สะพานแขวนยูเมะ โนะ สึริบาชิ (Yume no Tsuribashi)

สะพานแขวนยูเมะ โนะ สึริบาชิ (Yume no Tsuribashi) อยากหยุดเวลาไว้ให้เหมือนอยู่ในความฝัน ด้วยการเอาตัวเองมายืนอยู่กลางสะพานแขวน ยูเมะ โนะ สึริบาชิ สะพานแขวนนี้อยู่เหนือผืนน้ำสีเขียวมรกต ในชิซุโอกะ

The suspension bridge of the dream of The Shimmata Gorge

สะพานแขวน ยูเมะ โนะ สึริบาชิ ในเมืองคาวาเนะฮนโจ (Kawanehoncho) จังหวัดชิชุโอกะ (Shizuoka) ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและออนเซ็น แถมยังมีรถจักรไอน้ำวิ่งผ่านด้วย นับเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากจึงติด 1 ใน 10 อันดับของโลก ที่เป็นสะพานแขวนคนเดินที่น่าไปเยือนสักครั้ง และยังเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนตั้งใจไปอธิฐานขอพรในเรื่องของความรักแล้วจะสมหวัง แต่ ต้องยืนกลางสะพานนะจ๊ะอย่าเพิ่งรีบเดินไป สะพานนี้มีความยาว 90 เมตร สูง 8 เมตร และเพื่อความปลอดภัย จำกัดคนขึ้นสะพานครั้งละ 10 คนเท่านั้น

Suspension bridge at Sumatakyo Canyon, Shizuoka Pref., Japan

หากใครตั้งใจจะไปสะพานนี้บอกเลยว่าฟิตร่างกายหน่อยจะดีมาก เพราะหนทางเดินอย่างน้อยๆก็ 1.4 กม. ทั้งทางเดินลาดปูนเดินสบายๆแต่ก็มีบันไดหลายขั้นกว่าจะถึงสะพานและมีทางชันที่ต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึง แต่ทางที่บอกว่าลาดปูนนั้น เป็นเนินขึ้นเขานะจ๊ะถ้าฟิตร่างมาก็จะไม่เหนื่อยมากระหว่างทางมีป้ายบอกทางตลอด และถ้ามาในช่วงเดือนตุลาคมใบไม้จะเปลี่ยนสีเพิ่มบรรยากาศให้เพลิดเพลินในการเดินลุยป่า

Suspension bridge at Sumatakyo Canyon, Shizuoka Pref., Japan

มาถึงตัวสะพาน เป็นสะพานไม้ขึงด้วยเหล็กเส้นเท่านั้น จึงทำให้รับน้ำหนักไม่ไม่เกิน 10 คน (ดูขนาดตัวเพื่อนด้วยนะคะ) หากข้ามสะพานไปแล้วสามารถเดินป่าต่อได้อีก 2-3 กิโลเมตรแล้วอ้อมกลับมา หรืออยากจะเดินกลับทางเก่าเลยก็ได้ค่ะ

ตามเส้นทางเดินจะไม่มีการติดตั้งโคมไฟเพื่อรักษาภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ ดังนั้นถนนและเส้นทางเดินป่าจะปิดหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ช่วงใกล้ค่ำไม่ควรเข้าไปนะคะ

Bridge of dreams

การเดินทางให้เริ่มต้นที่สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีรถไฟเซ็นซุ (Senzu Station) ขึ้นรถบัสจากป้ายหน้าสถานีไปลงที่ป้ายสุดท้าย “ป้ายซูมาตะเคียวออนเซ็น (Sumatakyo Onsen)” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 30 นาทีก็จะถึงสะพานแขวนยูเมะโนะสึริบาชิค่ะ

Jr Pass พาเที่ยวชิล ที่คิวชูเหนือ ด้วย Jr Kyushu North Pass ตอน 2

ความเดิมจากตอนที่แล้วเพื่อนๆ ที่มี Jr Kyushu North Pass หรือ Japan Rail Pass แอดมินที่ได้แนะนำที่เที่ยวเมืองฟุกุโอกะ แต่วันนี้จะมาแนะนำแลนด์มาร์ก อีกแห่งที่เมืองนางาซากิ (Nagasaki) เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าไปเยือนในญี่ปุ่นค่ะ โดยมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างยุโรปและจีนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และยังเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์สวยงาม อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงจากแหล่งวัตถุดิบคุณภาพ สามารถเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิวมากมาย แถมกิจกรรมบันเทิงหลากหลายที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยอีกมากมายเลยค่ะ

