มารู้จักเมืองชิบะกันก่อนจ้า เมืองชิบะ (Chiba) ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต อยู่ทางตะวันออกห่างจากโตเกียวประมาณ 40 นาที ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิคล้อมรอบด้วยทะเล ทำให้มีความเฟื่องฟูเรื่องประมงมาก ถือเป็นที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองที่ตั้งของสนามบินนานาชาตินาริตะ (NRT)อีกด้วยจ้า ทำให้เป็นเมืองที่มีความสำคัญทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และสัญลักษณ์ประจำจังหวัดคือ “ชิบะคุง” หมาน้อยตัวแดงที่รูปทรงออกมาแบบของพื้นที่จังหวัดชิบะค่ะ เมืองชิบะ (Chiba) การเดินทางมาเมืองชิบะก็ไม่ยากเลยจ๊ะ
จากสนามบินนานาชาตินาริตะ
จากสถานีสนามบินนานาชาตินาริตะนั่งสาย JR Narita Line ลงสถานีชิบะ
จากชินจูกุ
จากสถานีชินจูกุนั่งสาย Chuo-Sobu Line (สีเหลือง) ลงสถานีชิบะ (ประมาณ 1 ชม.ครึ่ง)
จากโตเกียว
จากสถานีโตเกียว นั่งสาย Yokosuka-Sobu Line (สีน้ำเงิน) ลงสถานีชิบะ (รถด่วนประมาณ 45 นาที)
เป็นการเดินทางคร่าวๆ ที่สามารถใช้เดินทางมายังเมืองชิบะได้สะดวกค่ะ
เมืองชิบะ (Chiba) มาเริ่มเที่ยวกันดีกว่าเมื่อเดินทางมาถึงชิบะอย่างแรกที่จะต้องไปทำคือการเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์ของพรกันก่อนค่ะ จุดเริ่มของเส้นทางที่สถานีนาริตะ เพื่อเดินไปจุดหมายแรกในระหว่างทางเดินจะไปผ่าน ถนน Omotesando Road จะมีบ้านเรือน ร้านค้าที่มีลักษณะเหมือนเมืองเก่าตลอดทั้งเส้นทาง
ถนน Omotesando Road ถนน Omotesando Road ถนน Omotesando Road ถนน Omotesando Road ถนน Omotesando Road ทำให้สามารถซื้อหรือแวะหาของกินจนอิ่ม
ถนน Omotesando Road ก่อนจะเดินถึงที่ วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 1,000 ปี
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) เมื่อเดินผ่านประตูสูงใหญ่สง่างามเข้าไปยังในวัด ก็จะพบกับอาคารในสไตล์ญี่ปุ่น 5 อาคาร บรรยากาศในวัดจะเงียบสงบ ร่มรื่น เย็นสบาย และเป็นที่นิยมที่คนญี่ปุ่นจะมาไหว้ขอพรในช่วงปีใหม่ หากมาเที่ยวในช่วงเช้าอาจะเจอกับพิธีของสงฆ์ด้วยนะคะ
วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) การเดินทาง จากสนามบินนานาชาตินาริตะ นั่งรถไฟสาย JR หรือ Keisei ลงที่สถานีนาริตะ ใช้เวลาประมาณ 8 นาที เดินต่อไปที่วัด
สถานีต่อไปที่เดินทางไม่ไกลจากวัดนาริตะซังมากนัก นั้นคือ เมืองซาวาระ(Sawara) ที่รู้จักกันในนาม ลิตเติ้ลเอโดะ (little edo)
เมืองซาวาระ(Sawara) ตั้งอยู่ที่ในเขตคาโทริ จังหวัดชิบะ เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักที่มีความเก่าแก่ เคยเป็นย่านธุรกิจที่รุ่งเรืองในสมัยเอโดะ แต่ตอนนี้ได้พัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่คลาสสิคที่เต็มไปด้วยบ้านเรือน ร้านค้าตามแบบสไตล์ญี่ปุ่นโบราณอย่างแท้จริง การเดินทาง จากสถานีนาริตะ นั่งรถไฟ JR Narita Line for Choshi ลงที่สถานีซาวาระ (ใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาที)
เมืองซาวาระ(Sawara) เมืองซาวาระ(Sawara) เมื่อถึงที่ สถานีซาวาระ ด้านตรงข้ามสถานีจะมี Information center สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อขอคำแนะนำและขอแผนที่เที่ยว จากนั้นก็ออกมาเล่นทัวร์เมืองกันซะหน่อย (ขอบอกอีกอย่างมีร้านให้เช่าชุดกิโมโนให้เช่าด้วย) เดินตามแผนที่มาเรื่อยๆ มาเจอกับ จุดไฮไลท์ของเมือง คือ สะพานจาจา (Ja Ja Bridge) หรือ สะพานโทโยฮาชิ
