เผยเคล็ดลับเที่ยว ชิราคาวาโกะ แบบไม่ต้องจองล่วงหน้า

การเดินทางเข้าไปเที่ยวที่หมู่บ้านมรดก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

มีวิธีการเดินทางได้ 2 แบบคือ
1 นั่งรถบัส
2 เช่ารถขับไปเอง

เส้นทางการเดินทางเข้าไปที่ชิราคาวาโกะ

เส้นทางการเดินทางเข้าไปที่ชิราคาวาโกะ มีทั้งหมด 3 เส้นทาง
1. เส้นทางจากเมืองคานาซาว่า (Kanazawa)
2. เส้นทางจากเมืองทาคายาม่า (Takayama)
3. เส้นทางชิน ทาคาโอกะ (Shin Takaoka)

เส้นทางที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันก็คือเส้นทางคานาซาว่า และทาคายาม่า ซึ่งทั้งสองเส้นทางนี้จะต้องจองล่วงหน้าจากเมืองไทย ถ้า Walk In เข้าไปอาจจะไม่มีที่นั่ง วันนี้เราจึงมีอีกหนึ่งเส้นทางที่จะมาแนะนำโดยที่ไม่ต้องจองล่วงหน้า คือการเดินทางโดยรถบัส ที่สถานีชิน ทาคาโอกะ (Shin Takaoka) ซึ่งมีให้บริการวันละ 5 เที่ยว/ต่อวัน
การเดินทางจากโอซากา >> โดยใช้ขบวนรถไฟ ธันเดอร์เบิร์ด >> ไปที่คานาซาว่า ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง
การเดินทางจากคานาซาว่า >> นั่งรถไฟโฮคุริคุ ชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen)>>ไปที่สถานี Shin Takaoka ใช้เวลาเพียง 18 นาที


เมื่อถึงเดินทางถึงสถานี Shin Takaoka ให้เราเดินลงบันไดเลื่อนออกที่ประตูฝั่งใต้ จะเจอชานชลารอรถบัส โดยเราจะขึ้นรถที่ Gate 4 พอถึงที่หมายเราสามารถชำระเงินที่เจ้าหน้าที่ขับรถได้เลย ถ้าใครที่มีตั๋ว JR Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถขึ้นรถฟรีได้เลยค่ะ

ข้อดีของการใช้เส้นทาง Shin Takaoka
1. มีเที่ยวรถบัสให้บริการถึง 5 เที่ยว/ต่อวัน
2. ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า
3. วิวทิวทัศน์สองข้างทางสวยงามมากๆ

ทำไมคนไทยถึงนิยมไปเที่ยว ชิราคาวาโกะ?

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกเมื่อปี คศ.1995 ภายในหมู่บ้านที่สวยงามและเป็นแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านในฝันของใครหลายคน ที่มีความสวยทั้งกลางวันและกลางคืน มีทิวทัศน์สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบดั้งเดิมสุดคลาสสิคที่นี่ 

ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกที่มีเสน่ห์แตกต่างกันทุกช่วงฤดู

ฤดูร้อน เป็นฤดูที่มีต้นไม้สีเขียวขจี ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ดูสดชื่นไปหมด

ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เราจะเห็นใบไม้ที่เต็มไปด้วยสีส้ม และสีแดง ทั่วทั้งหมู่บ้าน ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลไปอีกแบบ

ฤดูใบไม้ผลิ เราจะเห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มไปทั่วทุกพื้นที่ของหมู่บ้าน งดงามมากๆ

ฤดูหนาว จะมีหิมะขาวโปรยปราย ปกคลุมไปทั่วบ้านเรือนและต้นไม้ใบหญ้า ดูมีเสน่ห์ล้นเหลือที่สุด

สนามบินใกล้ ชิราคาวาโกะ

สนามบินที่อยู่ใกล้ ชิราคาวาโกะ มากที่สุดมีอยู่ 2 สนามบิน
1 สนามบินคันไซ (Kansai Airport) อยู่ในภูมิภาคคันไซ สามารถนั่งรถไฟขบวน ธันเดอร์เบิร์ด จากคันไซมาที่คานาซาว่าได้เลย
2 สนามบินชบุ เซ็นแทรร์ (Chubu Centrair Airport) อยู่ในเมืองนาโกย่า นั่งขบวนรถไฟ (WIDE VIEW) HIDA ไปลงที่ทาคายาม่า

สรุปข้อแตกต่างการเดินทางแบบจองล่วงหน้า และแบบไม่ต้องจองล่วงหน้า แตกต่างกันอย่างไร