Huis Ten Bosch (สวนสนุกเฮาเทนบอช) หรือที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบเรียกว่าหมู่บ้านฮอลแลนด์ ที่เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นมาตามสถาปัตยกรรมแบบเมืองแถบยุโรป

IMG_5048

โดยจะมี คลอง ท่าน้ำ อาคารต่างๆ กังหันลม และยังมีสวนดอกไม้ที่ปลูกดอกไม้ต่างๆสลับปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น ฤดูใบไม้ผลิจะมีเทศกาลดอกทิวลิป

IMG_5172
ความสวยงามในมุมสูง ที่ปรากฏอาคารเรียงรายอย่างมีระเบียบมากๆ ค่ะ

IMG_5037
บรรยากาศของท่าเรือ

IMG_9744
ล่องเรือชมบรรยากาศโดยรอบ ในวิวแบบ 360 องศา อากาศโปร่ง สบาย

IMG_9767
สวนดอกไม้หลากสีสัน โดยมีกังหันลม เป็นฉากหลัง ซึ่งถึงว่าเป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ค่ะ

และยังมีโรงแรม ร้านอาหารภายในสวนสนุกและรอบๆสวนสนุก แถมยังมีกิจกรรมต่างๆอีกมากมายเลยจ้า

IMG_5078
โรงแรม พร้อมบรรยากาศทะเลสาบโดยรอบ

IMG_5079IMG_5105IMG_5019IMG_5011

สวนสนุกแห่งนี้ เพื่อนๆ สามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปีค่ะ แต่ถ้าอยากดูดอกทิวลิปสวยๆ ต้องมาช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรืออยากจะดูเทศกาลดอกไม้ไฟ จะเป็นช่วงหน้าร้อน

การเดินทางมาที่ Huis Ten Bosch ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่มี JR Pass ก็สามารถนั่งรถไฟสาย JR Limited Express มาลงที่สถานี Huis Ten Bosch ค่ะ

ยังไม่จบ สำหรับเพื่อนๆ ที่ถือ JR RAIL PASS หรือ JR Kyushu North จะสามารถเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ติดตามได้ต่อในตอนหน้าค่ะ

ติดตามอ่าน “เจอาร์พาสพาเที่ยวชิล ที่คิวชูเหนือ ด้วย JR KYUSHU NORTH ตอนแรก

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

ชิมของอร่อยถูกใจ แห่งแดนอาทิตย์อุทัย

การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากการสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ตื่นตาตื่นใจ ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่เป็นธรรมชาติ คงจะต้องนึกถึงอาหารการกิน ที่นอกจากรสชาติที่อร่อยเกือบทุกอย่างแล้ว ยังเต็มไปด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใส่ความเป็นจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ลงไปในแต่ละเมนูด้วย
เพื่อนๆ ที่มีแผนท่องเที่ยว ลองดูเมนูเด็ดๆ เพื่อตามรอยพวกเราไปอร่อยกันเลยดีมั้ยครับ

หอยเชลล์ย่าง เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ (Sendai, Miyagi)
ถ้าพูดถึงของอร่อยเมืองเซนไดก็ต้องนึกถึงอาหารทะเล ที่ส่งตรงจากแหล่งที่จับมาใหม่ๆ มีความสดมาก ได้แก่ หอยเชลล์ย่างหอมๆ น่าทานที่ร้าน Kakigoya Tobiume Sendai Ekimaeten ขอบอกว่าหอยตัวใหญ่ขนาดเกือบเท่าฝ่ามือเลยทีเดียว ได้น้ำจิ้มเด็ดๆ พร้อมเครื่องดื่มคู่ใจ อร่อยลืมเวลาเลยทีเดียว
ข้อมูลเพิ่มเติมของร้าน http://www.sendai-oishi.jp/th/course/kaki.html

