นั่งรถไฟเข้าโตเกียวได้สบายๆ ด้วย Narita Express [ N’EX ]

นั่งรถไฟเข้าเมืองโตเกียวแบบง่ายๆ ด้วย รถไฟด่วนพิเศษ นาริตะ เอ็กซ์เพรส (Narita Express) หรือ ที่เรียกกันสั้นๆว่า N’EX ที่จะพาทุกท่านเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียวได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วสุดๆ

Narita Express [ N’EX ]

สำหรับรถไฟด่วน N’EX จะเริ่มเดินทางออกจาก สนามบินนาริตะ Terminal 1 ผ่าน Terminal 2 เข้าสู่เมืองโตเกียว โดยจะมีการสลับกันระหว่างสายที่ไป Ofuna กับสายที่ไป Shinjuku เพราะฉะนั้น เวลาเพื่อนๆจะจองตั๋วล่วงหน้า[Reserved Seat] หรือ ซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ จะต้องแจ้งพนักงานเลยว่าต้องการลงสถานีไหน จะได้เช็กรอบกันอย่างถูกต้อง แต่ถ้าต้องการลงที่ สถานี Tokyo เพื่อนๆสามารถขึ้นได้ทุกขบวน เพราะ N’EX จะวิ่งไปตั้งหลักที่สถานี Tokyo จากนั้นจะแยกเป็น 2 สาย คือ สายตะวันตกเฉียงเหนือ (Shibuya, Shinjuku, Ikebukuro) และ สายตะวันตกเฉียงใต้ วิ่งลงล่างไป Yokohama

CR : Jr East
Narita Express [ N’EX ]
สนามบินนาริตะ (Narita International Airport)

สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) ประตูสู่ญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่มาเที่ยวแถบภูมิภาคคันโต และภูมิภาคโทโฮคุ และวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการเดินทางเข้าเมืองโตเกียวที่แสนสะดวกสบายและรวดเร็ว คือ Narita Express (นาริตะเอ็กซ์เพรส ชื่อย่อ N’EX) รถไฟด่วนพิเศษที่วิ่งจากสนามบินนาริตะ ตรงไปสู่สถานีหลักในเมืองโตเกียวและโซนข้างเคียง เช่น สถานีโตเกียว สถานีชินจูกุ สถานีชิบูย่า สถานีอิเคะบุคุโระ สถานีโยโกฮาม่า

CR : Jr East
สนามบินนาริตะ (Narita International Airport)

ลงจากเครื่องบิน ก็เดินตรงไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และสายพานกระเป๋ากันได้เลยจร้า

สนามบินนาริตะ (Narita International Airport)

วันนี้หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เรามาออกที่ทางออกทางฝั่ง South Wing ของสนามบินนาริตะครับ

สนามบินนาริตะ (Narita International Airport)

บริเวณ Hall ผู้โดยการขาเข้าระหว่างประเทศ สนามบินนาริตะ

สนามบินนาริตะ (Narita International Airport)

พอถึง Hall ใหญ่ของสนามบินนาริตะ ก็เดินตามป้ายบอกทางคำว่า “Railways” ในสนามบินเพื่อลงไปยังชั้นใต้ดิน B1 ซึ่งเป็นทางเข้าสถานีรถไฟทุกชนิด และเมื่อลงมาแล้วจะเจอกับศูนย์บริการ JR EAST Travel Service Center ป้ายสีแดงแบบนี้เลยจร้า

JR EAST Travel Service Center

ที่สนามบินนาริตะจะมีจุดให้บริการ JR EAST Travel Service Center 2 จุด คือ จุดที่ 1 อยู่ที่ชั้น B1 ของอาคารเทอร์มินัล 1 เวลาทำการ 8:15 – 19:00 และ จุดที่ 2 อยู่ที่ชั้น B1 ของอาคารเทอร์มินัล 2 เวลาทำการ 8:15 – 20:00

CR : Jr East
JR EAST Travel Service Center

สถานที่สำหรับเปลี่ยน JR Voucher เป็นตั๋ว JR ตัวจริง และจำหน่ายตั๋วนั่งรถไฟ Narita Express คือ ศูนย์บริการ JR EAST Travel Service Center

JR EAST Travel Service Center

JR EAST Travel Service Center มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับพาส และการเดินทางเป็นภาษาอังกฤษ สอบถามได้เลยจร้า

JR EAST Travel Service Center
JR PASS

แลกตั๋ว JR เรียบร้อยแล้ว พร้อมออกเดินทางแล้วจร้า

Reserved Seat Ticket

ที่นั่งทั้งหมดของรถไฟขบวน Narita Express เป็นแบบจองที่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวขึ้นแล้วจะไม่ได้นั่ง เบาะที่นั่งกว้างมาก นั่งสบาย ตัวเลขบนตั๋วที่วงกลมสีแดงไว้จะระบุ เดือน/วัน, เวลาออกของขบวนรถไฟ, หมายเลขตู้ และแถวที่นั่ง ในรูปด้านบนคือ ตู้ที่ 6 แถวที่ 5 ที่นั่ง A

ทางเข้าขบวนรถไฟ JR สนามบินนาริตะ

สำหรับท่านที่มีตั๋ว JR และจองที่นั่ง N’EX เรียบร้อยแล้ว โชว์ JR Pass และเดินเข้าช่องด้านขวาสุดได้เลยจร้า