แบบจองล่วงหน้า
1. ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัส ประมาณ 1 ชั่วโมง
2. วิธีการจองค่อนข้างยุ่งยาก และอาจมีค่าใช้จ่ายในการโทรต่างประเทศค่อนข้างสูง
3. หาก Walk In เพื่อไปที่สถานีทาคายาม่า ซึ่งมีเที่ยวรถค่อนข้างน้อยเราอาจจะไม่มีที่นั่ง
4. การเดินทางจากสนามบิน ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า เท่านั้น

แบบไม่ต้องจองล่วงหน้า ที่สถานี Shin Takaoka
1. ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัส ประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
2. สามารถ Walk In ไปขึ้นรถบัสได้เลย และมีที่นั่งแน่นอน
3. มีรถบัสให้บริการถึง 5 เที่ยว/ต่อวัน
4. การเดินทางจากสนามบิน ต้องเดินทางต่อโดยรถไฟชินคันเซ็น ที่ทาคายาม่า และคานาซาว่า ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 20 นาที

JR Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass

ถ้าเพื่อนใช้ตั๋ว JR Takayama-Hokuriku แบบ 5 วัน ก็สามารถนั่งรถบัสเข้าหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ได้ฟรีทั้ง 3 เส้นทางคือ คานาซาว่า ทาคายาม่า และชิน ทาคาโอกะ
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เที่ยวได้ที่ภูมิภาคคันไซ ภูมิภาคชุบุ และนาโกย่า ซึ่งจะมีที่ท่องเที่ยวเช่น
> เกโระออนเซ็น ออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในเมืองเกโระ จ.กิฟุ เป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
> Fukui Prefectural Dinosaur Museum พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับ 1 ในจังหวัดฟุกุอิ
> โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถใช้ Pass JR Takayama-Hokuriku ท่องเที่ยวได้เลยค่ะ

ปักหมุดที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนห้ามพลาด

หน้าร้อนของญี่ปุ่น ร้อนแค่ไหน?

หน้าร้อนของญี่ปุ่นจะเริ่มในช่วงกลางเดือนมิถุนายน – กันยายน เดือนที่ร้อนที่สุดคือสิงหาคม อุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ยประมาณอยู่ที่ 30-35 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนของญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกับเดือนเมษายนของไทยมากเท่าไหร่ ดูแล้วหน้าร้อนของญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นปัญหา หรืออุปสรรคสำหรับคนไทยสักเท่าไหร่ เพราะเรามีสภาพอากาศหน้าร้อนที่ใกล้เคียงกัน

ข้อดีของการเที่ยวญี่ปุ่นในหน้าร้อนก็มีหลายอย่างนะคะ
1. ตั๋วเครื่องบิน และที่พักราคาถูก เพราะเป็นช่วง Low Season ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลง โดยเฉพาะราคาที่พักถูกลงมากกว่าปกติ
2. จัดกระเป๋าเดินทางง่าย เนื่องจากไม่ใช่ฤดูหนาว เราจึงไม่ต้องขนเสื้อผ้ากันหนาวตัวใหญ่ๆ น้ำหนักเยอะๆ ให้ลำบากไงล่ะคะ
3. สินค้าในญี่ปุ่นช่วงฤดูร้อน ลดราคาค่อนข้างมาก สำหรับใครที่เป็นนักช้อป ต้องไม่อยากพลาดแน่นอนค่ะ
4. ไม่ต้องแออัดยัดเยียด เบียดเสียดกับใคร มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าช่วงอื่น ทำให้เราเดินเที่ยวได้แบบชิลๆ เลยค่ะ

วันนี้ขอเลือกสถานที่เที่ยวหน้าร้อนที่ไม่ควรพลาด และน่าสนใจมาให้เพื่อนๆ ชมกันค่ะ

เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

เขื่อนคุโรเบะ เป็นเขื่อนที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังมีสันเขื่อนแนวโค้งใหญ่ที่สุดอีกด้วย ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ.1963 รวมระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 7 ปี ด้วยแรงงานคนประมาณ 10 ล้านคน ถือว่าสิ่งก่อสร้างแห่งนี้ได้สืบทอดผลงานที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ
ไฮไลท์ของเขื่อนแห่งนี้คือการปล่อยมวลน้ำจำนวนมหาศาลออกมาจากสันเขื่อนที่มีความสูงถึง 186 เมตร โดยจะปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้ชมในช่วงเวลาที่จำกัด คือตั้งแต่เดือนมิถุนายน – ตุลาคม เท่านั้น เราจะได้เห็นมวลน้ำขนาดใหญ่ที่พุ่งกระเซ็นออกมากระทบกับแสงแดดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้เห็นรุ้งกินน้ำสีสันสวยงาม และทิวเขาที่มีต้นไม้สีเขียวครึ้มสลับกับร่องรอยของหิมะบางๆบนยอดเขา เป็นบรรยากาศที่งดงามเกินจะบรรยายจริงๆ อยากให้เพื่อนๆได้มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเขื่อนคุโรเบะด้วยตัวเองค่ะ