011

012

ขนมยากิมันจู เมืองมินากามิ จังหวัดกุนมะ (Minakami, Gunma)
เป็นขนมพื้นเมืองของกุนมะ ที่เป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยความนุ่มเหนียวและรสชาติเข้มข้นหอมอร่อย ทำให้ผู้ที่เคยทานจะต้องติดใจ และหาโอกาสที่จะไปซื้อทานอีก ซึ่งโดยปกติ ขนมชนิดนี้จะมีหลายรส เช่น รสดั้งเดิม, รสสาเก, รสออนเซ็น, ยกเว้น ยากิมันจู สีเขียว ที่จะมีจำหน่ายเฉพาะครึ่งปีแรกเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นยากิมันจูที่อร่อยที่สุด และขายดีที่สุด โดยทำจากใบไม้ที่เรียกว่า “ใบโยโมกิ” ราคาลูกละประมาณ 115 เยน

อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ต้องลองไปทานครับ เพื่อนๆ สามารถเดินทางโดยรถไฟ JR ถ้าเดินทางจากสถานีโตเกียว เพียง 3 ชั่วโมงเศษ ลงสถานี Jomo-Kogen ครับ

021 022

บูตะตง ที่ร้านบูตะตงเมจิน สนามบินนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด (New Chitose Airport)
ข้าวหน้าหมูที่เราเคยทานๆ กัน ขอให้ลืมไปได้เลย ถ้าพูดถึง ร้านนี้ บูตะตงเมจิน ในสนามบินนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด ซึ่งเมนูข้าวหน้าหมูของทางร้าน จะนำเนื้อหมูชิ้นใหญ่ๆ นุ่มๆ มาทอดกับซอสสูตรพิเศษ ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ
แต่ด้วยส่วนผสมของเมนู ที่หลากหลาย เพื่อนๆ สามารถเลือกสั่งทานได้ไม่เบื่อเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้งเมนูชีส หรือไข่ออนเซนทามาโกะ ถ้าได้ลองทานแล้ว คงอดไม่ได้ที่อยากจะกลับไปทานอีกครั้งแน่นอน

041 043

042

LeTAO โอตารุ (Otaru)
ร้านเบเกอรี่ชื่อดังแห่งโอตารุ LeTAO ที่มีเมนูเค้กอร่อยๆ ให้เลือกมากกว่า 50 ชนิด ทำสดใหม่ทุกวัน โดยเค้กที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ Double Fromage ซึ่งเป็นชีสเค้กแบบพิเศษ เนื้อนุ่มละมุน นอกจากนี้ ยังมี ไอศกรีม, เครื่องดื่มที่ทานคู่กับเค้ก อร่อยแบบลืมอ้วนกันไปเลยครับ

032 033 034

Nanda Buffet ซับโปโร (Sapporo)
Nanda ร้านบุฟเฟ่ต์ขาปูย่าน Susukino ไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ก็คือ ปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ที่เนื้อสดและหวานมากๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูสดๆ อีกมากมาย ทั้งหอยเชลล์ หอยนางรม กุ้ง ปลาหมึก ปลา ซาซิมิ เพื่อนๆ ที่วางแผนจะไปเที่ยว Sapporo อย่าพลาดร้านนี้ครับ แอดมินขอบอก คอบุฟเฟ่ต์ขาปูทั้งหลายเลยว่า ไม่ควรพลาด
การเดินทางมาที่ร้าน Nanda ตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน (B2) ที่ตึก Cyber City เวลาในการทานมีให้เลือกระหว่าง 90 นาที 3,980 เยน หรือ 120 นาที 4,980 เยน

051

054 052

054

ของอร่อยในประเทศญี่ปุ่น ยังมีอีกนับไม่ถ้วน รอให้เราไปลิ้มลอง ไม่ว่าไปกี่ครั้ง เราสามารถลิ้มลองเมนูใหม่ๆ ได้ตลอด ที่ขาดไม่ได้ การวางแผนเดินทางท่องเที่ยวแบบประหยัด และสะดวก สบาย ช่วยให้เราเที่ยวได้จุใจมากยิ่งขึ้น
ปรึกษา Japan All Pass จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของเพื่อน สะดวก ประหยัดทั้งงบและเวลา ติดต่อเราได้เลยครับ