ชานชลา สนามบินนาริตะ

จุดรอรถไฟของเราวันนี้ครับ N’EX ตู้ที่ 6

ชานชลา สนามบินนาริตะ

13.48 น. คือ เวลาที่ขบวนรถไฟ N’EX จะมาถึงที่สถานีครับ

ชานชลา สนามบินนาริตะ

ไม่ต้องกลัวจร้า ที่ป้ายบอกรายละเอียดรถไฟ จะมีภาษาอังกฤษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยครับ

ชานชลา สนามบินนาริตะ
ชานชลา สนามบินนาริตะ

บรรยากาศบริเวณชานชลาครับ

ชานชลา สนามบินนาริตะ

รถไฟมาแล้วจร้า!!! เตรียมตัวคว้ากระเป๋าสัมภาระขึ้นรถไฟกันได้เลย

Narita Express [N’EX]

ภายในขบวนรถไฟ สะอาดเอี่ยมจริงๆครับ

Narita Express [N’EX]

ก่อนเข้าไปตรงโซนที่นั่ง แต่ละตู้จะมีจุดวางกระเป๋าใบใหญ่พร้อมตัวล็อกกันหายสามารถตั้งรหัสเองได้เลยครับ ไม่ต้องลากกระเป๋าเข้าไปให้เกะกะตรงโซนที่นั่งเลย

Narita Express [N’EX]

เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปหาที่นั่งตามตั๋วที่เราจองมาได้เลยครับ

Narita Express [N’EX]
Narita Express [N’EX]

มีที่ฝากกระเป๋ามากมายเหลือๆครับ ไม่ต้องแย่งกัน

Narita Express [N’EX]

เบาะที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบายๆ ประมาณ 1 ช.ม. ก็ถึงโตเกียวแล้วครับ

Narita Express [N’EX]
Narita Express [N’EX]

บนขบวนรถไฟ N’EX มีฟรี WIFI ให้บริการตลอดการเดินทางพร้อมปลั๊กสำหรับชาร์จมือถือและโน้ตบุ๊กให้ทุกที่นั่งครับ

Narita Express [N’EX] Infomation

มี Information เกี่ยวกับการเดินทางจากสถานี Tokyo ไปตามสถานีต่างๆ บอกตลอดการเดินทางเข้าเมือง เพื่อเตรียมตัววางแผนการเดินทางกันต่อได้เลยครับ เมื่อถึงสถานีโตเกียว

Narita Express [N’EX]

มีห้องน้ำให้บริการทุกตู้ และสะอาดมากๆครับ

Narita Express [N’EX]
Narita Express [N’EX]

ห้องน้ำสำหรับ สุภาพสตรี, คุณแม่และเด็ก, คนชรา และคนพิการ ก็มีให้บริการครับ

Narita Express [N’EX]
Narita Express [N’EX]
Tokyo Station

ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 1 ช.ม. เท่านั้น เราก็เดินทางจากสนามบินนาริตะ มาถึงเมืองโตเกียวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สะดวก สบาย และ รวดเร็ว สมชื่อ Narita Express [ N’EX ] จริงๆครับ

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

“ยามากาตะ” จังหวัดเล็กๆแสนน่ารัก

Yamagata ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ เป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน จังหวัดนี้มีชื่อเสียงอย่างมากทางด้านผลผลิตทางการเกษตร มีแหล่งเพาะปลูกทำเกษตรกรรมขนาดใหญ่ จังหวัดเล็กๆแห่งนี้ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติสุดเพอร์เฟค เมื่อเดินทางมาถึงเพื่อนๆจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดั้งเดิมของชนบท และตื่นตะลึงกับธรรมชาติที่สวยงามแน่นอนค่ะ

Ginzan Onsen

Ginzan Onsen หมู่บ้านออนเซนเล็กๆกลางหุบเขา ที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่ค่อนข้างเงียบสงบในภูเขาของ จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) มีชื่อเสียงเรื่องออนเซนที่สวยงามที่สุด แถมยังคงสภาพญี่ปุ่นสมัยไทโชไว้ ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต ห้องพักที่นี่เป็นแบบเรียวกังที่มีตัวอาคารเป็นไม้ ตั้งอยู่ตามสองข้างทางของแม่น้ำ Ginzan-gawa และมีลำธารเล็กๆ เชื่อมด้วยสะพานสีแดง บรรยากาศดี ในช่วงฤดูหนาววิวที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยหิมะสีขาวตามทางเดินและบนหลังคา ทำให้รู้สึกสบายตาและเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนเหลือเกินค่ะ

การเดินทาง จาก Tokyo สามารถนั่งรถไฟ Shinkansen ไปลงที่สถานี Oishida ได้ค่ะ และต่อรถบัสไปลงสุดสายที่ Ginzan Onsen ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ

Ginzan Onsen
Ginzan Onsen
Ginzan Onsen
Yamadera Risshakuji Temple

Yamadera Risshakuji Temple เป็นวัดที่มีความสวยงามมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากะตะ (Yamagata) วัดนี้มีความเก่าแก่ถูกค้นพบมากกว่า 1000 ปี เพื่อนๆจะต้องเตรียมตัวฟิตร่างกายดีๆ เพราะที่นี่ มีขั้นบันได 1,015 ขั้น ที่จะเดินขึ้นไปถึงด้านบนค่ะ แต่ระหว่างทางเดินขึ้นนั้น ตามข้างทางจะมีวัดศาสนาพุทธให้เราได้แวะสักการะกันด้วย แต่รับรองได้เลยว่าหากเพื่อนๆก้าวข้ามผ่านทั้ง 1,015 ขั้นบันไดนี้ไปได้ จะพบกับธรรมชาติที่สวยงาม และความสงบของวัดแห่งนี้แน่นอนค่ะ

การเดินทาง จากสถานี Yamagata สามารถนั่งรถไฟสาย Senzan มาลงยังสถานี Yamadera จากนั้นเดินต่อมายังวัดอีก 15 นาทีค่ะ

Yamadera Risshakuji Temple
Yamadera Risshakuji Temple
Yamadera Risshakuji Temple
Yamadera Risshakuji Temple
Yamadera Risshakuji Temple
Yamadera Risshakuji Temple
ภูเขาฮากุโระ (Mt.Haguro)

ภูเขาฮากุโระ (Mt.Haguro) เจดีย์ 5 ชั้น สูง 30 เมตร ได้ขึ้นทะเบียนว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ เป็นเจดีย์เก่าแก่สร้างขึ้นมาเมื่อ 2000 ปีที่แล้ว ที่นี่เป็นเจดีย์ 1 ใน 9 องค์ที่หลงเหลืออยู่ในประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะแตกต่างจากที่อื่น คือหลังคาทั้ง 5 ชั้นทำจากเปลือกไม้จากต้นลูกพลับ และจากเจดีย์ 5 ชั้น ขึ้นบันไดไปอีก 2446 ขั้น ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จะถึง ศาลเจ้า Sanjin Gosaiden ซึ่งเป็นศาลเจ้าหลักของหุบเขา Haguro ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้จะมีเอกลักษณ์ คือ หลังคามุงด้วยฟาง ซึ่งภายในรวมเทพของทั้ง 3 ภูเขาแห่งเทือกเขา Maguro ไว้ที่นี่ เพื่อให้คนที่มาสักการะเทพ สามารถมาสักการะได้ครบทั้ง 3 องค์ และมาได้ทุกฤดู Mt.Haguro เป็น 1 ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเทือกเขา Maguro ซึ่งมีทั้งหมด 3 ลูก ได้แก่ Mt.Haguro, Mt. Gassan และ Mt.Yudano ตั้งอยู่ในเมือง Tsuruoka จังหวัด Yamagata ค่ะ

การเดินทาง สามารถนั่งรถบัส จากสถานี Tsuruoka มาลงที่ป้ายรถบัสตรงประตูทางเข้า Zuishin Mon ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ

ภูเขาฮากุโระ (Mt.Haguro)
ภูเขาฮากุโระ (Mt.Haguro)
ภูเขาฮากุโระ (Mt.Haguro)
ภูเขาฮากุโระ (Mt.Haguro)
ลานสกี Zao

ลานสกี Zao เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเล่นสกี และกิจกรรมสโนว์บอร์ด และบริเวณดังกล่าวนั้น มีหลายร้านที่เราสามารถเช่าชุด และเช่าอุปกรณ์เล่นกิจกรรมต่างๆบนหิมะที่อยู่ในลานสกีได้ค่ะ จุดไฮไลท์ของลานสกีแห่งนี้ คือ Snow Monster หรือ ปีศาจหิมะนั่นเอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่ต้นไม้สูงใหญ่ถูกหิมะเกาะจนแข็ง ทำให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ จนทำให้คนแถวนั้นเรียกกันว่า Snow Monster ค่ะ นอกจากการมาเที่ยวชมความงามในช่วงกลางวันแล้ว ในยามค่ำคืนยังมีไฟ Light Up หลายสี ที่เพื่อนๆ จะมองเห็น Snow monster ในมุมมองที่แปลกตา แล้วแต่จะจินตนาการกันค่ะ บ้างก็เห็นหิมะที่เกาะตามต้นไม้คล้ายกับฝูงปีศาจน้ำแข็ง บ้างก็เห็นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาซะโอ้ จะสัมผัสถึงความสวยงาม ความหนาวเย็น แบบทั้งหนาว ทั้งฟินกันไปเลยค่ะ

การเดินทาง สามารถนั่งรถบัสจากสถานี JR Yamagata มาลงยัง Zao Onsen Bus Terminal ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที หรือถ้าอยากชม Snow monster ต้องนั่ง Zao Ropeway ต่อขึ้นมาบนเขาค่ะ

ลานสกี Zao
ลานสกี Zao
Snow Monster
Snow Monster
Snow Monster
Snow Monster
Snow Monster
ซาโอะ ไดโรเทมบูโระ (Zao Dairotenburo Hot Spring)

ซาโอะ ไดโรเทมบูโระ (Zao Dairotenburo Hot Spring) ในจังหวัด Yamagata ซึ่งเป็นออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ด้วยบรรยากาศช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่สร้างความสวยงามให้กับบริเวณบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งเป็นบ่อกลางแจ้งขนาดใหญ่แบบแยกเพศ ทำให้การแช่ตัวในออนเซนรู้สึกสบาย เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ซาโอะ ไดโรเทมบูโระ ตั้งอยู่ในซาโอะออนเซน (Zao Onsen) เป็นออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดของซาโอะออนเซนแห่งนี้เลยก็ว่าได้ อยู่ท่ามกลางหุบเขา บนความสูง 880 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บนเนินเขาของภูเขาไฟซาโอะ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6:00-19:00 น. แวะมาแช่ออนเซนกันนะคะ

