WAKAYAMA : One Day Trip ของเหล่าทาสแมวในญี่ปุ่น

ว่าด้วยการมาทำความรู้จัก วากายามะ (Wakayama) เป็นจังหวัดในภูมิภาคคันไซ อยู่ใต้สุดของเกาะฮอนชู พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขา ทำให้มีอากาศค่อนข้างร้อน ตัวเมืองตั้งอยู่ติดกับโอซาก้า ใกล้ๆ สนามบินคันไซ แต่เมืองอื่นอย่างเช่น นาชิ (Nachi) เดินทางไปค่อนข้างยาก แต่วันนนี้จะพาไปเที่ยวสถานีรถไฟที่ทีแมวเป็นนายสถานีชื่อว่า ทามะ (Tama) ที่สถานี สถานีคิชิ (Kishi Station) บอกเราทาสแมวทั้งหลายไม่ความพลาดจ้า

เริ่มเดินทางกันเลยเช้าวันแรกนั่งรถไฟจาก สนามบินคันไซ ไป สถานี Wakayama ก่อนที่จะไปเที่ยวที่ต่างๆทำการฝากกระเป๋าที่ตู้ล็อคเกอร์ ราคาประมาณ 700 เยน ฝากกระเป๋าเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไป สถานี Kishi

โดยไปที่ชานชาลาที่ 9 เพื่อขึ้น รถไฟสายแมวเหมียวทามะ ไปลงที่ สถานี Kishi สถานีนี้จะสร้างเป็นหน้าแมวเหมียว (Tama Super station master) เพราะมีนายสถานีเป็นเจ้าเหมียวสามสี ชื่อว่า ทามะ(Tama) (โดยตอนนี้มี นิทามะ (Nitama) ประจำการแทน ทามะ (Tama) นายสถานีตัวเดิมที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว)

Tama Super station master
รถไฟสายแมวเหมียวทาม

ข้างในจะประดับตกแต่งทำให้ทาสแมวทั้งหลายต้องกรี๊ดสลบไปกับความน่ารัก และยังมีของฝากให้ได้ซื้อเป็นที่ระลึกนะคะ (ซึ่งสามารถเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ https://www.wakayama-dentetsu.co.jp/en/)

Tama Super station master

หลังจากที่ดื่มด่ำกับความน่ารักแล้วก็นั่งรถไฟย้อนกลับมาเพียงหนึ่งสถานีลงที่สถานี Kanrojimae แล้วเดินมาอีกประมาณ 10 นาที จะเจอกับ สวน Sakura Farm ที่โด่งดังในเรื่องของผลไม้ และหนึ่งในนั้นก็คือ สตอเบอร์รี่ พันธุ์คาโอริโนะ

สวน Sakura Farm
สวน Sakura Farm
สวน Sakura Farm

เป็นพันธุ์ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติหวานอร่อย มีให้ทานแบบบุฟเฟ่ต์ไม่อั้นกินกันให้พุงกางในเวลา 1 ชั่วโมง ราคาคนละ 2000 เยนได้เพลินไปกับสตรอว์ลูกโตๆ สีแดง หวานฉ่ำน้ำ ใครชอบหวานมากก็สั่งนมข้นมาเพิ่มได้ ราคา 100 เยน หรือจะสั่งไอศกรีมมาทานเพิ่มราคา 300 เยนก็ได้พูดเลยว่าฟินสุดๆ

สวน Sakura Farm
สวน Sakura Farm

กินจนอิ่มก็เดินทางกันต่อไปเที่ยวที่ สวนสนุก Porto Europa

สวนสนุก Porto Europa

เป็นสวนสนุกสไตส์ยุโรป ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของประเทศในฝั่งยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ทำให้ที่นี่มีบรรกาศอันแสนจะโรแมนติก นอกจากจะได้เล่นเครื่องเล่นอย่างสนุกสนาน และสำหรับใครที่หลงรักการถ่ายรูปเหมาะมากที่จะมีที่นี่ มีมุมสวยๆ ให้กดชัตเตอร์รัวๆ เลยค่ะ

สวนสนุก Porto Europa
สวนสนุก Porto Europa

เมื่อเราเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอโชว์ที่น่าสนใจต่าง ๆ ตลอดเส้นทางที่เดินผ่าน และที่สำคัญคือมีโชว์โลมาแสนรู้มาอวดความน่ารักให้ดูฟรีด้วยนะคะ แล้วยังมีร้านอาหารให้เราได้ฝากท้องด้วยนะจ๊ะ

สวนสนุก Porto Europa
สวนสนุก Porto Europa

และเดินทางไปต่อกับที่สุดท้ายของวันที่ ศาลเจ้าอาวาชิมา จินจา (Awashima-jinja Shrine) ตั้งอยู่ริมชายทะเล มีชื่อเสียงในเรื่องของการขอพรเพื่อให้เกิดความโชคดีต่อบุตรและช่วยให้คลอดบุตรง่ายสำหรับผู้หญิง

ศาลเจ้าอาวาชิมา จินจา (Awashima-jinja Shrine)
ศาลเจ้าอาวาชิมา จินจา (Awashima-jinja Shrine)