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

พาโบล (PABLO) สุดยอด Cheese tart ร้านดังจากโอซาก้า

ร้านพาโบล (PABLO) สุดยอด Cheese tart ร้านดังจากโอซาก้า ที่เรียกได้ว่าสาวกชีสทั้งหลายมาเยือนถิ่นโอซาก้าแล้วเป็นต้องลอง… เพื่อนๆ คอชีสน้อยคนนัก ที่จะไม่รู้จักกับร้านพาโบล (PABLO) เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยของชีสทาร์ตที่ทะลักล้นจริงๆ ดูการต่อแถวก็อึ้งแล้ว จะยาวไปไหนกันคร้าบพี่น้องงงง

01

ในแต่ละวันมีคนมาต่อคิวตามกลิ่นหอมๆ ของชีสทาร์ตสุดอร่อยกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสาขา Dontonburi ที่เราพาไปชิมชีสทาร์ตวันนี้ ถือเป็นย่านช้อปปิ้งของคนทุกเพศทุกวัย แอบเห็นคนยืนต่อคิวแล้วตกกะใจว๊ายกรี๊ด!! นี่เขาแจกชีสทาร์ตฟรีหรืออย่างไร แถวถึงยาวมากมายขนาดนี้ ร้านพาโบล (PABLO) ขึ้นชื่อเรื่องชีสสุดพิเศษแบบละลายในปาก เนื้อเค้กนุ่ม ละมุนลิ้น ขอบกรอบ ห๊อมหอม สามารถเลือกได้ว่าจะให้อบเป็นแบบ Rare หรือ Medium ใครอยากชิมแบบเยิ้มๆ ล้นทะลัก ก็เลือกอบแบบ Rare นะคะ ฟินน่าดูเชียวค่ะ

02

เนื่องจากอบสดใหม่ทุกวัน เวลาซื้อแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 3 วันเลยค่ะ ราคาชิ้นละ 780 เยน สำหรับใครที่มาเที่ยวและช้อปปิ้งแถวย่าน Dontonburi แวะถ่ายรูปกับป้ายไฟกูลิโกะแมน เสร็จแล้วก็สามารถเดินตรงไป โดยให้ป้ายไฟอยู่ด้านหลัง ลงสะพานแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอกับร้านพาโบล (PABLO) ค่ะ

03

ที่สำคัญ อย่าลืมชิมซอฟท์ครีมนุ่มๆ รสชีสเข้มข้นกันด้วย แอดมินบอกเลยว่าอร่อยดีงาม ต่อให้อากาศจะหนาวเย็นแค่ไหน คนก็มายืนต่อคิวซื้อกันยาวเหมือนเดิม ราคาโคนละ 350 เยน ชีสเน้นๆ หอมอร่อยมาก ส่วนสาขาที่ไปชิมซอฟท์ครีมในภาพนี้ คือ สาขา Namba ค่ะ

04

05

06

07

ร้านพาโบล (PABLO) ถือเป็นสุดยอดชีสที่เข้มข้น และเป็นร้านดังของโอซาก้า (Osaka) ที่มากี่ครั้งก็ต้องแวะ ด้วยรสชาติหอมอร่อย ทำให้ปัจจุบันร้านพาโบล PABLO ในโอซาก้า มีทั้งหมด 5 สาขา คือ

  • Umeda
  • Dotombori
  • Shinsaibashi
  • Namba City
  • สถานี JR Osaka

นอกจากนั้น ร้านพาโบล (PABLO) ยังมีขนมและคุกกี้ ที่เหมาะซื้อไปเป็นของฝากอีกมากมาย บรรดาคอชีสทั้งหลาย ใครที่ไปเที่ยวโอซาก้าอย่าลืมแวะตามรอยไปชิมกันนะคะ

เพื่อนๆ ที่ถือ JR West Kansai Area Pass / Kansai Thru Pass หรือ Osaka Amazing Pass ผ่านสาขาไหน ก็แวะไปชิมความอร่อยกันได้เลยค่ะ

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

Jr Pass พาเที่ยวชิล ที่คิวชูเหนือ ด้วย JR Kyushu North

สำหรับเพื่อนๆ ที่จะบินตรงจากกรุงเทพไปลงฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport) และมีตั๋ว JR North Kyushu อยู่ในมือแล้ว แต่ยังวางแผนเที่ยวไม่ลงตัว ไม่รู้ว่าจะเที่ยวอะไรในตัวเมืองฟุกุโอกะ และจะไปเที่ยวเมืองอะไรรอบๆได้บ้าง วันนี้แอดมินจะมาแนะนำให้เพื่อนๆเองค่ะ