ทะเลสาบมิคุริกะ (Lake Mikuriga)

ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟทาเตยามะ ซึ่งตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,405 เมตร ถึงแม้ว่าทะเลสาบแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะอยู่ตลอดเวลาจนถึงเดือนมิถุนายน แต่พอเข้าเดือนกรกฎาคม น้ำแข็งจะเริ่มละลายเราจะมองเห็นผิวน้ำสีฟ้าคราม สะท้อนภาพภูเขาทาเตยามะอย่างงดงาม ยาวไปจนถึงเดือนตุลาคมก่อนเข้าฤดูหนาว

ทะเลสาบมิคุริกะ มีเนื้อที่ประมาณ 30,000 ตารางเมตร ความลึก 15 เมตร ความยาวรอบทะเลสาบ 631 เมตรจึงเป็นทะเลสาบที่ใหญ่และลึกที่สุดในมุโรโด ที่รายล้อมไปด้วยป่าสน และบริเวณรอบๆทะเลสาบยังเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้ป่า นานาชนิด เหมาะอย่างยิ่งที่จะสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์กับธรรมชาติที่สวยงาม ที่นึ่จึงเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาชมอย่างไม่ขาดสาย

หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาตามแม่น้ำโชกาวะ (Shokawa River) ในเขตจังหวัดกิฟู (Gifu) ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้เดินชมบ้านที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นสไตล์ กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช”  ซึ่งแปลว่า “พนมมือ”

ชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านในฝันของใครหลายคน ที่มีความสวยทั้งกลางวันและกลางคืน มีทิวทัศน์สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบดั้งเดิมสุดคลาสสิคที่นี่ และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆมากมาย

เกาะอิชิงากิ (Ishigaki Island)

เกาะอิชิงากิ เป็นเกาะหลักของหมู่เกาะยาเอยามะ ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในจังหวัดโอกินาวา บนเกาะมีหาดทรายขาวเนียนละเอียดมากมาย โดยเฉพาะที่หาดโยเนะฮาระ (Yonehara) เป็นจุดเล่นน้ำและดำน้ำตื้นยอดนิยม ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สามารถมองเห็นแนวปะการังสวยงาม เป็นที่เที่ยวที่เหมาะสุดๆ ในการมาเที่ยวหน้าร้อน

ภูมิอากาศของเกาะอิชิงากินั้นอบอุ่นตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 30°C และในฤดูหนาวมีอุณหภูมิประมาณ 20°C ด้วยเหตุนี้คุณสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าต้องการไปเล่นน้ำทะเลและทำกิจกรรมในทะเล แนะนำให้ไปในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงตุลาคมค่ะ

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย เมืองฮาโกเน่

ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกอาจิไซ (Ajisai) ของเมืองฮาโกเน่ (Hakone) จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa)
เป็นดอกไม้ที่ออกดอกเป็นช่อสวยงามหลากสี มีทั้งสีขาว ฟ้า ชมพู เราสามารถชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียด้วยการนั่งรถไฟสายอาจิไซ ซึ่งจะวิ่งผ่านทุ่งดอกไม้เป็นทางยาวสวยงามมาก โดยดอกไฮเดรนเยียจะเริ่มเบ่งบานในช่วงเดือนมิถุนายน และยังเป็นช่วงเวลาที่สถานที่ต่างๆ เช่น วัด ถนน และพิพิธภัณฑ์ของเมือง หรือแม้แต่ทะเลสาบก็ยังเต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยีย บอกเลยค่ะว่าเส้นทางรถไฟสายนี้สุดแสนจะโรแมนติกที่สุดเลยค่ะ

ทุ่งลาเวนเดอร์ (Lavender)

ทุ่งลาเวนเดอร์ในญี่ปุ่นมีอยู่หลายที่ เราอยากแนะนำเพื่อนๆไปชมความงามของที่นี่เลยค่ะ
ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะ (Furano) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เรียกได้ว่าเป็นฟาร์มที่มีชื่อเสียงในเรื่องของทุ่งดอกไม้ที่มีความสวยมากๆที่สุดแห่งหนึ่ง ถือว่าที่นี่เป็นจุดชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง เพราะว่าทิวทัศน์และบรรยากาศงดงามมาก ยังมียังฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ (Tokachi mountain) จะถ่ายภาพมุมไหนก็บอกเลยว่าฟินสุดๆค่ะ

นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกลาเวนเดอร์แล้ว ที่นี่ยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ เป็นทุ่งดอกไม้ 7 สี หรือ ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่มีทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู เรียงรายกันอยู่เต็มทุ่งอย่างสวยงาม และที่ไม่ควรพลาดเลย ต้องมาชิมซอฟท์ครีมลาเวนเดอร์ ที่หอมหวาน อร่อยมากกกก