เมื่อมองจากด้านหน้าของศาลเจ้าเข้าไปจะพบกับบรรดาตุ๊กตามากมายตั้งเรียงรายกันนับหมื่นตัว

ศาลเจ้าอาวาชิมา จินจา (Awashima-jinja Shrine)

เนื่องศาลเจ้าแห่งนี้คือสถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดของเทศกาลตุ๊กตา หรือ วันเด็กผู้หญิง หลายคนจึงเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้คือสรวงสรรค์ของเหล่าตุ๊กตา เพราะฉะนั้น ที่สุดท้ายสำหรับตุ๊กตาก็ต้องเป็นสรวงสวรรค์ของพวกเขาค่ะ

ศาลเจ้าอาวาชิมา จินจา (Awashima-jinja Shrine)

หลังจากที่เต็มอิ่มกับการเที่ยวเมืองวากายามะก็ทำการกลับมาที่สถานี wakayama เพื่อรับกระเป๋าและเดินทางไปเที่ยวต่อที่เมืองโอซาก้า เกียวโต และโกเบได้ต่อค่ะ ที่สำคัญของฝากน่าซื้อที่วากายามะ เช่น บ๊วยเค็ม (Umeboshi) บ๊วยช็อกโกแลต (Ume Choco) ที่มีความเค็มของบ๊วยผสมกับความหวามและขมของช็อกโกแลตให้อร่อยไปอีกแบบและ แยมส้ม (Mikan Jam) แยมที่มีเนื้อส้มแทรกอยู่ทำให้รู้สึกความเป็นส้มแท้ทรูเลยจ้า

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

เที่ยวฟิน ๆ กับหนึ่งวันดี ๆ ที่ Kanagawa (คะนะงะวะ)

คะนะงะวะ(Kanagawa) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโตเกียว(Tokyo) ภูมิภาคคันโต มีเมืองหลวงชื่อคุ้นๆที่เพื่อนๆเคยได้ยินมานั้นก็คือโยโกฮาม่า(Yogohama) มีเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น คามาคุระ(Kamakura) และฮาโกเน่(Hakone) รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆอีกมากมาย คะนะงะวะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ และยังเป็นจังหวัดที่เหมาะแก่การเดินทางไปเที่ยวเป็นที่สุด สามารถเดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

เริ่มต้นกันที่ โยโกฮาม่า (Yokohama) เมืองหลวงของจังหวัดกันก่อนเลยค่ะ สำหรับเมืองนี้จะเป็นเมืองท่าเรือที่ติดทะเล อยู่ทางตอนใต้ของโตเกียว ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวเพียง 30-40 นาทีเท่านั้นค่ะ มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังและวิวทิวทัศน์สวยงามมากมาย เดินเล่นชมความงามยามเย็นริมอ่าวที่มีเสน่ห์ของเมืองโยโกฮาม่า พร้อมสัมผัสเมืองท่าที่ผสมผสานวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและต่างชาติเอาไว้ด้วยกัน ถือว่าเป็นเมืองที่ใกล้โตเกียวมากๆ สำหรับการเดินทางมายังเมืองท่าแห่งนี้ไม่ยากเลยค่ะ สามารถนั่งรถไฟจากสถานีโตเกียว มาลงยังสถานี Yokohama ได้ค่ะ

โยโกฮาม่า (Yokohama)
โยโกฮาม่า (Yokohama)
โยโกฮาม่า (Yokohama)
โยโกฮาม่า (Yokohama)
โยโกฮาม่า (Yokohama)

พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ไดบุทสึ (Daibutsu) ที่สร้างขึ้นในสมัยคามาคุระ จึงมีชื่อเรียกอื่นๆ ตามมาว่า “คามาคุระ ไดบุทสึ” น้อยคนนักที่จะทราบว่าพระองค์นี้คือ “พระอมิตตาพุทธ เนียวยูไล” (Amida Nyoyurai) ประดิษฐานอยู่ภายในวัดโคโตกุ (Kotoku Temple) เมืองคามาคุระ จังหวัดคะนะงะวะ ในยามที่ซากุระบานวัดแห่งนี้ก็สวยงามน่าถ่ายรูปไม่แพ้ที่ใด ใครที่ชอบเที่ยวแนวเข้าวัดไหว้พระ หรือศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น แนะนำให้ปักหมุดมาที่เมืองนี้เลยค่ะ เพราะเมืองนี้มีวัดพุทธถึง 65 แห่ง และศาลเจ้าชินโตอีก 19 แห่งค่ะ

การเดินทาง จากสถานี Kamakura นั่งรถไฟมาลงยังสถานี Hase และเดินตามป้ายนำทางไปวัดที่มีรูปพระใหญ่อยู่ตามทางมากมาย เดินประมาณ 10 นาที ก็ถึงทางเข้าวัดค่ะ

พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ไดบุทสึ (Daibutsu)
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ไดบุทสึ (Daibutsu)
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ไดบุทสึ (Daibutsu)

หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani) เมืองฮาโกเน่ จังหวัดคะนะงะวะ จะมีความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่เชื่อว่ากินไข่ดำจากหุบเขานรก หรือหุบเขาโอวาคุดะนิเพียงแค่ 1 ฟอง จะมีอายุยืนยาวขึ้นถึง 7 ปีเลยล่ะค่ะ ซึ่งเป็นกุศโลบายที่มีมาตั้งแต่สมัยอดีต เพราะการเดินทางมาที่หุบเขาแห่งนี้ต้องผ่านการเดินทางหลายรูปแบบทั้งนั่งกระเช้า เดิน ซึงก็เหมือนกับว่าได้ออกกำลังกายไปด้วย และจากกุศโลบายทำให้คนญี่ปุ่นมีอายุยืนยาวนับร้อยปี โดยหุบเขานรกตั้งอยู่ตรงปากปล่องภูเขาไฟโบราณที่ชื่อว่าฮาโกเน่ (Hakone Kasan) แม้จะไม่มีการระเบิดอีกแล้วแต่ใต้พื้นผิวยังคงมีความร้อนอยู่จึงทำให้น้ำที่อยู่ข้างใต้พวยพุ่งหรือระเหยกลายเป็นไอน้ำออกมาค่ะ

การเดินทาง สามารถนั่ง Hakone Ropeway มาลงยังสถานี Owakudani ได้เลยค่ะ เดินจากสถานีประมาณ 5 นาทีก็จะถึงหุบเขาเลยค่ะ สถานี Owakudani อยู่ระหว่างสถานี Sounzan และ Togendai ค่ะ

หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)
หุบเขาโอวาคุดะนิ (Owakudani)

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

5 ร้านดังเมืองมิยะซะกิ คิวชู

มิยะซะกิเป็นอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ภูมิภาคคิวชู เป็นเมืองที่เชื่อได้ว่าหลายท่านได้ไปแล้วจะต้อง ต้องมนต์เสน่ห์เป็นแน่นนอนเป็นเมืงที่มีความสวยงาม และมีธรรมชาติที่อบอุ่น เชื่อได้ว่าหากท่านได้ไปแล้วต้องหลงไหลในธรรมชาติ ดินแดนทางใต้ที่งดงามด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในภูมิภาคคิวชู เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย เช่น สวนสันติภาพเฮวะได แหลมฮิวงะ สวนสาธารณะอะมะกะโจ และยังมีอาหารที่แสนจะอร่อยในแบบของมิยะซะกิอีกด้วย

1.Ogura

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้าน Ogura เชื่อกันว่าเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นเมนู Chiken Nanban ซึ้งร้านนี้ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ดูภายนอนจะเป็นตึกที่ค่อยข้างจะโบราณ บรรยากาศภายในร้านก็ค่อยข้างเรียบง่าย แต่เป็นร้านที่โดงดังอีกหนึ่งร้านโดยเฉพาะเมนูเด็ด ของร้านที่ชื่อว่า Ogura Chicken Nanban อร่อยมากหากใครได้ลอง รสชาติเหมือนกับไก่คาราเกะ แต่ปรุงรสด้วยน้ำส้ม ไก่มีความกรอบนอก แต่ยังคงความฉ่ำไว้ข้างใน มีรสเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูนิดๆ เป็นอไรที่อร่อยที่สุดอย่างบอกไม่ถูก

Website : http://www.ogurachain.com/
ที่ตั้งร้าน : 3 Chome-4-24 Tachibanadōrihigashi, Miyazaki-shi, Miyazaki-ken
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากทางออก West Exit สถานี Miyazaki สาย JR

2.Kama-age Udon Iwami

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

หากท่านชื่นขอบรับประทานเส้น อูดง แล้วละก็แนะนำร้าน Kama-age Udon Iwami ตั้งอยู่หน้าสถานี Aoshima เชื่อว่าหลายๆท่านที่เคยไปอาจจะเคยเห็น ร้านนี้เป็นร้านที่โดงดังในเรื่องของ อูดงเชื่อได้ว่าใครๆจะต้องสั่งเมนู Kama-age Udon เส้น Udon ที่ต้มในหม้อ Kama และเส้นใหญ่ เหนียว นุ่ม เรียกได่ว่าเป็นเมนูที่นิยมเลยก็ว่าได้และที่สำคัญคือราคาไม่แพง

Website : https://r.gnavi.co.jp/29tz52zm0000/
ที่ตั้งร้าน : 2 Chome-9-5 Aoshima, Miyazaki-shi, M
iyazaki-ken
การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากทางออก East exit สถานี Aoshima สาย JR Nichinan

3.Fruit Ohno

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

สำหรับสาวๆที่ชื่นของของหวานบอกเลยว่าแนะนำร้านนี้ Fruit Ohno ค่ะถ้าหากเรื่องของความหวานต้องให้ร้านนี้จริงๆค่ะเพราะร้านนี้เป็นร้านที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานและเป็นร้านประจำของสาวๆที่ชื่นชอบทาน ไอศกรีม และ ซอฟท์ครีม โดยเฉพาะมะม่วงสุกของจังหวัด Miyazaki อยากให้ทุกคนไดลองน ทั้งความหวานของมะม่วงและวิปครีม กับไอศกรีมรสวนิลา เป็น parfait ที่ตบแต่งมาอย่างสวยงาม นอกจากม่วงยังมี ผลไม้ต่างๆให้เลือกอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีผักด้วยนะคะ สุดจริงๆร้านนี้