เมืองแรกที่จะแนะนำคือ ฟุกุโอกะ (Fukuoka) โดยจะมีสถานี JR Hakata City เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเมือง มีทั้งสถานีรถไฟ JR, สถานีรถชินคันเซน (Shinkansen), สถานีรถใต้ดิน (Subway), ท่ารถบัส (Bus), ห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งอีกมากเลยนะคะ สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจแห่งแรกที่อยากแนะนำคือ Fukuoka Tower เป็น ตึกริมทะเลสูงที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ การเดินทางจากสถานี Hakata จากนั้นนั่งรถบัสจาก Hakata Transport Center ป้ายหมายเลข 5

ขอขอบคุณภาพจาก www.fukuokatower.co.jp

ขอขอบคุณภาพจาก www.yokanavi.com

fu tower1
ขอขอบคุณภาพจาก www.yokanavi.com

ศาลเจ้าดาไซฟุ (Dazaifu) เป็นวัดศาลเจ้าที่เก่าแก่และสำคัญ จะขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรให้ประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาค่ะ การเดินทางจากสถานีรถไฟใต้ดิน Hakata จากนั้นซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินสาย Fukuoka City Subway Kuko Line ไปลงสถานี Tenjin จากนั้นเดินประมาณ 15 นาทีต่อไปยังสถานีรถไฟ Nishitetsufukuoka เพื่อนั่งรถไฟสาย Nishitetsu Tenjin-Omuta ไปลงสถานี Nishitetsufutsukaichi จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu ไปลงสถานี Dazaifu ค่ะ

IMG_0075 IMG_0071

เกาะโนะโคะโนะชิมะ (Nokonoshima Island Park) เป็นสถานที่ ขึ้นชื่อในเรื่องของการชมดอกไม้ สำหรับดอกไม้ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกมัสตาร์ด ซากุระ คอสมอส หรือแดฟโฟดิล เพื่อนๆสามารถเพลิดเพลินท่ามกลางธรรมชาติ และยังชมวิวทะเลจากบนเกาะได้อีกด้วยค่ะ การเดินทางจากสถานี Hakata ไปท่าเรือ Meinohama สามารถเดินทางโดยนั่งรถบัสที่หน้าสถานี Hagata ขึ้นสายที่ Toshi Kosoku Keiyu 「Nokotosenjo」สายนี้จะขึ้นทางด่วนไปลงสุดสายเลยจ้า จากนั้นต้องซื้อตั๋วเรือที่่ท่าเรือ Meinohama เดินทางไปที่ ท่าเรือ Nokonoshima แล้วจากท่าเรือ Nokonoshima เดินทางไปที่ Island Park ได้เลยจ้า~~

IMG_6377 IMG_6419

Uminonakamichi Seaside Park แหล่งพักผ่อนที่รวมทั้งสวนสนุกและสวนสัตว์เอาไว้ด้วยกัน แล้วเป็นแหล่งชมดอกซากุระที่มีต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ เพียงแค่นั่งรถไฟ JR ลงที่สถานี Uminonakamichi หรือนั่งรถบัสแล้วลงที่ป้าย Marine World ค่ะและที่สุดท้ายที่จะแนะนำในเมืองฟุกุโอกะเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดัง Canal City เป็นห้างที่เป็นจุดศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมน้ำโดยภายในมีการขุดคลองให้น้ำไหลผ่านใจกลางห้างแห่งนี้ด้วยด้วยนะจ๊ะ การเดินทางมาที่ห้างนี้ช่างง่ายจริงๆ เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Hakata โดยการเดินประมาณ 15 นาทีเท่านั้นเองจ้ะ

canal1

canal2

และนี้อาจเป็นทางเลือกของเพื่อนๆที่บินไปลงฟุกุโอกะแต่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี คงจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ ส่วนเมืองต่อไปที่จะแนะนำในเกาะคิวชูตอนเหนือเป็นเมืองอะไรนั้นรอติดตามในตอนหน้า

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจสั่งซื้อ JR Kyushu Area Pass

