ฟรี

ข้อเสียของ JR East-South Hokkaido Rail Pass

  • ต้องวางแผนเดินทางไกลติดต่อกันหลายวันเพื่อใช้พาสให้คุ้มค่า
  • ไม่สามารถใช้กับรถไฟใต้ดินในเมืองโตเกียวหรือซัปโปโรได้

พื้นที่ที่สามารถใช้พาส JR East-South Hokkaido Rail Pass


Hirosaki Castle ความสวยงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

Hirosaki Castle ความสวยงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

Hirosaki Castle(弘前城) ปราสาทหนึ่งเดียวในภูมิภาค Tohoku ที่สร้างในสมัยเอโดะ สวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น พื้นที่ภายในกว้างขวางมากเต็มไปด้วยสวนและคูน้ำรอบปราสาท

ปราสาท Hirosaki โด่งดังมากเมื่อดอกซากุระกว่า 2,600 ต้น บานในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงโมะมิจิหลายสายพันธ์ุมากกว่า 1,000 ต้น ก็พร้อมใจกันเปลี่ยนสีสวยงามไม่แพ้กัน

Hirosaki Castle Park is one of Japan’s best autumn leaves spots in Tohoku region. With its abundance of the brilliant autumn hues over 1,000 Japanese maples trees.

ทุกๆปีช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีการจัดงานเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี + ดอกเบญจมาศภายในสวนปราสาทฮิโระซากิ บริเวณงานเทศกาลมีการออกร้านขายอาหารและของพื้นเมือง ช่วงเย็นมีเปิดไฟ Light up บรรยากาศโรแมนติกมากๆ

ช่วงเหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง : จากหน้าสถานี JR Hirosaki นั่ง Dotemachi Loop Bus ไปลงหน้าสวน Hirosaki ที่ป้าย Shiyakusho-mae ใช้เวลาบนรถบัส 15 นาที

ชื่องานเทศกาล : Hirosaki Castle Chrysanthemum and Autumn Foliage Festival (弘前城菊と紅葉まつり)
สถานที่จัดงาน : สวนพฤกษศาสตร์ (弘前植物園)
วัน-เวลาจัดงาน : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นพฤศจิกายน
ค่าธรรมเนียม : ชมสวน+ปราสาทราคา 300 เยน / ถ้าเข้าชมโซนสวนพฤกษศาสตร์ด้วย ต้องจ่ายเพิ่มอีก 200 เยน (รวมเป็น 500 เยน)
เปิดไฟประดับ : หลังพระอาทิตย์ตก ~ 21:00

พิกัด : 40.60785, 140.46438
Mapcode : 71 071 544*55