Website : http://www.miyazaki-fruit-ohno.com/
ที่ตั้งร้าน : 1-22 Chuodori, Miyazaki-shi, Miyazaki-ken
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากทางออก West exit สถานี Miyazaki สาย JR

4.Portside Station Meitsu

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

มิยะซะกิ เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้หากนึกถึงอาหารที่แทบจะเป็นอาหารหลักของชาวเมืองมิยะซะกิแล้วต้องนึกถึงปลา หรืออาหารทะเลเป็นแน่ และร้าน Portside Station Meitsu ร้านนี้บอกได้เลยว่าอาหารทะเลนั้นสดมากไม่ว่าจะนำมาประกอบเป็นเมนูอะไรก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ซาซิมิ ราดข้าวแม้แต่เมนูย่านก็อร่อยเชื่อได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่สำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารทะเลต้องไม่พลาดเลยค่ะ เมนูแนะนำก็แน่นอนว่าเป็นปลาทูน่าจาก Nichinan เมนู Katsu Aburi Ju ราคาประมาณ 1,300 เยนค่ะ

Website : https://fishtown-meitsu.jp/
ที่ตั้งร้าน : 4862-9 Nangocho Nakamuraotsu, Nichinan-shi, Miyazaki-ken
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากสถานี Nango สาย JR

5.Teppanyaki Steakhouse Miyachiku

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

หากพูดถึงอาหารดังของ Miyazaki ต้องมีเนื้อ Miyazaki เป็นเนื้อวัวดำของทางจังหวัด Miyazaki เรียกได้ว่าความอร่อยนี้แทบจะไม่ต้องบรรยาย ซึ่งทางร้าน Teppanyaki Steakhouse Miyachiku จะนำเนื้อวัวดำปรุงรสบางซึ่งยังคงความอร่อยของเนื้อไว้ ย่างกับกะทะร้อนๆ โดยมีเซฟจัดทำให้เราดูกันแบบสดๆ เสิร์ฟกันแบบร้อนเลยก็ว่าได้ เนื้อที่สุกกำลังดี และยังคงความฉ่ำของเนื้อไว้อย่างดีเชื่อได้เลยว่าดูไปหิวไปอย่างแน่นอน

Website : http://rest.miyachiku.jp/miyachiku/
ที่ตั้งร้าน : 1401-255 Maehama, Shinbeppucho, Miyazaki-shi, Miyazaki-ken
การเดินทาง : ลงสถานี Miyazaki สาย JR ทางออก East exit นั่งแท็กซี่ต่อ 10 นาที

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

เมืองชิบะ 2 วัน 1 คืน เที่ยวง่ายๆ ใกล้ๆโตเกียว

มารู้จักเมืองชิบะกันก่อนจ้า

เมืองชิบะ (Chiba)  ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต อยู่ทางตะวันออกห่างจากโตเกียวประมาณ 40 นาที ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิคล้อมรอบด้วยทะเล ทำให้มีความเฟื่องฟูเรื่องประมงมาก ถือเป็นที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองที่ตั้งของสนามบินนานาชาตินาริตะ (NRT)อีกด้วยจ้า ทำให้เป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และสัญลักษณ์ประจำจังหวัดคือ “ชิบะคุง” หมาน้อยตัวแดงที่รูปทรงออกมาแบบของพื้นที่จังหวัดชิบะค่ะ

เมืองชิบะ (Chiba)

การเดินทางมาเมืองชิบะก็ไม่ยากเลยจ๊ะ

จากสนามบินนานาชาตินาริตะ

จากสถานีสนามบินนานาชาตินาริตะนั่งสาย  JR Narita Line ลงสถานีชิบะ

จากชินจูกุ

จากสถานีชินจูกุนั่งสาย Chuo-Sobu Line (สีเหลือง) ลงสถานีชิบะ (ประมาณ 1 ชม.ครึ่ง)

จากโตเกียว

จากสถานีโตเกียว นั่งสาย Yokosuka-Sobu Line (สีน้ำเงิน) ลงสถานีชิบะ (รถด่วนประมาณ 45 นาที)

เป็นการเดินทางคร่าวๆ ที่สามารถใช้เดินทางมายังเมืองชิบะได้สะดวกค่ะ

เมืองชิบะ (Chiba)

มาเริ่มเที่ยวกันดีกว่าเมื่อเดินทางมาถึงชิบะอย่างแรกที่จะต้องไปทำคือการเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์ของพรกันก่อนค่ะ จุดเริ่มของเส้นทางที่สถานีนาริตะ เพื่อเดินไปจุดหมายแรกในระหว่างทางเดินจะไปผ่าน ถนน Omotesando Road จะมีบ้านเรือน ร้านค้าที่มีลักษณะเหมือนเมืองเก่าตลอดทั้งเส้นทาง

ถนน Omotesando Road
ถนน Omotesando Road
ถนน Omotesando Road
ถนน Omotesando Road
ถนน Omotesando Road

ทำให้สามารถซื้อหรือแวะหาของกินจนอิ่ม

ถนน Omotesando Road

ก่อนจะเดินถึงที่ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  

เมื่อเดินผ่านประตูสูงใหญ่สง่างามเข้าไปยังในวัด ก็จะพบกับอาคารในสไตล์ญี่ปุ่น 5 อาคาร บรรยากาศในวัดจะเงียบสงบ ร่มรื่น เย็นสบาย และเป็นที่นิยมที่คนญี่ปุ่นจะมาไหว้ขอพรในช่วงปีใหม่ หากมาเที่ยวในช่วงเช้าอาจะเจอกับพิธีของสงฆ์ด้วยนะคะ

วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple)  

การเดินทาง จากสนามบินนานาชาตินาริตะ นั่งรถไฟสาย JR หรือ Keisei ลงที่สถานีนาริตะ ใช้เวลาประมาณ 8 นาที เดินต่อไปที่วัด

สถานีต่อไปที่เดินทางไม่ไกลจากวัดนาริตะซังมากนัก นั้นคือ เมืองซาวาระ(Sawara) ที่รู้จักกันในนาม ลิตเติ้ลเอโดะ (little edo)

เมืองซาวาระ(Sawara)

ตั้งอยู่ที่ในเขตคาโทริ จังหวัดชิบะ เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่มีความเก่าแก่ เคยเป็นย่านธุรกิจที่รุ่งเรืองในสมัยเอโดะ  แต่ตอนนี้ได้พัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คลาสสิคที่เต็มไปด้วยบ้านเรือน ร้านค้าตามแบบสไตล์ญี่ปุ่นโบราณอย่างแท้จริง

การเดินทาง จากสถานีนาริตะ นั่งรถไฟ JR Narita Line for Choshi  ลงที่สถานีซาวาระ (ใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาที)

เมืองซาวาระ(Sawara)
เมืองซาวาระ(Sawara)

เมื่อถึงที่ สถานีซาวาระ ด้านตรงข้ามสถานีจะมี Information center สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อขอคำแนะนำและขอแผนที่เที่ยว จากนั้นก็ออกมาเล่นทัวร์เมืองกันซะหน่อย (ขอบอกอีกอย่างมีร้านให้เช่าชุดกิโมโนให้เช่าด้วย) เดินตามแผนที่มาเรื่อยๆ มาเจอกับ จุดไฮไลท์ของเมือง คือ สะพานจาจา (Ja Ja Bridge) หรือ สะพานโทโยฮาชิ

สะพานจาจา (Ja Ja Bridge)

เป็นสะพานขนาดเล็กข้ามแม่น้ำโอโนกาวา ที่จะมีน้ำไหลออกมาจากสะพานทั้งสองด้านคล้ายน้ำตกอย่างสวยงาม แถมใกล้ๆยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์อิโนะทาดาทากะ(Ino Tadataka Museum)คือผู้ที่บุกเบิกประเทศญี่ปุ่นด้านในก็จะเป็นประวัติต่างๆ ค่ะ จากนั้นก็ถึงเวลาไปล่องเรือชมเมืองเก่า ที่แม่น้ำโอโนะกาวา จะได้ชิลกับบรรยากาศสองฝั่งคลองที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนในเวลา 30 นาที ค่าล่องเรือผู้ใหญ่ 1,300 เยน และเด็ก 700 เยน

สะพานจาจา (Ja Ja Bridge)

คุ้มค่ามากมาย จากที่เดินเล่นถ่ายรูป แวะกินของอร่อยๆ กันเรียบร้อยก็นั่งรถไฟกลับไปที่สถานีนาริตะ เพื่อเข้าที่พักพักผ่อนเตรียมตัวไปเที่ยวต่อในวันที่ 2 ค่ะ

เช้าวันที่ 2 จากสถานีนาริตะเริ่มต้นวันด้วยการเดินทางไป ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) เป็นสวนที่เป็นที่นิยมมากของคนไทย

ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)

ที่สวนจะมีสตรอเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ ขึ้นอยู่ตามฤดูกาล ช่วงเวลาของสตรอเบอร์รี่ก็จะอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม ถึง พฤษภาคม

ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)

และ บลูเบอร์รี่เดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคมค่ะ

ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)

แถมที่นี่จะมีป้ายต้อนรับเป็นภาษาไทยด้วย ที่นี่เราสามารถเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ทานได้กว่า 20 ชนิด และยังทานได้แบบไม่อั้นภายใน 30 นาที ไม่ว่าจะทานสดๆ ก็หวาน จะจิ้มนมข้นหรือช็อกโกแลตก็อร่อยขึ้นไปอีก

ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm)

ราคาเข้าใช้บริการอยู่ที่ 2000 เยน (อายุ 6 ปีขึ้นไป) / 1500 เยน (อายุ 4 ปีขึ้นไป) / 500 เยน (อายุ 2-3 ปี) เปิดเวลา 9.00-15.30 น.