การเดินทาง สามารถนั่งรถบัสจากสถานี JR Yamagata มาลงยัง Zao Onsen Bus Terminal ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที จะอยู่ที่เดียวกันกับลานสกี Zao เลยค่ะ

ซาโอะ ไดโรเทมบูโระ (Zao Dairotenburo Hot Spring)
ซาโอะ ไดโรเทมบูโระ (Zao Dairotenburo Hot Spring)
ซาโอะ ไดโรเทมบูโระ (Zao Dairotenburo Hot Spring)

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

5 ร้านดัง ย่านโอตารุ เกาะฮอกไกโด

โอตารุ อีกเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่จังหวัดฮอกไกโด อยู่ไม่ไกลมากจากเมืองซัปโปโรโอตารุเป็นเมืองเล็กๆแต่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและยังความเป็นวัฒธรรมดั่งเดิมอยู่บ้าง และส่วนใหญ่แล้วคนนิยมที่จะไปเที่ยวแบบ One-day Trip สถานที่ที่ไม่ควารพลาดในโอตารุเช่น พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Musem) ถนนช็อปปิ้งซาคาอิมาจิโตริ (Sakaimachi Street) และมีที่เที่ยวอีกมากมายให้ได้เลือกชม อีกทังยังมีร้านอาหารร้านดังให้ท่านได้ลิ่มลองอีกด้วย

1.คามะเอ (Kamaei)

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้านที่มีปังโรลที่เกิดจากการโคลาโบระหว่างขนมปังกับคามะโบโกะ ร้านคามะเอ เป็นร้านที่มีความเก่าแก่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน อาหารที่มาร้านนี้แล้วต้องสั่งก็คือ ปังโรล ที่ผสมเนื้อปลาบดกับขนมปังที่หากินที่อื่นไม่ได้ เพราะเนื่องจากทางร้านจะนำเนื้อปลาอลาสก้าพอลลัคมาบนแล้วปรุงรสด้วยหมูบด หอมใหญ่ พริกไทย ก่อนจะนำไปทาบนขนมปังแล้วทอด กรอบแบบกำลังพอดีและห่อม้วนอย่างเต็มปากเต็มคำ เชื่อเลยว่าหากใครได้ลิ้มลองรับลองติดใจอย่างแน่นอนแนนำให้ไปรับประทานกับแบบสดที่ร้านจะอร่อยมากๆค่ะ

Website : https://www.kamaei.co.jp/products/
ที่ตั้งร้าน : 3-7 Sakaimachi, โอะตะรุ 047-0027 ฮอกไกโด

2.Icecream Parlour Mizono

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

สำหรับท่านที่มีความชื่นชอบรับประทานอาหารโดยเฉพาะแนะนำ ร้าน (Icecream Parlour Mizono) ซึ่งร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านสำหรับสายหวาน เนื่องจากร้านนี้เรียกได่ว่าเป็นร้านไอศกรีมแห่งแรกในเมืองฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ซึ่งร้านนี้จะมีเมนูหลักๆของทางร้านที่ทุกคนมาแล้วต้องสั่งคือ ไอศกรีมพาเลอร์ มิโซโนะ ซึ่งทางร้านจะใช้วัติถุดิบอย่างดีในการประกอบ เช่น นม ไข่ และน้ำผึ้งที่มีความสดใหม่และได้คุณภาพเสมอ ไม่แปลกเลยว่าทำไมรสชาติไอศกรีมถึงได้อร่อย และขึ้นชื่อมาอย่างยาวนาน

Website : http://www.misono-ice.com/postop.html?utm_source=tripadvisor&utm_medium=referral
ที่ตั้งร้าน : 11-6 Chikko 1F Aeon Otaru, โอะตะรุ 047-0008 ฮอกไกโด

3.Otaru Ankakedokoro Torori An

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้าน Otaru Ankakedokoro Torori An เป็นร้านยากิโซบะอาหารท้องถิ่นของโอตารุหลากทุกท่านมาโอตารุต้องไม่พลาดเมนู โอตารุอันคาเคะยากิโซบะ เพราะร้านนี้เปิดมาอย่างยาวนานเป็นร้านยากิโซบะที่อร่อยที่สุดเพราะทางร้านได้คิดค้นสูตรยากิโซบะขึ้นมาและปรับเปลี่ยนรสชาติให้อร่อยและลงตัวอย่างมากที่สุด และที่สำคัญคือราคาที่ไม่แพง เรียกได้ว่าอิ่มท้องแต่สะบายกระเป๋ากัยเลยทีเดียว

Website : https://hitosara.com/0006054706/?fbclid=IwAR3Y-RDpUw9Nx-ho5WP1yR_HA4NF0iwyrOJzloKUSJOUpB868fPRNba1MGY
ที่ตั้งร้าน : 5 Chome-7-23 Sakura, Otaru, Hokkaido 047-0156, Japan

4.Kuwataya Honten

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้าน (Kuwataya Honten) เป็นอีกหนึ่งร้านที่ใครๆมาเที่ยวโอตารุจะต้องแวะ เพราะร้านนี้มี “ปังจู” คือขนมมันจู (ซาลาเปาญี่ปุ่น) ที่มีความเป็นเอกลัษณ์และมีความอร่อยที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก เป็นซาลาเปาญี่ปุ่นที่มีรสชติที่คล้ายกับขนมปัง มีกลิ่นที่หอมและข้างในยังมีใส้ให้เลือกมากมายหลายอย่าง เช่น ถั่วแดงบด, ถั่วแดงเม็ด, ช็อกโกแล็ต, ครีม, ถั่วแดงโมจิ, คาราเมลสด, ถั่วแดงชาเขียว และยังมีใส้ที่ผลิตตามฤดูดาลต่างๆเรียกได้ว่ามาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอนอีกอย่างตือราคาไม่แพงด้วยค่ะ

ที่ตั้งร้าน : 1-1-12 Ironai Otaru Unga Terminal 1F, โอะตะรุ 047-0031 ฮอกไกโด

5.Aozora Zenibako San Joume

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้าน Aozora Zenibako San Joume เป็นร้านอาหารมีเอกลักษณ์โดดเด่นตั่งแต่รูปทรงของร้านที่มีลักษณะเหมือนบ้านโบราณ และอาหารที่มีชื่อเสียงของร้านคือเมนู จัมโบ้เกี๊ยวซ่า ซึ่งเกี๊ยวที่ใหญ่ใส้เยอะ และจะนำวัติถุดิบจากจังหวัดฮอกไกโดมาประกอบอาหารเท่านั้น เลือกได้ว่าสดใหม่ ทุกวันเลยทีเดียว เกี๊ยวที่ร้านนี้อร่อยมากเต็มปากเต็มคำทุกครั้งที่รับประทานเข้าไป พร้อมกับแป้งที่นุ่มพอกัดเข้าไปแล้วบอกได้คำเดียวว่าเข้ากันแบบสุดๆ

Website :https://aozoragyouza.com/?utm_source=tripadvisor&utm_medium=referral
ที่ตั้งร้าน : 3-509-6 Zenibako, Otaru 047-0261 Hokkaido

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

เที่ยววันเดย์ เมืองอุจิ ง่ายนิดเดียว

แพลนวันเดย์ในเมืองน่ารักที่อบอวลไปด้วยชาเขียวที่ เมืองอุจิ(UJI) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดเกียวโต ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดเกียวโต อยู่ริมแม่น้ำอุจิ เมืองนี้สามารถเดินชมวิวถ่ายรูปเพลินเลย ที่สำคัญมาแล้วต้องแวะชิมชาเขียวอุจิเพิ่มความสดชื่น เพราะเมืองอุจิได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตชาเขียวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น ถือเป็นเมืองที่เดินทางไม่ไกลจากโอซาก้า หรือสามารถแวะเที่ยวระหว่างทางก่อนที่จะเดินทางจากเกียวโตไปนาราก็ได้ค่ะ

การเดินทางจาก สถานี Kyoto หรือ Nara ให้นั่งรถไฟสาย JR Nara Line มาลงที่สถานี JR Uji ตรงเลยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน หรือ จากสถานี Chushojima ให้นั่งรถไฟสาย Keihan-Uji Line มาลงที่สถานี Keihan Uji ก็ได้ค่ะ

พอเดินทางมาถึงสถานีอุจิ สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือเดินไปที่ ถนนชาเขียว (Byodoin omotesando) ที่เป็นตรอกเล็กๆ บนถนนระหว่างทางที่จะเดินทางไป วัดเบียวโดอิน แต่ถนนนี้เต็ม

ถนนชาเขียว (Byodoin omotesando)
CR:JNTO

ไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารที่อุดมไปด้วยเมนูที่ทำมาจากชาเขียว ไม่ว่าจะเป็น ราเม็งชาเขียว เกี๊ยวซ่าชาเขียว ทาโกยากิชาเขียว รวมถึงซอฟครีมชาเขียว ให้เราได้เลือกทั้งสองข้างทางตามชื่อถนนเลย และที่เลือกมาที่นี่เป็นที่แรกไม่ใช่อะไรหรอกนะ เพราะว่าหิวจ้า บอกเลยกองทัพจะต้องเดินด้วยท้องแบบนี้หนิเองเลยต้องมากินก่อน แต่จะกินทั้งทีจะต้องกินของขึ้นชื่อของเมืองสิจ๊ะ เมื่อเลือกร้านได้แล้วก็นั่งจิบชาเขียวไปก่อนฟินๆ จากที่อิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางไปไหว้พระกันที่ วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) นับว่าเป็นวัดที่เห็นกันบ่อยๆ เพราะเป็นวัดที่อยู่ด้านหลังเหรียญ 10 เยนนั้นเองค๊า

วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple)