ฟลาวเวอร์แลนด์ (Flower Land)

ฟลาวเวอร์แลนด์ เมืองฟุราโนะ (Furano) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ทุ่งดอกไม้ใหญ่เวอร์สมชื่อ ฟลาวเวอร์แลนด์ มีดอกไม้หลายชนิดหลายสายพันธุ์ หลากสีสันผลัดกันเบ่งบานในฤดูกาลของตัวเอง เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกป๊อบปี้ และอีกมากมายหลายอย่าง ปลูกลดหลั่นกันบนเนินเขาอย่างสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อน สูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ได้อย่างเพลิดเพลิน

เราพบกับความสวยงามเหล่านี้ได้ในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคม ของทุกปีเลยค่ะ ที่นี่มีรถนำเที่ยวชมทุ่งดอกไม้และพื้นที่ในไร่ เป็นรถลากด้วยแทรคเตอร์ อินกับบรรยากาศสุดฟินของการเที่ยวแบบชาวไร่ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรม work shop หลายอย่าง ทั้งหมอนจากดอกไม้แห้ง ถุงหอม การ์ดที่ทำจากดอกไม้ และป้ายน่ารักๆ ที่เอากลับมาเป็นที่ระลึกได้อีกด้วยค่ะ

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)

ศาลเจ้าเมจิ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตเกียว (Tokyo) ในย่านฮาราจุคุ (Harajuku) ใกล้กับสถานี JR Harajuku

เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชาพระจักรพรรดินี แห่งราชวงศ์เมจิ สร้างขึ้นในปี 1915 จนถึงปี 1920 เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในกรุงโตเกียว ทางเข้าเราจะเห็นเสาโทริอิ (Torii) เป็นเสมือนประตูไม้ให้เราได้เดินเข้าไปสู่โลกแห่งเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ บริเวณโดยรอบศาลเจ้าเต็มไปด้วยต้นไม้กว่า 365 สายพันธ์ ประมาณ 120,000 ต้น พื้นที่นี้มีสีเขียวมากมายและระบบนิเวศที่สมบูรณ์มาก อากาศและบรรยากาศโดยรอบ แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรากำลังอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ความสงบเงียบ ความร่มรื่น สูดหายใจได้อย่างเต็มปอด และสดชื่นมากๆ เป็นที่หลบร้อนในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนมากมายต่างหลงรักค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับที่เที่ยวหน้าร้อนในญี่ปุ่น ที่เรานำมาให้ดูเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นยังมีที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเลยค่ะ ฝากเพื่อนๆติดตาม Japan All Pass นะคะ ว่าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นกันต่อค่ะ


ท่องเที่ยวจังหวัดโอคายาม่า

ฟินกับกิจกรรมกลางกลางแจ้ง พายเรือ เดินป่า เมืองคากามิโนะ ของจังหวัดโอคายาม่า

เติมความสดชื่นให้ตัวเองด้วย กิจกรรมกลางแจ้งทั้งในน้ำและเดินป่าของเมืองคากามิโนะ ( Kagamino)  เช่น Yoka on SUP ที่กำลังนิยม พายเรือคายัคในทะเลสาบ แคนยอนสำหรับเล่นน้ำกลางแจ้ง และเดินป่าบนที่ราบสูง! ทะเลสาบน้ำใสและท้องฟ้าสีฟ้า แนวป่าเขียวขจี ฯลฯ ชวนให้มาสนุกสุดเหวี่ยงกับฤดูร้อนกันอย่างเต็มที่ ที่ “Kagamino Blue” จุดท่องเที่ยวที่ช่วยบำบัดจิตใจและร่างกายให้สดชื่นและเย็นสบาย

Yoka on SUP
Yoka on SUP

กิจกรรม SUP (Stand Up Paddle Board) ที่ยืนบนกระดานโต้คลื่น ใช้พายเคลื่อนตัวไปบนผิวน้ำในขณะทรงตัว ที่ทะเลสาบโอคุสึ เพิ่มความท้าทายด้วยการเล่นโยคะในน้ำบน SUP โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะเติมความสดชื่นให้ร่างกายและจิตใจได้ดีแค่ไหน คุณต้องมาลองด้วยตัวเอง

การทำโยคะในน้ำนี้ สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยทะเลสาบนี้ไร้คลื่นผิวน้ำเรียบสงบเหมาะกับทุกคนแม้จะเพิ่งเริ่มต้นก็ตาม

วันที่ : วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2022 วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 (1) 10: 00-12: 00 น. (2) 13: 30-15: 30

สถานที่ : Lake Okutsu Paddling Field (60-8 Kawachi, Kagamino-cho, Tomata-gun)