การเดินทาง นั่ง Chiba Monorail ลงรถสถานี Chishirodai Kita ต่อด้วยนั่งสาย Chiba City Monorail แล้วเดินต่อ 20 นาที หรือนั่งแท๊กซี่ต่อประมาณ 10 นาที

จากนั้นสถานีต่อไปที่จะเดินทางไปก็ คือ ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri)  เป็นภูเขาสูง 330 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) ฝั่งเดียวกับอ่าวโตเกียว

ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri)
ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri)
ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri)

ซึ่งการเดินทางขึ้นไปบนภูเขาโดยขึ้นกระเช้า (Rope way) เปิดตั้งแต่ 9.00น.- 17.00น.  ราคาเที่ยวเดียวผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน และราคาไปกลับผู้ใหญ่ 950 เยน เด็ก 450 เยน

ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri)

เมื่อขึ้นมาถึงข้างบนบริเวณ จิโกะคุ โนะโซะคิ (Chigoku Nozoki) สามารถยืนอยู่ที่ปลายโขดหินเพื่อมองลงมาชมทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวโตเกียวและคาบสมุทรโบโซได้ค่ะ นอกจากนี้บริเวณยอดเขายังมี วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple)

วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple)
วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple)

ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหินที่นับว่าสูงที่สุดในญี่ปุ่น

วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple)

ที่นี่มีเครื่องพระโพธิสัตว์เล็กๆ จำหน่าย และให้ผู้อธิฐานเขียนชื่อตัวเองลงไปในพระโพธิสัตว์แล้วอธิฐาน คำอธิฐานนั้นจะเป็นจริง แล้วยังซื้อเครื่องรางกลับไปบูชาได้นะคะ

การเดินทาง จากสถานีชิบะ นั่ง JR ไปลงที่สถานี Hamakanaya  เดินอีกก็จะเจอกระเช้า

วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple)

หลังจากลงจากภูเขาแล้วเดินทางไปต่อที่ Mother Farm  เป็นฟาร์มที่มีดอกไม้สวยๆ อยู่บนเนินเขาทำให้มีลมพัดเย็นสบาย ดอกไม้ที่นี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

Mother Farm  เ
Mother Farm  เ

เมื่อเดินมาประตูทางเข้าจะเจอกับสัตว์น่ารักต่างๆ มาอวดโฉม เหมาะสำหรับคนที่รักสัตว์ และชอบดอกไม้อย่างมาก

Mother Farm  เ

ที่นี่มีพื้นที่กว้างมากทำให้บรรยากาศคล้ายกับสวนสนุก แถมยังรวบรวมหลากหลายกิจกรรม เช่น โชว์สุนัขต้อนแกะ ให้อาหารแกะ เดินชมวิว 360 องศา ใกล้ชิดกับหนูตัวใหญ่ที่สุดในโลก

Mother Farm  เ
Mother Farm  เ

และลิ้มรสไอศครีมที่ลองทำด้วยตัวเอง  ปิดท้ายด้วยร้านอาหารให้เลือกสรรทั้งร้านจำหน่ายของที่ระลึกมากมายให้ซื้อฝากค่ะ

Mother Farm  เ

การเดินทาง จากสถานีชิบะ นั่ง Jr Uchibo line มาลงสถานี Kimitsu  จากนั้นขึ้นรถบัสได้ที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 1 ทางออก South exit ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็กประถมศึกษา 350 เยน โดยรถบัสจะไปจอดที่หน้าประตู Makiba เข้าฟาร์มได้เลยค่ะ

หลังจากที่เที่ยวมาทั้งวันหากใครที่ยังพอมีเวลาเหลือแนะนำให้แวะไปช็อปปิ้ง Mitsui Outlet Park Kisarazu กันก่อนที่จะไปโตเกียว

Mitsui Outlet Park Kisarazu
Mitsui Outlet Park Kisarazu

ซึ่งเป็น Outlet ขนาดใหญ่ ที่มีเสื้อผ้าแฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ร้านอาหาร ร้านแบรนด์เนมครบครันให้เดินเพลินๆ และละลายทรัพย์กันแบบสบายใจค่ะ

Mitsui Outlet Park Kisarazu
Mitsui Outlet Park Kisarazu
Mitsui Outlet Park Kisarazu
Mitsui Outlet Park Kisarazu

การเดินทางนั่งรถไฟมาลงสถานีรถไฟ JR Sodegaura Station ต่อรถบัสท้องถิ่นได้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือจาก Tokyo Station, Shinagawa Station, Kawasaki Station และ Shinjuku Station นั่งรถบัสมาลงห้าง Mitsui Outlet Park Kisarazu ตรงได้เลย

นับว่าเป็นทริปที่เที่ยวได้ครบไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือเมืองโบราณ แล้วที่สำคัญเดินทางไม่ไกลจากโตเกียวอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่เบื่อการเที่ยวเมืองหลวงแต่มีเวลาไม่เยอะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลองแวะมาสัมผัสนะคะ

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติสุดฟินที่ “อาโอโมริ”

อาโอโมริ (Aomori) เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคโทโฮคุ  อยู่ทางด้านเหนือสุดของภูมิภาค บนเกาะฮอนชู ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมให้เที่ยวชมมากมาย รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม พื้นที่โอบล้อมไปด้วยป่าเขา สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพื่อนๆคนไหนที่ชอบธรรมชาติ และความสงบ แนะนำเลยค่ะ ว่า… อาโอโมริคือทางเลือกที่ดีที่สุด และน่าไปเยือนสุดๆเลยค่ะ

การเดินทางจากโตเกียว (Tokyo) – อาโอโมริ (Aomori) สะดวกสบายมากๆเลยนะคะ เพื่อนๆสามารถนั่ง Shinkansen Hayabusa จากสถานี Tokyo วิ่งตรงไปลงยังสถานี Shin-Aomori ได้เลยค่ะใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 16 นาที

Shinkansen Hayabusa
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ตั้งอยู่เมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ปราสาทแห่งนี้จัดได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวติดอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยนะคะ จุดเด่นของที่นี่คือในช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม ปราสาทแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยดอกซากุระสีชมพู และสีขาวจำนวนมาก เนื่องจากบริเวณโดยรอบๆ ปราสาทจะมีต้นซากุระกว่า 2,500 ต้น เหมาะกับการมาเดินเล่นและมาถ่ายรูปจริงๆ เลยว่ามั้ยคะ..