สะพานจาจา (Ja Ja Bridge) เป็นสะพานขนาดเล็กข้ามแม่น้ำโอโนกาวา ที่จะมีน้ำไหลออกมาจากสะพานทั้งสองด้านคล้ายน้ำตกอย่างสวยงาม แถมใกล้ๆยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์อิโนะทาดาทากะ(Ino Tadataka Museum) คือผู้ที่บุกเบิกประเทศญี่ปุ่นด้านในก็จะเป็นประวัติต่างๆ ค่ะ จากนั้นก็ถึงเวลาไปล่องเรือชมเมืองเก่า ที่แม่น้ำโอโนะกาวา จะได้ชิลกับบรรยากาศสองฝั่งคลองที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนในเวลา 30 นาที ค่าล่องเรือผู้ใหญ่ 1,300 เยน และเด็ก 700 เยน
สะพานจาจา (Ja Ja Bridge) คุ้มค่ามากมาย จากที่เดินเล่นถ่ายรูป แวะกินของอร่อยๆ กันเรียบร้อยก็นั่งรถไฟกลับไปที่สถานีนาริตะ เพื่อเข้าที่พักพักผ่อนเตรียมตัวไปเที่ยวต่อในวันที่ 2 ค่ะ
เช้าวันที่ 2 จากสถานีนาริตะเริ่มต้นวันด้วยการเดินทางไป ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) เป็นสวนที่เป็นที่นิยมมากของคนไทย
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) ที่สวนจะมีสตรอเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ ขึ้นอยู่ตามฤดูกาล ช่วงเวลาของสตรอเบอร์รี่ก็จะอยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม ถึง พฤษภาคม
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) และ บลูเบอร์รี่เดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคมค่ะ
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) แถมที่นี่จะมีป้ายต้อนรับเป็นภาษาไทยด้วย ที่นี่เราสามารถเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ ทานได้กว่า 20 ชนิด และยังทานได้แบบไม่อั้นภายใน 30 นาที ไม่ว่าจะทานสดๆ ก็หวาน จะจิ้มนมข้นหรือช็อกโกแลตก็อร่อยขึ้นไปอีก
ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) ดรากอนฟาร์ม (Dragon Farm) ราคาเข้าใช้บริการอยู่ที่ 2000 เยน (อายุ 6 ปีขึ้นไป) / 1500 เยน (อายุ 4 ปีขึ้นไป) / 500 เยน (อายุ 2-3 ปี) เปิดเวลา 9.00-15.30 น. การเดินทาง นั่ง Chiba Monorail ลงรถสถานี Chishirodai Kita ต่อด้วยนั่งสาย Chiba City Monorail แล้วเดินต่อ 20 นาที หรือนั่งแท๊กซี่ต่อประมาณ 10 นาที
จากนั้นสถานีต่อไปที่จะเดินทางไปก็ คือ ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri) เป็นภูเขาสูง 330 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) ฝั่งเดียวกับอ่าวโตเกียว
ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri) ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri) ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri) ซึ่งการเดินทางขึ้นไปบนภูเขาโดยขึ้นกระเช้า (Rope way) เปิดตั้งแต่ 9.00น.- 17.00น. ราคาเที่ยวเดียวผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน และราคาไปกลับผู้ใหญ่ 950 เยน เด็ก 450 เยน
ภูเขาโนะโคะกิริ (Mt.Nokogiri) เมื่อขึ้นมาถึงข้างบนบริเวณ จิโกะคุ โนะโซะคิ (Chigoku Nozoki) สามารถยืนอยู่ที่ปลายโขดหินเพื่อมองลงมาชมทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวโตเกียวและคาบสมุทรโบโซได้ค่ะ นอกจากนี้บริเวณยอดเขายังมี วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple)
วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple) วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหินที่นับว่าสูงที่สุดในญี่ปุ่น
วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple) ที่นี่มีเครื่องพระโพธิสัตว์เล็กๆ จำหน่าย และให้ผู้อธิฐานเขียนชื่อตัวเองลงไปในพระโพธิสัตว์แล้วอธิฐาน คำอธิฐานนั้นจะเป็นจริง แล้วยังซื้อเครื่องรางกลับไปบูชาได้นะคะ การเดินทาง จากสถานีชิบะ นั่ง JR ไปลงที่สถานี Hamakanaya เดินอีกก็จะเจอกระเช้า
วัดนิฮงจิ (Nihon-ji Temple) หลังจากลงจากภูเขาแล้วเดินทางไปต่อที่ Mother Farm เป็นฟาร์มที่มีดอกไม้สวยๆ อยู่บนเนินเขาทำให้มีลมพัดเย็นสบาย ดอกไม้ที่นี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
Mother Farm เMother Farm เเมื่อเดินมาประตูทางเข้าจะเจอกับสัตว์น่ารักต่างๆ มาอวดโฉม เหมาะสำหรับคนที่รักสัตว์ และชอบดอกไม้อย่างมาก
Mother Farm เที่นี่มีพื้นที่กว้างมากทำให้บรรยากาศคล้ายกับสวนสนุก แถมยังรวบรวมหลากหลายกิจกรรม เช่น โชว์สุนัขต้อนแกะ ให้อาหารแกะ เดินชมวิว 360 องศา ใกล้ชิดกับหนูตัวใหญ่ที่สุดในโลก
Mother Farm เMother Farm เและลิ้มรสไอศครีมที่ลองทำด้วยตัวเอง ปิดท้ายด้วยร้านอาหารให้เลือกสรรทั้งร้านจำหน่ายของที่ระลึกมากมายให้ซื้อฝากค่ะ
Mother Farm เการเดินทาง จากสถานีชิบะ นั่ง Jr Uchibo line มาลงสถานี Kimitsu จากนั้นขึ้นรถบัสได้ที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 1 ทางออก South exit ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที ค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็กประถมศึกษา 350 เยน โดยรถบัสจะไปจอดที่หน้าประตู Makiba เข้าฟาร์มได้เลยค่ะ
หลังจากที่เที่ยวมาทั้งวันหากใครที่ยังพอมีเวลาเหลือแนะนำให้แวะไปช็อปปิ้ง Mitsui Outlet Park Kisarazu กันก่อนที่จะไปโตเกียว
Mitsui Outlet Park Kisarazu Mitsui Outlet Park Kisarazu ซึ่งเป็น Outlet ขนาดใหญ่ ที่มีเสื้อผ้าแฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ร้านอาหาร ร้านแบรนด์เนมครบครันให้เดินเพลินๆ และละลายทรัพย์กันแบบสบายใจค่ะ
Mitsui Outlet Park Kisarazu Mitsui Outlet Park Kisarazu Mitsui Outlet Park Kisarazu Mitsui Outlet Park Kisarazu การเดินทางนั่งรถไฟมาลงสถานีรถไฟ JR Sodegaura Station ต่อรถบัสท้องถิ่นได้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หรือจาก Tokyo Station, Shinagawa Station, Kawasaki Station และ Shinjuku Station นั่งรถบัสมาลงห้าง Mitsui Outlet Park Kisarazu ตรงได้เลย
นับว่าเป็นทริปที่เที่ยวได้ครบไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือเมืองโบราณ แล้วที่สำคัญเดินทางไม่ไกลจากโตเกียวอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่เบื่อการเที่ยวเมืองหลวงแต่มีเวลาไม่เยอะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลองแวะมาสัมผัสนะคะ 📌 เพื่อนๆ สามารถสอบถามราคาพาสต่างๆ ได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.,Ltd. ) ☎ โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988
ID LINE : @japanallpass หรือช่องทาง Inbox >> 📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass 💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN หรือ [email protected]