ราคา : 7,800 เยน

ความจุ : 2 ถึง 7 คนในแต่ละครั้ง

SUP (Stand Up Paddle Board)
SUP (Stand Up Paddle Board)

ทะเลสาบโอคุสึ ซึ่งมีคลื่นน้อย เป็นสถานที่ที่แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำได้อย่างสบายใจ การพาย SUP นั้นจะมีเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์บนทะเลสาบอันกว้างใหญ่ กับกิจกรรมการพาย SUP สัมผัสสายลมเย็น ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญที่สุภาพ * ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน เปิดทำการเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เท่านั้น

วันที่ : วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึง 30 พฤศจิกายน 2565
* อาจทำได้แม้ในวันธรรมดา

สถานที่ : Lake Okutsu Paddling Field (60-8 Kawachi, Kagamino-cho, Tomata-gun)
ค่าธรรมเนียม : ครอสที่1 : 60 นาที 4,800 เยน / ครอสที่2 :  120 นาที 7,800 เยน
ความจุ : 2 ถึง 6 คน

ประสบการณ์พายเรือคายัคที่ทะเลสาบโอคุสึ
ประสบการณ์พายเรือคายัคที่ทะเลสาบโอคุสึ
ประสบการณ์พายเรือคายัคที่ทะเลสาบโอคุสึ

การพายเรือคายัคไปรอบๆ ทะเลสาบโอคุสึ กับครูฝึกเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง ที่คุณจะได้สัมผัสลมเย็นๆไปพร้อมกับการล่องเรือไปกลางทะเลสาบเพื่อชมธรรมชาติของทะเลสาบ  (Kagamino Lake) ซึ่งเป็นกิจกรรที่เหมาะกับครอบครัวเพราะมีความปลอดภัย คุณสามารถนำเรือคายักมาเองและมีบริการให้เช่าได้แต่ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน

สถานที่ : Lake Okutsu Paddling Field (60-8 Kawachi, Kagamino-cho, Tomata-gun)

ค่าธรรมเนียม :

ครอสที่1 60 นาที 1 ที่นั่ง 3,800 เยน 2 ที่นั่ง 5,800 เยน

ครอสที่2 120 นาที 1 ที่นั่ง 6,300 เยน 2 ที่นั่ง 8,800 วงกลม

Sawa สำรวจหุบเขาลึก
Sawa สำรวจหุบเขาลึก

กิจกรรมสำรวจ Sawadori ที่มีผู้สอนและนำทาง ที่จะพาคุณไปสำรวจในหุบเขา Izumigen ซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร  และเรียงรายไปด้วยน้ำตกขนาดเล็กและขนาดกลางลดหลั่นกัน มีอุปกรณ์พื้นฐานให้เช่าจึงสะดวกมาก มาสัมผัสอากาศเย็นของแม่น้ำแม้ในฤดูร้อน!

วันที่ : 30 กรกฎาคม (วันเสาร์), 16 สิงหาคม (วันอังคาร), 2022 13: 00 น. – 15: 30 น.

สถานที่ : Mizunosato Okutsuko “Public Relations Exhibition Hall” Meeting, Izumigen Valley Information Schedule

ค่าธรรมเนียมที่กำหนด : 1 คน 4,800 เยน (ค่าแนะนำ, ค่าประกัน , ชุดประดาน้ำ, เสื้อชูชีพ, หมวกกันน็อคให้เช่า * นำถุงมือและแว่นตามาเอง)

ความจุ : 5 ถึง 10 คนในแต่ละครั้ง

ทัวร์เดินป่าทาคาชิมิสึ
ทัวร์เดินป่าทาคาชิมิสึ

“เส้นทางทาคาชิมิสึ” เป็นเส้นทางเดินป่าที่ลัดเลาะผ่านความเขียวขจีและชุ่มชื่นเต็มเปี่ยมความสดชื่นกลางธรรมชาติ มีทางเดินไปตามสันเขาตามแนวชายแดนระหว่างเมืองคางามิโนะและเมืองมิซาสะ จังหวัดทตโตริ และบริเวณเหนือสุดของจังหวัดโอคายามะ ในเส้นทางเดินทางจะเต็มไปด้วยใบไม้ทับถมกันจนนุ่มอยู่ในป่าบีชดึกดำบรรพ์เ จึงเดินได้อย่างสบาย หากเริ่มเดินป่าในช่วงเช้าสำหรับผู้มีประสบการณ์จะใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง และสำหรับมือใหม่ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง

วันที่ดำเนินการ :

[ขั้นสูง] แผนสำรวจเส้นทาง / วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2565 วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2565 09 : 30 น. * ผู้ใหญ่เท่านั้น

[ระดับกลาง] แผนเดินป่าตอนเช้า Beech primordial forest Course / 2022 22 กรกฎาคม (ศุกร์), 23 ( เสาร์), 19 สิงหาคม (ศุกร์), 20 (เสาร์), 9 กันยายน (ศุกร์), 10 (เสาร์) 07: 00 -10: 00 น. ทุกวัน

สถานที่ : Ningyo-toge ที่จอดรถ

ค่าธรรมเนียมการออกเดินทาง :

[ขั้นสูง] 5,000 เยนต่อคน (ค่าไกด์, ค่าประกัน, ค่าขึ้นภูเขา, ค่าแท็กซี่รวม)

[ระดับกลาง] 2,800 เยนต่อคน, นักเรียนมัธยมต้นหรือต่ำกว่า 2,200 เยน (ค่าแนะแนว, ค่าประกัน) , รวมค่า Omusubi และค่าเช่า)

ความจุ : 5 ถึง 20 คนทุกครั้ง

ข้อมูลติดต่อ

สำนักงานใหญ่ส่งเสริมสุขภาพเมือง

Kagamino 60-8 Kawachi, Kagamino-cho, Tomata-gun Okutsu Lake ศูนย์ข้อมูลทั่วไป “Mizu no Sato Okutsu Lake” ห้องนิทรรศการประชาสัมพันธ์

TEL :+(81) 0868-52-9100

เส้นทางท่องเที่ยวรอบทะเลสาบทาซาวะ @AKITA

สถานที่ท่องเที่ยวในทะเลสาบทาซาวะ

การเดินทางไป ทะเลสาบทาซาวะ นั้นด้วยรถไฟชินคังเซนนั้นสะดวกมากเพราะมี สถานี JR ทาซาวาโกะ จะอยู่ใกล้ที่สุดหากเดินทางด้วย ขบวน Akita Shinkansen Komachi ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาทีจากโตเกียวและประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากเซนได หากต้องการความสะดวกยิ่งขึ้นก็แนะนำให้เช่ารถเพื่อเยี่ยมชมรอบทะเลสาบทาซาวะ และยังมี รถบัสประจำทางสายวงเวียนทะเลสาบ โดย เริ่มจากสถานี JR ทาซาวาโกะ ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้ขับรถได้ก็สามารถเลือกเดินทางโดยรถประจำทางได้ ทะเลสาบทาซาวะมีชื่อเสียงในฐานะ ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น (ความลึก 423.4 เมตร) และศาลเจ้าโกซาโนอิชิ รูปปั้นทัตสึโกะ และศาลเจ้าอุกิกิที่ยืนอยู่ริมทะเลสาบเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด และคุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของแต่ละฤดูกาล

Statue of Tatsuko
Statue of Tatsuko
Gozanoishi Shrine
Gozanoishi Shrine
Ugo Kotsu Bus

สัมผัสประสบการณ์กิจกรรมรอบทะเลสาบทาซาวะ

Tazawako Ski Resort
Tazawako Ski Resort
Tazawako Ski Resort

มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมายบนชายฝั่งของทะเลสาบทาซาวะ มีทั้งการขับรถ/เช่ารถขับชมวิวริมทะเลสาบ, เรือสำราญทาซาวาโกะ, ประสบการณ์ SUP, ซาวน่าทาซาวาโกะ ล้วนเป็นกิจกรรมที่ให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติของทะเลสาบทาซาวะอย่างใกล้ชิด และยังมีที่พักส่วนตัว สถานที่ตั้งแคมป์ เพื่อประสบการณ์ที่แตกต่างกันตามฤดูกาลต่างๆ เช่น ในฤดูหนาวมีกิจกรรมบนหิมะที่ Snowshoe และ Tazawako Ski Resort คุณสามารถพบกับ Akita Inu ได้ที่พระราชวัง Kyoei บนชายฝั่งทะเลสาบทาซาวะ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครของจังหวัดอาคิตะบนชายฝั่งของทะเลสาบทาซาวะ!

Lake Tazawa pleasure boat 
Tazawako Sauna

นิวโตะ ออนเซ็นเคียว

Tsurunoyu

ในบริเวณ อุทยานแห่งชาติโทวาดะ ฮาชิมันไต (Towada Hachimantai National Park) มีที่พัก 7 แห่งที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่ที่เชิงเขา Nyuto เรียกว่า “Nyuto Onsenkyo” บางแห่งมีลักษณะเป็นโรงเตี๊ยมซึ่งมีที่มาของตัวเอง คุณภาพของน้ำแร่และบรรยากาศของโรงเตี๊ยมก็ต่างกัน นิวโตะ ออนเซ็นเคียวที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติเป็นหนึ่งในรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นสถานที่ที่ต้องไปให้ได้หากคุณมาที่อาคิตะ ทัวร์น้ำพุร้อนมีจำหน่ายเฉพาะสำหรับแขก (1,800 เยน) และหากคุณซื้อทัวร์นี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับทัวร์น้ำพุร้อนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่โรงแรมที่พักได้ในราคาสุดคุ้ม ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีจากสถานี JR Tazawako ไปยัง Nyuto Onsenkyo โปรดตรวจสอบสถานีรถบัสเนื่องจากจะแตกต่างกันไปตามแต่ละโรงแรม