วัดนี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ในบริเวณวัดจะมีทั้ง พิพิธภัณฑ์ (Hoshokan Museum) ร้านชาอุจิสุดพรีเมียม (Tea Salon Toka) สวนญี่ปุ่น และที่เป็นไฮไลท์ของวัดเบียวโดอินคือ หอหลัก Hoodo หรือหอนกฟินิกซ์ (Phoenix Hall) วิหารไม้สีแดงสดตั้งอยู่ตรงใจกลางวัดสามารถเข้าไปเยี่ยมชมด้านในได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 300 เยนค่ะ วัดนี้สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล หากเดินทางไปช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม อาจจะได้เห็นดอก Wisteria สีม่วงห้อยระย้าภายในบริเวณวัด มาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเจอกับใบไม้สีแดงส้มสลับกันไปสวยงามอีกแบบจ้า จากที่เดินเที่ยวชมถ่ายรูปในวัดแล้วจากนั้นก็เดินออกมาเรื่อยๆ จะเจอกับ สะพานอุจิบาชิ (Ujibashi Bridge) เป็นสะพานแขวนที่ใช้ข้ามแม่น้ำอุจิ ถือเป็นหนึ่งในสามสะพานเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่เดินทางมาอุจิแล้วจะต้องมาเดินข้ามสะพานนี้สักครั้ง เพื่อกินลม ชมวิว ของแม่น้ำแล้วยังสามารถทำให้ตกหลุกรักเมืองเล็กๆ เมืองนี้ได้อย่างง่ายดายค่ะ

สะพานอุจิบาชิ (Ujibashi Bridge)
สะพานอุจิบาชิ (Ujibashi Bridge)
สะพานอุจิบาชิ (Ujibashi Bridge)
สะพานอุจิบาชิ (Ujibashi Bridge)

หากมีเวลาเพียงหนึ่งวันว่างๆ หรือมีเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมง แนะนำให้ลองมาเที่ยว เมืองอุจิกัน นะคะ มาเดินเล่นถ่ายรูป พักสมอง พักสายตาไปกับต้นไม้ สายน้ำที่ไหลผ่าน และบรรยายกาศที่เงียบสงบ แถมยังได้กินของอร่อยกับเมนูต่างๆ จากชาเขียว บอกเลยสำหรับชาว Matcha Lover ไม่ควรพลาดเมืองน่ารักๆ เมืองนี้ ค่ะ

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

เที่ยวสุดฟิน in Sendai ไม่ไปไม่ได้แล้ว!!!

เซนได (Sendai) เป็นเมืองในจังหวัดมิยางิ (Miyagi) และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ เซนไดเป็นเมืองที่มีเสน่ห์น่าค้นหา มีความทันสมัย แต่ก็มีธรรมชาติที่สวยงาม ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวสุดๆ และเป็นเมืองที่เดินทางได้สะดวกมากๆ จากโตเกียวไปลงเซนได เพื่อนๆ สามารถนั่งรถไฟชินคันเซน Tohoku Shinkansen Hayabusa วิ่งตรงไปได้เลยนะคะ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้นค่ะ ต้องลองไปเยือนซักครั้ง รับรองเพื่อนๆจะหลงรักแน่นอนค่ะ

ปราสาทเซนได (Sendai Castle) หรือปราสาทอาโอบะ (Aoba) ซึ่งแปลว่าปราสาทใบไม้สีเขียว สร้างขึ้นบนยอดเขาอาโอบะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากๆ ในประเทศญี่ปุ่นค่ะ ที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ เป็น รูปปั้น Date Masamune (ดาเตะ มาซามุเนะ) ขณะที่ทรงม้าอยู่ สถานที่แห่งนี้ยังสามารถชมวิวเมืองเซนไดแบบ 360 องศาได้อีกด้วยนะคะ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูหนาวในบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยหิมะ สีขาวสะอาดที่มองเห็นแบบสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ

การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Sendai โดยสารรถบัส Loople Sendai ไปลงที่สถานีหมายเลข 6 ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

Sendai
รูปปั้น Date Masamune (ดาเตะ มาซามุเนะ)
รูปปั้น Date Masamune (ดาเตะ มาซามุเนะ)
รูปปั้น Date Masamune (ดาเตะ มาซามุเนะ)
Sendai
Sendai

Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก จะอยู่ใกล้ๆกับ เมืองชิโรอิชิ (Shiroishi) ประเทศญี่ปุ่น บนบริเวณภูเขาซะโอ้ ทางตอนใต้ของเมืองเซนได (Sendai) ซึ่งสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยๆเหล่านี้ มีอยู่ประมาณ 6 สายพันธุ์ เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมได้อย่างใกล้ชิดกับเจ้าสุนัขจิ้งจอก มีโซนที่ให้เราได้ซื้ออาหารป้อนน้องๆด้วยนะคะ ถ้าไปในช่วงฤดูหนาว สุนัขจิ้งจอกจะมีขนฟูฟ่อง พองสวยแบบในภาพมีเรานำมาให้ชมกันเลยค่ะ

การเดินทาง สามารถนั่ง Taxi จากสถานี Shiroishi หรือ Shiroishizao โดยค่ารถ Taxi จะอยู่ที่ประมาณ 4,000 เยน/เที่ยว รถ Taxi สามารถนั่งได้สูงสุด 4 คนค่ะ

Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
Zao Kitsune mura หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก

Akiu Otaki น้ำตกที่สวยงามของเมืองเซนได ประเทศญี่ปุ่น ยิ่งถ้าเพื่อนๆ เข้ามาชมแบบใกล้ๆ ก็ต้องแหงนหน้าเงยคอมองกันเลยค่ะ ด้วยความสูง 55 เมตร ของน้ำตกแห่งนี้ ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามของสุดยอดน้ำตกในญี่ปุ่น ในช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีรอบบริเวณ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีวิวสวยน่ามาเที่ยวชม แต่ถ้าเพื่อนๆมาช่วงหน้าหนาวที่สุดของเซนได คือช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ น้ำตกแห่งนี้จะกลายเป็นน้ำแข็งสีขาว ก็สวยไปอีกแบบค่ะ

การเดินทาง จากสถานี JR Sendai (West Exit) ขึ้นรถบัสหมายเลข 8 ลงป้าย Akiu Otaki (90 นาที) หรือลงรถไฟสาย Senzan ที่สถานี Ayashi แล้วต่อรถบัสมาทาง Futaguchi (60 นาที) แนะนำให้เช็คเวลารถก่อนมากับศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวที่สถานีนะคะ เพราะมีรถเพียงวันละ 2 เที่ยวเท่านั้นค่ะ

Akiu Otaki น้ำตกที่สวยงามของเมืองเซนได
Akiu Otaki น้ำตกที่สวยงามของเมืองเซนได
Akiu Otaki น้ำตกที่สวยงามของเมืองเซนได
Akiu Otaki น้ำตกที่สวยงามของเมืองเซนได
Akiu Otaki น้ำตกที่สวยงามของเมืองเซนได

Shiogama Shrine ศาลเจ้าชิโอกามะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิบรรยากาศดีมากเลยค่ะ ถ้ามาเที่ยวนะรับรองประทับใจแน่ๆ ที่นี่เราจะได้อิ่มเอมใจไปกับการชมซากุระสวยๆ ของศาลเจ้าชิโอกามะ ซึ่งมีชื่อเสียงและเป็นศูนย์กลางของเมืองชิโอกามะ (Shiogama) จังหวัดมิยะงิ (Miyagi) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเซนได (Sendai) 15 กิโลเมตร และเป็นจุดชมซากุระที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งค่ะ

การเดินทาง จากสถานี Hon-Shiogama Station เดินประมาณ 10 นาที หรือเดินจากสถานี Shiogama Station ประมาณ 15 นาทีค่ะ

Shiogama Shrine ศาลเจ้าชิโอกามะ
Shiogama Shrine ศาลเจ้าชิโอกามะ
Shiogama Shrine ศาลเจ้าชิโอกามะ
Shiogama Shrine ศาลเจ้าชิโอกามะ
Shiogama Shrine ศาลเจ้าชิโอกามะ

Funaoka Castle Ruin Park สวนสาธารณะในจังหวัด Miyagi เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ถูกจัดอันดับให้ติด 1 ใน 100 ของสถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุด ในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ ที่นี่จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวกันอย่างคับคั่ง พื้นที่ของสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ที่ปลูกต้นซากุระเป็นพันๆต้น จะบานตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำ Shiroishi นอกจากนี้ยังมีดอกไม้สวยๆ อีกหลากหลายสายพันธุ์เลยค่ะ สำหรับไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้เลยก็คือการนั่งรถราง Slope Car ชมดอกซากุระที่ปลูกเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง ราวกับเป็นอุโมงค์ซากุระ ที่มีความยาวประมาณ 300 เมตร เป็นภาพที่สวยงามมากๆ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ ส่วนรถรางคิวแน่นยาวตลอดทั้งวัน และรถรางคันเล็กมากๆ แต่ละรอบจะนั่งได้จำนวนไม่กี่คนเท่านั้นค่ะ เพื่อนๆควรมาตั้งแต่เช้ากันนะคะ ไม่งั้นจะพลาดแน่นอนค่ะ

การเดินทาง จากสถานี SENDAI(MIYAGI/JR) สามารถนั่งรถไฟ JR Tohoku Line มาลงยังสถานี FUNAOKA(MIYAGI) ได้เลยนะคะ แล้วเดินต่อมาที่สวนใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีค่ะ

Funaoka Castle Ruin Park
Funaoka Castle Ruin Park
Funaoka Castle Ruin Park
Funaoka Castle Ruin Park

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

5 ร้านดัง นิเซโกะ ฮอกไกโด

นิเซโกะ เป็นตำบลหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวจากธรรมชาติที่สวยงาม มีสกีรีสอร์ทที่โด่งดังจากหิมะหนานุ่มคุณภาพดีอยู่หลายแห่งด้วยกัน เช่น ลานสกีนานาชาติ Niseko Annupuri เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นสกีห้ามพลาด หรือหากท่านไปเทียวตอนฤดูร้อนก็สามารถชื่นชมกับธรรมสีเขียวที่สวยงามได้ บอกได้เลยว่าอบอุ่มและสดชื่นมาก และนิเซโกะ ยังมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออีกมากมายหลายร้าน…มีร้านอะไรบ้างไปดูกันจร้า!!!