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)

การเดินทาง จากสถานี JR Hirosaki Station โดยสารรถบัส Dotemachi Loop Bus ที่วิ่งไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 15 นาที ลงที่สถานี Shiyakusho-mae bus stop

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)
ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)

ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai คาบเกี่ยวพรมแดนของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) กับจังหวัดอะคิตะ (Akita) เป็นสถานที่ยอดฮิตในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ความงามของทะเลสาบปรากฏชัดในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขา และต้นไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง เหลือง ส้ม สวยติดตาไม่ลืมเลยค่ะ ที่นี่สร้างสีสันให้สดใสในช่วงประมาณกลางเดือน-ปลายเดือนตุลาคม มาเที่ยวชมวิวทิวทัศน์เพลินๆ รับรองว่าคุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอนค่ะ

ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)
ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)

การเดินทาง จากสถานี JR Hachinohe นั่งรถบัส JR ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที จะถึงทะเลสาบโทวาดะ หรือจากสถานี JR Aomori นั่งรถบัส ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 15 นาที

ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)
ลำธารโออิราเสะ (Oirase)

ลำธารโออิราเสะ (Oirase) เขียวขจีท่ามกลางสายน้ำ และ ลำธารโออิราเซะ(Oirase ) ที่นี่เป็นลำธารที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai ในจังหวัดอะโอะโมะริ (Aomori) เป็นน้ำที่ไหลจากทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake) แล้วผ่านไปตามหุบเขาโออิราเสะ (Oirase Gorge) เห็นแบบนี้แล้วอยากจุ่มมือลงไปสัมผัสน้ำเย็นๆ เลยล่ะค่ะ

ลำธารโออิราเสะ (Oirase)
ลำธารโออิราเสะ (Oirase)

สามารถเที่ยวชมได้ในทุกฤดูกาล ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ป่าและต้นไม้แถบนี้จะเป็นสีเขียว มีอากาศสดชื่นโล่งสบาย และช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เราจะเห็นสีสันของใบไม้ เหลือง ส้ม แดง อยู่ตลอดแนวลำธาร ถ้าได้มาชมรับรองว่าเพื่อนๆจะไม่มีวันลืมความสวยสดงดงามของลำธารแห่งนี้ได้เลยทีเดียวค่ะ ประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน นับว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของลำธารแห่งนี้ และที่นี่ยังเป็นจุดชมใบไม้ร่วงที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยนะคะ

ลำธารโออิราเสะ (Oirase)
ลำธารโออิราเสะ (Oirase)

การเดินทาง จากสถานี JR Hachinohe หรือสถานี JR Shin-Aomori สามารถขึ้นรถบัส JR ไปยังลำธารโออิราเสะ โดยระหว่างทางจะมีจุดให้แวะลงชมธรรมชาติมากมายเลยค่ะ

ลำธารโออิราเสะ (Oirase)

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

5 ร้านดัง @ ฟุกุโอกะ

จังหวัด ฟุกุโอกะ ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคิวชู ของประเทศญี่ปุ่น มีเมืองหลัก 2 เมืองใหญ่ ๆ บนเกาะคิวชู ได้แก่ ฟุกุโอกะและคิตะคิวชู ภูมิภาคนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่มากมาย และมีร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออยู่หลายร้านด้วยกัน วันนี้เรามาปักหมุด 5 ร้านดังในฟุกุโอกะกันค่ะ

1.Hachihachi

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้านนี้ Hachihachi ขึ้นชื่อในเรื่องของ เนื้อย่าง อย่างมาก เนื่องจากร้านนี้จะใช้เนื้อที่มีคุณภาพดี จะคัดสรร คุณภาพเนื้ออย่างดีเพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานและลิ้มลองเนื้อคุณภาพ และทางร้านจะเสิร์ฟ เนื้อเนื้อเกรด A4 และ A5 เชื่อได้เลยว่าหากหลายท่านได้ลองแล้วรับลองว่าติดใจแน่นอน และที่สำคัญอีกอย่างทางร้านสามารถรองรับจำนวนคนได้เยอะมาก และราคาก็คุ้มคุณภาพมากๆ และยังมีหลายสาขาในฟุกุโอกะ อีกด้วยค่ะ

Website : http://www.hachihachi.co.jp/hachihachi88/
ที่ตั้งร้าน : 3 Chome-12-20 Hakataekihigashi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0013, Japan
วิธีการเดินทาง : เดินเท้าสถานีรถไฟใต้ดิน Higashihie ประมาณ 5 นาที

2.Maedaya

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

เชื่อได้เลยว่าหากท่านที่ไปเที่ยวในเมืองที่อากาศหนาวก็มักจะนึกถึงหม้อไฟร้อนๆ แนะนำร้าน Maedaya ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของ หม้อไฟ เมนูแนะนำของร้านนี้จะเป็นเมนูไหนไปไม่ได้นอกจาก หม้อไฟเครื่องใน หรือ โมทสึนาเบะ ทางร้านมีหม้อไฟให้เราเลือกรับประทานได้ถึง 3 แบบ และมีเนื้อคุณภาพ อย่างดี คัดสรรอาหารที่มีตามท้องถิ่นเพื่อให้เราได้รับประทารอาหารที่ทั้งสด และคุณภาพ อย่างแน่นอน อาหารอร่อยแถวบรรยากาศในร้านที่สวยงามทางร้านตบแต่งร้านแบบญี่ปุ่น น่ารักมากๆ

Website : https://motsunabe-maedaya.com/
ที่ตั้งร้าน : 3 Chome-26-5 Hakata Ekimae, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0011, Japan
วิธีการเดินทาง : เดินเท้าจากสถานีรถไฟใต้ดิน Gion ไปอีกประมาณ 6 นาที ร้านอยู่ริมแม่น้ำเลย หรือเดินจาก Canal City Hakata 1 นาที

3.Hakata Ramen

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

เพื่อนๆหลายท่านที่มีความชื่นชอบรับประทานราเมนเป็นพิเศษ แนะนำร้าน Hakata Ramen ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของราเมงเป็นอย่างมากด้วย รสชาติที่มีเอกลักษณ์ ด้วยน้ำซุปกระดูกหมูสไตล์ฮากาตะ เป็นน้ำซุปสีขาวข้น หอม มัน ใช้เวลาเขี้ยวน้ำซุปอย่าพิถีพิถัน เชื่อกันว่าใช้เวลาเขี้ยวข้ามวันกันเลยทีเดียวจึงทำให้น้ำซุปมีความหอมอร่อย บวกกับเส้นเล็กที่เหนียวนุ่ม วางหน้าด้วย หมูชาชูนุ่มๆละลายในลิ้น และไข่ยางมะตูม บอกได้เลยว่าร้านนี้รสชาติอร่อยมากๆ

Website : http://canalcity.co.jp/ra_sta/
ที่ตั้งร้าน : 1 Chome-2 Sumiyoshi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0018 ญี่ปุ่น
การเดินทาง : จากสถานี JR Hakata นั่งรถบัส Nishitetsu มุ่งหน้าไปยัง Tenjin ประมาณ 7 นาที ลงป้าย Canal City Hakata-mae

4.Hakata Uogashi

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

ร้านนี้เหมาะสำหรับท่านที่มีความชื่นชอบ ซูชิ เป็นอย่างมากซื่งทางร้านมีหน้าให้เลือกมากมายหลายๆหน้าด้วยกัน และทางร้านจะเสิร์ฟซูชิแบบเป็นสายพานให้ลูกค้าที่เข้ามารับประทางสามารถเลือกหน้าที่ท่าชื่นชอบด้วยตนเองเลยค่ะ และแต่ละหน้านั้นทางร้านจะคัดเลือกวัติถุดิบอย่างดี หน้าทะเลที่มีความสดใหม่ทุกๆวันเชื่อว่าหลายท่านไปจะต้องได้รับประทานอาหารทะเลที่สดและใหม่ในทุกๆวัน มีซูชิให้เลือกถึง70 หน้ากันเลยทีเดียวบอกได้เลยว่าพลาดไม่ได้จริงๆค่ะ

Website : https://tabelog.com/fukuoka/A4001/A400101/40027597/
ที่ตั้งร้าน : ญี่ปุ่น 〒812-0012 Fukuoka, Hakata Ward, Hakataekichuogai, 1−1, JR HAKATA CITY, B1
วิธีการเดินทาง : อยู่ภายในสถานี JR Hakata

5.Towakura

ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบบทความเท่านั้น

เป็นร้านหรู สไตล์โมเดิร์น ซึ่งรังสรรเมนูตามฤดูกาล ทางร้านจะตบแต่งออกแนวเทาดำๆ ตบแต่งออกมาอย่างสวยงามและในส่วนของเมนูอาหารนั้นบอกได้เลยว่าอร่อยมากจะใช้วัติถุดิบตามฤดูกาลในช่วงนั้นๆแต่รับรองได้เลยว่า สด ใหม่ สะอาด เสมอที่ได้ไปรับประทาน สำหรับใครที่มองหาร้านที่มีความหลากหลายเรื่องเมนูอาหารอยู่ล่ะก็ร้านนี้ตอบโจทย์มากๆ เพราะมีทั้ง ซูชิ สาเก และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย เชื่อได้เลยว่าถ้าหากหลายท่านได้มาลิ้มลองจะต้อติใจเหมือนเรารับประทานอาหารกันที่บ้านเลยก็ว่าได้ค่ะ

Website : http://towakura.com/
ที่ตั้งร้าน : 5-29 Nishinakasu, Chuo, ฟุกุโอกะ 810-0002 จังหวัดฟูกูโอกะ
วิธีการเดินทาง : เดินเท้าจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nakasu Kawabata ไปประมาณ 7 นาที

📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]