Kyukamura Nyuto Onsenkyo
Kyukamura Nyuto Onsenkyo
Kyukamura Nyuto Onsenkyo
Kyukamura Nyuto Onsenkyo
Yumegurigo Bus
Yumeguri-Cho

ทามากาวะ ออนเซ็น / ชินทามากาวะ ออนเซ็น

Tamagawa Onsen
Tamagawa Onsen
Shin-Tamagawa Onsen

Tamagawa Onsen และ Shin-Tamagawa Onsen เป็นน้ำพุร้อนที่มีเรเดียมและมีความเป็นกรดสูงโดยมีกรดไฮโดรคลอริกเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งหาได้ยากในโลก มีชื่อเสียงในด้านการบำบัดสุขภาพและมีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมจำนวนมาก ออนเซ็นแห่งนี้เป็นโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนที่แตกต่างจากพื้นที่บ่อน้ำพุร้อนอื่นๆ เล็กน้อย และมีผู้มาเยี่ยมเยียนเพื่อการพักผ่อนและการบำบัดร่างกาย ทามากาวะออนเซ็นปิดให้บริการในฤดูหนาว (ปลายเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนเมษายน) ชินออนเซ็นทามากาวะเปิดตลอดทั้งปีและใช้แหล่งเดียวกันกับทามากาวะออนเซ็น การเดินทางด้วยรถเช่านั้นสะดวกมาก แต่คุณยังเดินทางด้วย รถบัสท้องถิ่นได้จากสถานี JR Tazawako ได้อีกด้วย ตารางเดินรถเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

Shin Tamagawa Onsen
Shin Tamagawa Onsen

จุดท่องเที่ยวในคาคุโนะดาเตะ @AKITA

สถานที่แนะนำในคาคุโนะดาเตะ

คาคุโนดาเตะ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี JR คาคุโนดาเตะ อากิตะชินกังเซ็น โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีโตเกียวประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าจากเซนไดก็ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ท่านสามารถเดินจากจากสถานี JR คาคุโนดาเตะไปที่ถนนหมู่บ้านซามุไรได้ใน 20 นาที ดังนั้นท่านไหนขับรถไม่ได้ก็ไม่ต้องกังวล ที่นี่เป็นจุดที่สามารถชมความงามได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นซากูระในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เขียวขจีในฤดูร้อน ใบไม้แดงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทัศนียภาพหิมะในฤดูหนาวที่ไม่ว่าท่านจะเดินทางมาเที่ยวในฤดูไหนก็สามารถเพลิดเพลินทัศนียภาพบ้านเมืองแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และที่ถนนหมู่บ้านซามุไร ที่ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทั่วเมือง ซึ่งโดยรอบๆ จะมีร้านอาหารและร้านของฝากมากมาย

Kimono & Jinrikisha Experience

กิจกรรมที่คาคุโนะดาเตะ

การเดินเล่นที่หมู่บ้านซามูไรที่คาคุโนะดาเตะนั้นสนุกมากถ้าท่านมีเวลา เราขอแนะนำให้ลองนั่ง “รถลาก” เพื่อเที่ยวชมเมืองดูค่ะ (15 นาที 3,000 เยน)

นอกจากนี้ท่านสามารถเช่ากิโมโนที่  “กิโมโนทาบิชานาริ” ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นแต่ที่นี่มีชุดสำหรับผู้ชายและเด็กให้เช่าด้วย (1 ท่าน 5,000 เยน / การเช่าชุดและเครื่องประดับ)

นอกจากนี้ ท่านสามารถมาท่องเที่ยวแบบมาเช้าเย็น-กลับ ได้ด้วย “เส้นทางรถไฟอากิตะไนริคุจูคัง” ที่เชื่อมคาคุโนะดาเตะ – ทากะโนะสุ ระยะทาง 94.2 กิโลเมตร โดยท่านสามารถชมทัศนียภาพจากหน้าต่างรถทั้ง 4 ฤดู ได้อีกด้วย

