เมืองนิกโก้ (Nikko) หรือที่เรียกว่า NIKKO is NIPPON แปลเป็นไทยว่า “เมืองนิกโก้ คือ ประเทศญี่ปุ่น” เป็นเมืองมรดกโลกที่มีที่เที่ยวแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนมรดกโลกที่เต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ต่างๆ ส่วนโซนธรรมชาติก็จะเป็นทะเลสาบ น้ำตกต่างๆ เมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิงิ ทางตอนเหนือของโตเกียว ห่างไปประมาณ 140 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับทริปนี้สามารถใช้บัตร NIKKO PASS world heritage area (2วัน1คืน) ในการเดินทางได้ หรือสำหรับใครที่มีเวลา 1 วันก็สามารถใช้เที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับก็ได้จ้า
มาเริ่มกันเลย วันแรกตอนเช้านั่งรถไฟจากอาซะกุสะไปที่คินุกะวะออนเซน นั่งรถไฟสายโทบุสกายทรีไลน์/รถไฟสายคินุกะวะ(รถไฟด่วนพิเศษสเปเชีย) ใช้เวลาประมาณ 120 นาที มาลงที่สถานีคินุกะวะออนเซ็น เมื่อถึงสถานที่แรกที่จะไปเที่ยวคือ โทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square)

CR:JNTO
สวนสนุกที่จำลองสิ่งก่อสร้างที่เป็นมรดกโลก และสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงในโลกมารวมตัวไว้ในที่เดียว ให้มีสัดส่วนขนาด 1 ต่อ 25 ภายในสวนสนุกมีการจำลองสถานที่สำคัญ 45 สถานที่และอาคารที่มีชื่อเสียงกว่า 102 แห่งจาก 21 ประเทศทั่วโลก ทำให้ไปเที่ยวที่เดียวเหมือนกับได้เดินทางไปทั่วโลกเลย แถมภายในยังมีโรงภาพยนต์ไว้แสดงประวัติศาสตร์ต่างๆ มีสวนดอกไม้ชะกุนะเงะ มีห้องละมาดสำหรับชาวมุสลิม จากที่เดินทางเที่ยวชมในสวนสนุกจะเพลินและหิวยังแวะไปโทบุ เวิลด์ สแควร์ เรสเตอรองท์ สฟิงซ์ ที่มีเมนูน้ำแข็งไสที่ทำด้วยน้ำแข็งจากน้ำธรรมชาติ และน้ำเชื่อมที่ทำจากผลไม้ที่ปลูกในจังหวัดโทจิกิอีกด้วย

CR:JNTO

CR:JNTO
เวลาเปิดบริการช่วงฤดูร้อน (20 มีนาคม- 30 พฤศจิกายน) 9.00 น. – 17.00 น.,ช่วงฤดูหนาว (1 ธันวาคม – 19 มีนาคม) 9.00 น. – 16.00 น.
การเดินทางนั่งรถบัสจากนั่งรถบัส 5 นาทีจากสถานีคินุงาวะออนเซ็น ลงสถานีโทบุ เวิลด์ สแควร์ ได้เลยค่ะ

สถานที่ต่อไปที่จะเที่ยว คือ เอโดะ วันเดอร์แลนด์ (EDO WONDERLAND) หรือ นิกโกเอโดะมุระ


เป็นสวนสนุกสไตล์ย้อนยุคไปสู่ยุคสมัยเอโดะ ที่นี่มีกิจกรรมได้ร่วมสนุกมากมายให้ทำได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ เช่น การเช่าชุดกิโมโนใส่เดินเล่นภายในหมู่บ้านตลอดวัน หรือเช่าชุดอื่นๆ แต่งตัวแบบย้อยยุค เช่น นินจา ซามูไร เจ้าเมือง ชุดเกราะ เป็นต้น หรือจะนั่งเรือชมบรรยากาศริมน้ำชิลๆ สองฝั่ง รวมไปถึงสัมผัสอาคารบ้านเรือนย้อนยุค อาหารการกิน วิถีชีวิตคนสมัยเอโดะ และที่สำคัญมีการแสดงต่างๆ มากมาย เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง ร้านย้อมผ้า การยิงธนู ปาดาวกระจาย มีพิพิธภัณฑ์ โรงละครนินจา โรงละครศิลปะประเพณีวัฒนธรรมสมัยเอโดะ น่ามาเที่ยวมากเลยล่ะค่ะ


เวลาเปิดบริการระหว่างเวลา 9.00น. – 17.00 น. ตลอดทั้งปี ช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงมีนาคมเปิดเวลา 9.30 น. ถึง 16.00 น.
การเดินทาง จากสถานีคินุกะวะออนเซ็น สามารถนั่งรถประจำทาง 15 นาที หรือจะนั่งแท็กซี่มาก็ได้เพียง 10 นาทีค่ะ
หลังจากเที่ยวทั้ง 2 ที่จนหมดวันจากนั้นก็เข้าที่พักจ้า เพื่อเตรียมร่างกายเที่ยวต่อในวันที่ 2 กันค่ะ
เช้าวันที่ 2 เริ่มด้วยการเที่ยวที่ วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) นับเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในนิกโก้ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก อาคารหลักของวัด คือ ซันบุตสึโดะ(Sanbutsudo) บ้านหลังใหญ่เคลือบทอง ภายในเป็นรูปปั้นของเทพเจ้าในศาสนาพุทธสามองค์ ส่วนด้านหน้าของ ซันบุตสึโดะ(Sanbutsudo) มีต้นดอกซากุระอายุกว่า500ปี นอกจากนี้ตรงข้ามของวัดจะมีสวนโชโยเอน (Shoyo-en) ที่งดงามในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีให้ได้ชมและถ่ายรูปแบบเมมเต็มกันไปเลย เวลาเปิดบริการเวลา 8:00น. -17:00น. ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ปิด 16:00น. การเดินทางนั่งรถบัส จาก Tobu หรือ JR Nikko Station มาลงที่วัดได้เลยค่ะ เดินต่อจากวัดรินโนจิ มาประมาณ 5 นาที จะเจอกับ ศาลเจ้านิกโก้โทโชงู ( Toshogu Shrine)


ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกที่หนึ่งในเมืองนิกโก้ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพแห่งแสงสว่าง ยังเป็นที่พำนักอาศัยที่สุดท้ายของ โชกุน Tokugawa Ieyasu ทำให้เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และสำคัญอีกที่หนึ่งค่ะ บริเวณตัวอาคารมีการเคลือบเงาสีที่งดงามและเสาจะเน้นการแกะสลัก ภาพแกะสลักที่เป็นจุดเด่น คือ ลิงที่เฉลียวฉลาดอยู่3ตัวที่(ปิดหู ปิดปาก ปิดตา) แมวที่กำลังนอนหลับตรงข้ามกับนกกระจอก ที่มาถึงแล้วต้องห้ามพลาดที่จะมีชื่นชม แล้วศาลเจ้านี้สร้างอยู่บนเขาทำให้บรรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เรียงรายและหนาแน่น ทำให้รู้สึกถึงความเงียบสงบมาก


เวลาเปิดบริการเวลา 8:00น. – 17:00 น. ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา8:00น. – 16:00 น. การเดินทางจาก Tobu หรือ JR Nikko Stations นั่งรถบัสประมาณ 10 นาที ลงที่ศาลเจ้าค่ะ
และบริเวณข้างๆ โทริอิหินของศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ มีถนนที่มีโคมไฟหินเรียงรายกันอยู่เป็นแนว นั่นคือทางเดินไปยังศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซังที่เดินต่อมาประมาณ 5-10 นาที ก็จะถึง ศาลเจ้านิกโก้(Futarasan Shrine) เป็นศาลเจ้าที่ดังในเรื่องความรักนะทุกคน แถมยังเป็นมรดกโลกอีกที่หนึ่ง ที่ศาลเจ้าจะมีแผ่นไม้ที่มีสัญลักษณ์หัวใจสีชมพูไว้ให้ในการอธิษฐานให้สมหวังด้านความรัก และมีเซียมซีความรักรูปตุ๊กตาหลังจากอ่านใบเซียมซีแล้วก็ตุ๊กตากลับบ้านเป็นที่ระลึกได้น่ารักไปอีกแบบค่ะ นอกจากนี้ยังมี น้ำพุฟุราตะที่มีน้ำพุสามชนิดได้แก่ น้ำแห่งปัญญา, น้ำแห่งความเยาว์,น้ำพุสาเก เชื่อกันว่าถ้าดื่มน้ำพุที่นี่แล้วจะสวยขึ้น บอกเลยว่าอยากสวย อยากมีดวงเรื่องความรักต้องไม่พลาดที่ศาลเจ้านี้จ้า เวลาเปิดบริการเวลา 8:00น. – 17:00 น. ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา8:00น. – 16:00 น. การเดินทาง นั่งรถบัสหน้าสถานีรถไฟเจอาร์นิกโก้หรือสถานีรถไฟโทบุนิกโก้ไปลงป้าย Nishi-sando ถึงวัดเลย
ที่สุดท้าย ไม่ไกลจากศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซัง จะเป็นไฮไลท์เด็ดเลยคือ สะพานชินเคียว(Shinkyo Bridge) หรือ สะพานศักดิ์สิทธิ์


เป็นสะพานโค้งสีแดงสวยงามทำจากไม้ที่เคลือบด้วยยางไม้ (สีแดง) เหนือแม่น้ำไดยากาวะ ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโก้ เป็นของศาลเจ้านิกโก้ฟุตะระซัง (Futarasan Shrine) เป็น 1 ใน 3 ของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ถ้าได้ยืนตรงกลางสะพานแล้วถ่ายรูปจะออกมางดงามมาก ยิ่งตอนช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะเห็นใบไม้สีส้มแสดแดงสวยเหมือนภาพวาดเลยค่ะ


เวลาเปิดบริการเวลา 8:00น. – 17:00 น. ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 9:00น. – 16:00 น. การเดินทางจากสถานี JR Nikko หรือสถานี Tobu Nikko นั่งรถบัสไปลงที่ Shinkyo bus ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ
จากนั้นก็นั่งรถไฟกับสถานีอาซากุสะ ที่โตเกียวโดยสวัสดิภาพ ถือว่าจบทริปนิกโก้ 2 วัน 1 คืน อย่างสมบูรณ์จ้า ใครที่อยู่โตเกียวแล้วเบื่อลองเดินทางมาเที่ยวชมธรรมชาติและวัฒนธรรมต่างๆ ของญี่ปุ่นได้ที่นิกโก้เมืองมรดกได้นะคะ
>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )
โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9393 / 08-2828-9494 / 08-2828-9988
ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ info@japanallpass.com