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

Narita Airport Shuttle Bus

ว่ากันว่าของฟรี…ไม่ได้มีในโลกใบนี้ ไม่จริ๊ง…ไม่จริง วันนี้เรามารู้จักบริการดีๆแบบฟรีๆ กันที่ประเทศญี่ปุ่นกันครับ ของฟรีที่ว่านี้มีให้บริการที่สนามบินนานาชาติทุกแห่งในประเทศญี่ปุ่นครับ สนามบินที่จะมาแนะนำในวันนี้คือ สนามบินสุดฮอตฮิตของคนไทยนั่นก็คือ สนามบินนานาชาตินาริตะครับ

01
Narita Airport

บริการดีๆฟรีๆที่ว่านี้ก็คือ Narita Airport Shuttle Bus ครับ ที่สนามบินบินนาริตะหลังจากที่เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง, รับกระเป๋าสัมภาระ และ ผ่านการตรวจจากศุลกากรเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องเดินทางออกมาที่ Arrival Hall ซึ่งไฟล์บินที่มาจากประเทศไทยส่วนใหญ่จะมาลงที่ TERMINAL 1 ครับ ซึ่งสนามบินนาริตะมีทั้งหมด 3 TERMINAL แบ่งเป็น TERMINAL 1-2 จะเป็นอาคารให้บริการสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศครับ และ TERMINAL 3 จะให้บริการสำหรับการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นครับ สำหรับที่ตั้งของแต่ละ TERMINAL ภายในสนามบิน อาคารแรกถ้าเรามองแผนที่และมองจากประตูทางรถเข้าของสนามบินนาริตะจะเป็น TERMINAL 3 และติดกันจะเป็น TERMINAL 2 ครับ ซึ่ง 2 อาคารนี้จะมีทางเดินให้บริการระหว่างอาคารด้วยครับ สำหรับผู้โดยสารที่อยากเดินชิวๆก็ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีครับ ทางเดินระหว่าง HALL จะเป็นคล้ายๆกับลู่วิ่งในสนามกีฬา ซึ่งแนวความคิดนี้ได้จากการที่ประเทศญี่ปุ่นได้ขอเป็นตัวแทนการจัดกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อนครับ ส่วน TERMINAL 3 จะอยู่ด้านในสุดของสนามบินนาริตะครับ จะอยู่ห่างจาก TERMINAL 2 และ 3 มากครับ ซึ่งไม่มีทางเดินระหว่าง TERMINAL ต้องใช้ Shuttle Bus เท่านั้นครับ
02 03
ทางเดินทางระหว่าง TERMINAL 2 และ 3 สนามบินนาริตะ

04

เรามาเริ่มใช้บริการของฟรีกันที่ TERMINAL 1 กันครับ จากรูปแอดมินเดินออกจากประตู Arrival Hall ทางฝั่ง SOUTH WING ของ TERMINAL3 ครับ TERMINAL แต่ละ HALL จะแบ่งเป็นประตูฝั่ง North Wing และ ฝั่ง South Wing หลังจากที่เดินออกจาก HALL ให้สังเกตป้ายสีเหลืองและเสาสีเหลืองครับ ในรูปที่ TERMINAL 1 จุดจอดรถ Shuttle Bus จะอยู่ที่เสาเบอร์ 6 ครับดิ่งตรงไปเลย

05 06

จุดจอดรถ Shuttle Bus จะมีข้อมูลการเดินทางรถ Shuttle Bus ภายในสนามบินและเวลาที่รถจะมาจอดที่จุดนี้ในแต่ละรอบครับ ดูจากตารางเวลา ตัวเลขด้านซ้ายสุดจะเป็นตัวเลขบอกเวลาหลักของชั่วโมง และตัวเลขถัดไปจะเป็นรายละเอียดเวลาย่อยๆของช่วงนาทีครับ อย่างเช่น ช่วงตี5 จะมีทั้งหมด 3 รอบ ก็คือ 05.00, 05.20 และ 05.40 ครับ

07

08

ไม่ต้องกลัวหลงหรือว่าจะขึ้นรถผิดคันนะครับ รถ Shuttle Bus สังเกตง่ายมากๆครับ ตัวรถจะมีสีเหลืองตามรูป และ ด้านหน้ารถและด้านข้างจะมีบอกเลยว่ารถคันนี้จะเดินทางไปที่ TERMINAL ไหนไม่ต้องกลัวขึ้นรถผิดแน่นอนครับ แต่ตอนรอคิวขึ้นรถเราต้องสังเกตแถวที่เราจะต้องไปยืนรอขึ้นหน่อยนะครับ เพราะตามธรรมเนียมการรอคิวแถวแรกสุดจะเป็นที่ยืนสำหรับผู้โดยสารที่มารอรถคันที่จะมาจอดในเที่ยวต่อไป และแถวที่ 2, 3 ก็จะต่อกันไปตามลำดับครับ ให้ดูตารางเวลาจากป้ายให้ดีๆครับว่าจะไปรอบไหน แล้วก็ไปต่อคิวกันได้เลยครับ