1.Milk-Kobo

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

หากใครได้มาเที่ยว นิเซโกะ แล้วต้องห้ามพลาด ร้าน Milk-Kobo ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านขนมนมเนยดังประจำเมืองเลยก็ว่าได้ภายในร้านได้ถูกดีไซน์ด้วยกระจกโล่งเพื่อชมวิว ภูเขา Yotei เรียกได้ว่าสวยงามมาก ชื่นชมธรรมชาติ พร้อมกับดื่มนม ที่ทางร้านนำมาจากฟาร์มโคนมผลิตกันแบบสดๆเลยก็ว่าได้ต้องห้ามพลาดเลยเด็ดขาด และยังมีไอศครีมหลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง และยังมีขนมมากมายหลายชนิดให้เลือกรับประทานใครที่มองหาร้านที่บรรยากาศดี ถ่ายรูปสวย อาหารอร่อย แนะนำร้านนี้เลยค่ะ

Website : https://niseko-takahashi.jp/milkkobo/
ที่ตั้งร้าน : 888-1 Soga, Niseko, Abuta District, Hokkaido 048-1522 ญี่ปุ่น
วิธีการเดินทาง : นั่งแท็กซี่ประมาณ 10 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Niseko หรือรถยนต์จากทั้งสนามบิน New Chitose หรือเมืองซัปโปโร ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

2.Niseko Loft Club

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้าน Niseko Loft Club เป็นคลับสำหรับคนชื่นชอบ เนื้อย่าง ซึ่งร้านนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของเนื้อย่างซึ่งทางร้านจะคัดสรร เนื้ออย่างดี สไลด์มาอย่างพอดีคำ ควมหนาของเนื้อ ย่างกับเต่าถ่าน ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ เนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำแทบจะละลายในปากเลยก็ว่าได้ยิ่งทานพร้อมกับเบียร์เย็นๆ คือเข้ากันมากแทบจะหยุดทานไม่ได้จริงๆ อีกอย่าบรรยากาศที่ร้านดีมากชิลๆ บอกได้เลยว่าทุกอย่างลงตัวเข้ากันมาก

Website : http://www.loftclub1989.com/?utm_source=tripadvisor&utm_medium=referral
ที่ตั้งร้าน : 397-5 Soga, นิเซโกะ-โช , Abuta-gun 048-1522 ฮอกไกโด

3.Prativo

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

สำหรับหลายท่านที่อยากรับประทานมื้อกลางวันสไตล์ อาหารอิตาเลี่ยน แนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้าน Prativo มีเซตอาหารมื้อกลางวันให้เลือกมากมายแต่ความโดดเด่นของที่นี้คือมีบุฟเฟต์ผักและอาหารจานหลักในราคา 1,650 เยน ซึ่งผักหรือวัติถุดิบต่างๆจะเป็นวัติถุดิบของเมืองนิเซโกะ ซึ่งจะเป็นไปตามฤดูการ และสามารถเติมผักได้ไม่อั้น และที่ร้านยังมี เนื้อปลาแซลมอน พาสต้าซอสทากาฮาชิไร่มอสซาเรลล่ามะเขือเทศ และธัญพืชหมูและกะหล่ำปลีพาสต้ามัสตาร์ด เชื่อได้เลยว่าหากหลายท่านได้ลิ้มลองรับรองจะต้องติดใจแน่นอน

Website : https://niseko-takahashi.jp/prativo/?utm_source=tripadvisor&utm_medium=referral
ที่ตั้งร้าน : 888-1 Soga, นิเซโกะ-โช , Abuta-gun 048-1522 ฮอกไกโด

4.Sushi Hanayoshi

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ใครที่มีความชื่นชอบ อาหารทะเลสไตล์ ซาซิมิ หรือ ซูซิ แนะนำมาร้านนี้ Sushi Hanayoshi เนื่องจากร้านนี้จะโดดเด่นในเรื่องของวัติถุดิบที่สด ใหม่ และที่สำคัญทางร้านจะหาวัติถุดิบตามฤดูกาลของฮอกไกโดและ Toyosu จึงทำให้ลูกค้าที่ไปจะลิ้มลองอาหารทะเลตามแต่ฤดูกาล และในเรื่องของรสชาติบอกได้เลยว่าอร่อยมากเพราะทางร้านจะจัดทำแบบสดใหม่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือราคาไม่แพงค่ะ เรียกได้ว่าอิ่มท้องแต่สะบายกระเป๋ากันเลยทีเดียวค่ะ

Website : http://niseko-hanayoshi.com/
ที่ตั้งร้าน : 65 Fujimi, Niseko, Abuta District, Hokkaido 048-1502 ญี่ปุ่น

5.Yang Shu Ten

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้าน Yang Shu Ten เป็นร้าน อาหารท้องถิ่นของฮอกไกโด ซึ้งร้านนี้ได้รวมวัติถุดิบของดีของเมืองฮอกไกโดไว้มากมาย ซึ่งได้นำมาประกอบอาหารกันแบบสดใหม่กันเลยทีเดียว เชื่อได้ว่าหากหลายท่านมาเที่ยวรับรองได้ว่าจะได้รับประทานอาหารที่มีความสดใหม่เสมอไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเล ไข่หอยเม่น อันแสนอร่อย ราดบนหน้าข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ อร่อยมาก แทบจะหยุดรับประทานไม่ได้เลยค่ะ และทางร้านยังมีเมนูให้เลือกอีกมากมาย ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องห้ามพลาดค่ะ

Website : https://www.niseko-village.com/ja/thevillage/yang-shu-ten.html
ที่ตั้งร้าน : Aza, 919-4 Soga, Niseko, Abuta District, Hokkaido 048-1592 ญี่ปุ่น

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]