Oyako-Don

อาหารที่คาคุโนะดาเตะ

มีอาหารมากมายที่อยากให้ท่านได้ชิมที่คาคุโนะดาเตะ โดยทางเราจะขอแนะนำหลายเมนูเด่นของถนนย่านนี้โดยรอบบริเวณนั้นมีร้านขาย “ข้าวหน้าไก่ไข่โอยาโคะด้ง”และ อินานิวะอุด้ง  ที่ใช้ไก่บ้านพันธุ์ฮิไน 1 ใน 3 ไก่ชื่อดังของญี่ปุ่น อาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดอาคิตะและ “คุริโอโควะ”  และใช้แป้งที่ผลิตเองมาทำเส้นโซบะ เป็นสไตล์ของ “คาคุโนะดาเตะโซบะ” สำหรับท่านที่มาจังหวัดอาคิตะครั้งแรกแนะนำให้ทานอร่อยแน่นอน นอกจากนี้ ที่ใกล้ๆสถานี JR คาคุโนะดาเตะจะมี Fruit Parlor ชื่อร้านคาคุโนะดาเตะซาไกยะ เป็น Fruit Parfait ที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลมากมายอย่างปรานีตสวยงาม

Wanoi Kakunodate

ที่พักของคาคุโนะดาเตะ

จะขอแนะนำที่พักที่คาคุโนะดาเตะ

* WANOI Kakunodate

ที่พักที่เอาโกดังที่มีประวัติมาปรับปรุงอยู่ทั่วเมืองคาคุโนะดะเตะ

*Machiya Hotel Kakunodate

โรงแรมที่อยู่ใกล้ถนนซามูไรมากที่สุด

*Enishi ( ได้เจอสุนัขอาคิตะด้วย!)

ที่พักที่เอาบ้านโบราณมาปรับปรุงใหม่

นอกจากนี้ยังมี Folklore คาคุโนะดาเตะ, Tamachi Bukeyashiki Hotel, Kakudate Sansou Wabizakura, Kakudate Onsen Kayokan เป็นต้น

เปิดประสบการณ์เที่ยวรอบ Ami Premium Outlets® โมเดลคอร์สแบบเที่ยวใกล้โตเกียว

รวมแบรนด์ดังจากญี่ปุ่นและต่างประเทศ พร้อมร้านอาหารครบวงจร!

ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงจากโตเกียว ก็เชื่อมต่อโดยตรงกับ “Ami-higashi IC” บนทางด่วน Ken-O และอยู่ในทำเลที่ดี

บนพื้นที่ที่เปิดโล่งให้ความรู้สึกกว้างขว่าง ที่เอาท์เล็ตแห่งนี้มีร้านค้าประมาณ 160 แห่ง เช่น แบรนด์ยอดนิยมในประเทศและต่างประเทศ แบรนด์ลำลอง กิจกรรมกลางแจ้ง สินค้าในครัวเรือน และร้านอาหาร ทางเดินในอาคารกว้างและสะดวกสบายสำหรับรถเข็นเด็กและวีลแชร์ นอกจากนี้ในอาคารยังมีห้องเด็ก ห้องพยาบาล สนามเด็กเล่น เป็นต้น ซึ่งสะดวกสำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ

รายชื่อบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่น

★ บริการทั่วไป: บริการปลอดภาษี, WiFi ฟรี, ล่ามทางโทรศัพท์, มีสัญลักษณ์บอกส่วนผสมของอาหาร, การอำนวยความสะดวกต่างๆ

★ บริการสำหรับลูกค้ารายบุคคล: คูปองอิเล็กทรอนิกส์

★ บริการสำหรับลูกค้ากลุ่ม: แผ่นคูปอง

ทัวร์แบบวันเดียวจากโตเกียว

ออกเดินทางจากโตเกียว ⇒ สวนฮิตาชิไคฮิน (เที่ยวประมาณ 2 ชั่วโมง) ⇒ ตลาดปลานาคามินาโตะ (เที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง) ⇒ พระอุชิกุ (เที่ยวประมาณ 30 นาที) ⇒ อามิพรีเมียมเอาท์เล็ต (เที่ยวประมาณ 2 ชั่วโมง) ⇒ กลับไปโตเกียว

1.เนโมฟีลาในฮิตาชิซีไซด์พาร์ค

(ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม)

2.ฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค โคเกีย

(ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม)

3.จาก Ushiku Buddha ไป Ami Premium Outlets ขับรถ 10 นาที

วิธีการเดินทาง :

<รถไฟ / รถบัส>

ประมาณ 60 นาที จากสถานี JR Ueno ถึงสถานี Arakawaoki เปลี่ยนเส้นทางรถบัสที่ทางออกทิศตะวันออกของสถานี Arakawaoki ประมาณ 20 นาที

<เดินทางโดยรถยนต์จากโตเกียว>

ประมาณ 30 นาทีจาก “Misato JCT” บนทางด่วนลงที่ Joban

ประมาณ 10 นาทีบนทางด่วน Ken-O (ไปนาริตะ) ผ่าน “Tsukuba JCT” และลงที่ IC จาก “Ami-higashi IC” ถึงเลย