09

บนรถ Shuttle Bus จะมีเจ้าหน้าที่ประจำรถอยู่ 2 ท่านครับ ก็จะเจ้าหน้าที่ขับรถและเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย คอยเช็คเรื่องการขับรถของคนขับรวมถึงควบคุมเวลาที่ต้องให้มีความแน่นอนในการให้บริการ ขอบอกเลยว่าการให้บริการของที่นี่ ตรงเวลามากๆ ครับ

10 11

ภายในรถ Shuttle Bus จะมีจุดสำหรับวางกระเป๋าใบใหญ่และที่นั่งให้บริการครับ และสำหรับเพื่อนๆที่ชอบห้อยโหนก็มีให้เลือกกันหลายราวกันเลยทีเดียวครับ ไปเที่ยวญี่ปุ่นอยากให้เพื่อนๆ ทราบว่า สิ่งสำคัญสำหรับคนญี่ปุ่น คือ สิทธิสำหรับคนพิการ รถทุกคันที่ให้บริการสาธารณะไม่ว่าจะเป็น รถบัส รถไฟ หรือ เรือ จะมีที่นั่งเป็นโซนสำหรับผู้พิการเสมอครับ ให้เราสังเกตจากป้ายเตือนบนรถบัสหรือรถไฟได้เลยครับ ว่าโซนนี้หรือที่นั่งจุดนี้เป็นของคนพิการหรือไม่ ถ้าเรานั่งผิดละก็จะเป็นจุดสนใจจากชาวญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว และอีกเรื่องที่ต้องระวังก็คือ เรื่องของการใช้เสียง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย หรือ เสียงจากมือถือ จะต้องใช้เสียงในการคุยเบาๆกันสักหน่อย และ มือถือควรใช้เสียงเตือนแบบสั่นจะเหมาะที่สุดในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นครับ

13 12

จาก TERMINAL 1 เดินทางมาที่ TERMINAL 2 ใช้เวลาเพียง 9 นาที รถ Shuttle Bus ก็จะมาถึงที่จุดจอด TERMINAL 2 ครับ จากรูปจะเป็นเสาเบอร์ 8 ครับ ที่เสาก็จะมีแจ้งเวลาเข้า-ออก ของรถบัสระหว่าง TERMINAL 1 กับ TERMINAL 2 ครับ

14 15

สำหรับเพื่อนๆที่จะเดินทางจาก TERMINAL 2 ไปที่ TERMINAL 3 อย่างที่บอกครับว่ามีอยู่ 2 วิธี คือ 1.เดิน 2.นั่งรถ Shuttle Bus ซึ่งถ้าเดินไปก็จะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีครับ แต่ถ้ารีบหน่อยก็ใช้บริการรถ Shuttle Bus ได้เลยครับ จากหน้า HALL TERMINAL 2 ให้สังเกตป้ายสีเหลืองเช่นกัน แต่จุดขึ้นรถไปที่ TERMINAL 3 จะอยู่ที่เสาเบอร์ 24 ครับ จาก HALL จะต้องเดินข้ามถนนตามสัญญาณไฟเพื่อข้ามไปยังจุดรอรถ Shuttle Bus ครับ

16 17

สุดท้ายเพื่อให้เห็นภาพแอดมินเก็บภาพการรอขึ้นรถที่ประเทศญี่ปุ่นมาให้ชมครับ อย่าลืมนะครับที่ประเทศญี่ปุ่นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลต่างๆเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราในฐานะนักท่องเที่ยวไทย ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของบ้านหลังนั้นๆที่เราไปท่องเที่ยวกันด้วยนะครับ เรื่องต่อไปแอดมินจะแนะนำเรื่องดีๆและฟรีๆ ที่ไหนของญี่ปุ่นติดตามได้ที่ www.japanallpass.com วันนี้ลาไปก่อนนะครับ…..ซาโยนาระจร้า

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty