ทาคายาม่า (Takayama) เมืองแห่งสายน้ำ วัฒนธรรมเก่าแก่ ณ จังหวัดกิฟู (Gifu)

เมืองทาคายาม่า (Takayama)เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่เกิดจากการอนุรักษ์จากรุ่นสู่รุ่น เห็นได้จากสิ่งปลูกสร้างในเมือง รวมถึงภูเขาและสายน้ำที่ล้อมรอบ ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีความสงบ บ่งบอกถึงความเป็นอยู่ดั้งเดิมของชาวเมืองได้เป็นอย่างดีเลยครับ

01

02

การเดินชมเมืองเก่า ทำให้มีกลิ่นอายเหมือนเดินอยู่ในเกียวโต ที่มีย่านเก่า ที่เรียกว่า Old Town หรือ Sanmachi Suji ที่ซึ่งบริเวณนี้จะมีถนนคนเดินเล็กๆ มีบ้านไม้เก่าแบบดั้งเดิม ทอดยาวอยู่ตรงถนนเส้นนี้ ซึ่งเป็นทั้งร้านขายของฝาก ขนม ของกิน และโรงกลั่นเหล้าสาเกญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากเลยทีเดียว แนะนำว่ามาช่วงเช้า จะได้บรรยากาศมากๆ รวมถึงอาจได้ภาพสวยๆ ด้วยเพราะคนยังไม่เยอะครับ

ไหนๆ ถ้ามาแต่เช้าแล้ว คงจะพลาดไม่ได้เลยครับ กับการเดินชมตลาดในยามเช้า ตลาดเช้ามิยางาวะ
ที่มีสินค้าจากชาวบ้านโดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรของเมืองทาคายาม่า พืชผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารอีกมากมาย อีกทั้งยังมีขนมที่ทำกันสดๆ ขนมเซมเบ้ และของโปรดของผม คือ โยเกิร์ตสด ที่ได้ลองแล้ว อยากจะขนกลับบ้านซะจริงๆ นอกจากความหลากหลายที่จะดึงดูดเรา พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ก็น่ารัก และใจดีมากๆ ครับ

ตลาดเช้ามิยางาวะ
ตลาดเช้ามิยางาวะ

IMG_2449

ไปต่อกันที่การเดินชมหมู่บ้าน Sanmachi-Dori จากภาพจะมีตึกเก่าเรียงรายสองข้างทางที่งดงาม และยังคงความมีเอกลักษณ์ แวะดื่มกาแฟอุ่นๆ ทานขนมพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมือง แวะชิมสาเก รวมถึงการเลือกซื้องานฝีมือจากชาวพื้นเมือง แค่นี้เดินได้ทั้งวัน ไม่มีเบื่อแน่นอนครับ

IMG_7328

IMG_7330IMG_7355

แวะมาเที่ยวกันต่อที่ Takayama Jinya (ที่ Historical Government House)

ที่ถูกตั้งขึ้นจากผู้สำเร็จราชการในสมัยเอโดะ ในศตวรรษที่ 18 ด้วยการบริหารเขตพื้นที่ฮิดะ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่ามากมาย ทั้งแรกประเภทเงิน หรือทอง และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้
ที่นี่มีค่าเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ 430 เยน , เด็กเข้าฟรี

IMG_7316
อาคาร Takayama Jinya

IMG_2416

มาชม Yoshijimake Jutaku (Yoshijima Heritage House) คือบ้านของครอบครัว Yoshijima ที่เปิดให้เข้าชมด้านใน ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับสาเกญี่ปุ่น ภายในเป็นบ้านแบบเพดานสูง เพื่อเปิดรับแสงแดด ทำให้บ้านหลังนี้ มีความงดงามมากยิ่งขึ้น เมื่อบรรยากาศภายในกระทบกับแสงแดดที่ทอดเข้ามา
ราคาค่าบัตรผ่าน: ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 300 เยน

IMG_2429

อย่าลืมจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่สะพาน Nakabashi
เป็นสะพานสีแดงสด ที่มีแม่น้ำทอดไหลผ่านด้านล่าง ไม่ว่าจะถ่ายยามที่มีแสงแดดตกกระทบผืนน้ำ หรืออารมณ์โรแมนติกในการถ่ายยามค่ำคืนที่มีแสงแห่งธรรมชาติ และเพื่อนๆ จะเลือกไม่ถูกเลยว่าการมาถ่ายภาพที่สะพานแห่งนี้ ฤดูไหนจะสวยกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นหิมะ, ใบไม้เปลี่ยนสี หรือวิวซากุระ

IMG_2427
สะพาน Nakabashi แลนด์มาร์กสวยๆ ที่เก็บภาพสวยๆ ได้ทุกฤดูเลย

การเดินทางไปยังเมืองทาคายาม่า (Takayama) สำหรับเพื่อนๆ ที่ถือ JR PASS, JR Takayama-Hokuriku หรือ JR Alpine Takayama-Matsumoto ก็เหมือนมีสิทธิพิเศษ เพราะเดินทางไปได้แบบสะดวกสบายเลยทีเดียวครับ

1. จากโตเกียว นั่งรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen จากโตเกียวไปยังเมืองโทยาม่าและเปลี่ยน
ขบวนเป็น JR Hida limited express ใช้เวลารวมประมาณ 4.65 ชั่วโมง
2. จากเมืองนาโงย่า มีรถไฟ JR Hida limited express วิ่งตรงมายังเมืองทาคายาม่าใช้เวลาประมาณ
2.28 ชั่วโมง
3. จากสถานีโอซาก้า นั่งรถไฟ SHINKANSEN NOZOMI 292 มาลงที่สถานี นาโกย่า จากนั้น นั่งรถไฟ LTD. EXP (WIDE VIEW) HIDA 1 มาลงที่สถานีทาคายาม่า ใช้เวลาประมาณ 3.49 ชั่วโมง

การเดินทางในเมืองทาคายาม่า

เพื่อนๆ สามารถเดินทางโดยรถบัส ซึ่งมี 2 สาย วิ่งในเมือง
สายที่ 1 The Machinami Bus วิ่งจากสถานีรถไฟทาคายาม่า – Old Town ราคา 100 เยน / เที่ยว
สายที่ 2 Sarubobo Bus วิ่งระหว่างสถานีทาคายาม่าไปยัง
Hida no Sato และ the Matsuri no Mori ค่ารถ 210 เยน /เที่ยว
หรืออยากประหยัด สามารถซื้อ Bus Pass ราคา 620 เยน ที่นั่งได้ทั้ง 2 สาย แบบไม่จำกัดภายใน 1 วัน คุ้มค่ามากๆ ครับ

IMG_2442

ในตอนต่อไป แอดมินจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมมาติดตามได้ได้เรื่อยๆ นะครับ

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

JR West Hiroshima – Yamaguchi Area Pass

JR West Hiroshima-Yamaguchi เริ่มเที่ยวได้จากคิวชู (Kyushu) สู่ ชูโกขุ (Chugoku) เริ่มจากสถานี Hakata เที่ยวยาวไปถึง Hiroshima, Yamaguchi ได้แบบสบายๆ 5 วันต่อเนื่อง

เส้นทางที่กำหนด

ราคา JR West Hiroshima-Yamaguchi 5 วันต่อเนื่อง

ซื้อนอกประเทศญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ 15,000 เยน
เด็ก(6-11 ปี) 7,500 เยน
ซื้อในประเทศญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ 15,000 เยน
เด็ก(6-11 ปี) 7,500 เยน

การใช้งาน

  • สามารถใช้ Hiroshima-Yamaguchi Area Pass ในการเดินทางได้อย่างไม่จำกัดครั้งในพื้นที่ที่ระบุบนแผนที่
  • รถไฟที่ใช้บริการได้มีดังต่อไปนี้
    รถไฟหัวกระสุน “SANYO SHINKANSEN” (Mihara ⇔ Hakata) เมื่อนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
    สามารถใช้ Pass ในการขึ้นรถไฟ Hello Kitty Shinkansen ได้
    รถไฟประเภท Express Train เมื่อนั่งที่นั่งแบบจองล่วงหน้า
    รถไฟประเภท Rapid Service หรือ Special Rapid Service หรือประเภท Local ในเส้นทางเดินรถไฟธรรมดาของ JR-WEST
    เรือ JR WEST MIYAJIMA FERRY (Miyajimaguchi ⇔ Miyajima)
  • สามารถทำ Reserved Seat ที่ตู้ปกติได้ฟรีแบบไม่จำกัดครั้ง สามารถใช้กับขบวน Sanyo Shinkansen (Mihara⇔Hakata) และขบวนรถไฟด่วนพิเศษ
  • สามารถใช้ผ่านประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติได้ด้วย
  • พาสนี้ใช้ได้ 5 วันต่อเนื่อง (นับจากเที่ยงคืนวันแรก ถึง เที่ยงคืนวันสุดท้าย).
  • เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น
  • * รถไฟที่ระบุดังต่อไปนี้เป็นรถไฟที่ไม่สามารถใช้บริการได้
    • – รถไฟหัวกระสุน “SANYO SHINKANSEN” (Mihara ⇔ Shin-Osaka)
    • – รถไฟหัวกระสุน “TOKAIDO SHINKANSEN” (Shin-Osaka ⇔ Tokyo)
    • – รถไฟหัวกระสุน “KYUSHU SHINKANSEN” (Hakata ⇔ Kagoshima-Chuo)

พิเศษ! สามารถยืมจักรยานได้ฟรี!

สถานที่ซื้อและแลกตั๋ว Exchange Voucher

03

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

กรกฏาน่าเที่ยว ชมศิลปะบนนาข้าว Tanbo Art เมือง Asahikawa, Hokkaido

ทุ่งนาหรือทุ่งข้าว ปกติแล้วก็จะมีสีเขียวเรียงรายพลิ้วไสวไปตามสายลม สวยงามในแบบธรรมชาติ ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ที่นี่ถูกสร้างสรรค์ผลงานสวยๆ ขึ้นโดยกลุ่มเกษตรกรในเมือง Asahikawa เกิดเป็นงานศิลปะบนทุ่งนา จากการปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์ สลับสีให้เป็นลวดลายต่างๆ ใครมาเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) สามารถมาชมศิลปะบนนาข้าว Tanbo Art ที่เมือง Asahikawa ฮอกไกโดกันได้นะคะ ที่นี่จะได้สัมผัสกับทุ่งข้าวสวยๆ ที่มีลวดลายต่างๆ หรือจะเรียกว่า Rice Art ก็ได้ค่ะ

ทุ่งข้าว (1)

ทุ่งข้าว (2)

ทุ่งข้าว (3)

สุดยอดไปเลย ทำได้ยังไงกันเนี่ย!! เห็นแบบนี้แล้วถึงกับอึ้งเลยล่ะค่ะ ศิลปะบนทุ่งข้าว Tanbo Art ที่เมือง Asahikawa จากนาข้าวเขียวๆ ก็ทำให้เป็นลวดลายสวยๆ แบบนี้ได้ ดูแล้วสดชื่นเบิกบานหัวใจจริงๆ และในทุกปีที่เมือง Asahikawa จะมี Rice Art ศิลปะบนทุ่งข้าว โดยมีการปลูกข้าวในทุ่งนาทำเป็นลวดลายต่างๆ โดยใช้ข้าวหลากหลายสีในการปลูก มีการปักข้าวแบบต้นต่อต้นสลับสีไปมา จนกลายเป็นลวดลายสวยงามอย่างที่เห็น ถ้าเพื่อนๆ อยากมาเที่ยวชมบรรยากาศทุ่งข้าวลวดลายสวยงามเหล่านี้ แนะนำช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคมของทุกปี ซึ่งในแต่ละปีจะมีลวดลายไม่เหมือนกันค่ะ

ทุ่งข้าว (4)

ทุ่งข้าว (5)

ทุ่งข้าวนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Asahikawa มากนัก แต่ต้องขับรถไปชมค่ะ สำหรับการเดินทางในญี่ปุ่นเพื่อนๆ สามารถใช้ JR Pass เที่ยวได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ในญี่ปุ่นแบบไม่จำกัด หรือถ้าตั้งใจมาเจาะเที่ยวเฉพาะฮอกไกโด (Hokkaido) ล่ะก็ ใช้เป็นพาส JR Hokkaido เที่ยวได้แบบไม่ยั้งทั่วฮอกไกโดก็ได้ค่ะ ใครมาเที่ยวฮอกไกโดแวะไปชมกันได้นะคะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของเมือง Asahikawa ค่ะ
Google map : 43.62869,142.003934..
Map code : 79 710 650

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (Autumn Season) ฤดูแห่งสีสันธรรมชาติ

การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องของการเที่ยวชมดอกซากุระแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่ขึ้นขื่อคือการเที่ยวชมธรรมชาติใน “ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี(Autumn)
อีกไม่กี่เดือนนับจากนี้ ก็จะเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือ ฤดูใบไม้แดง ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่เพื่อนๆ ทราบไหมว่า ฤดูนี้จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือน กันยายน – พฤศจิกายน ของทุกปี ใบไม้จะค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เป็นสีส้ม และแดง แล้วก็จะค่อยๆ ร่วงโรยจากต้น

_MG_9581
ฤดูนี้เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวอีกฤดูหนึ่ง ที่เพื่อนๆ จะได้ชมกับความงามของสีใบไม้ในแต่ละภูมิภาค และในแต่ละภูมิภาค ช่วงเปลี่ยนสี ก็จะแตกต่างกัน เริ่มจากช่วงภูมิภาคตอนบนของประเทศ ไล่ลงมาทางตอนใต้

หลายๆ คน คงจะคิดว่า ใบไม้เปลี่ยนสีนั้น มักจะเกิดขึ้นเฉพาะกับบริเวณที่เป็นภูเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสี ยังสามารถพบได้ในเมืองอีกด้วย สถานที่สวยๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีก็มีอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น

นิกโก้ (ภูมิภาคคันโต) ช่วงเวลา : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
นิกโก้ (ภูมิภาคคันโต) ช่วงเวลา : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

อาราชิยาม่า (ภูมิภาคคันไซ) ช่วงเวลา : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
อาราชิยาม่า (ภูมิภาคคันไซ) ช่วงเวลา : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน

โทวาดะ (ภูมิภาคโทโฮขุ) ช่วงเวลา : กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม
โทวาดะ (ภูมิภาคโทโฮขุ) ช่วงเวลา : กลางเดือนตุลาคม – ปลายเดือนตุลาคม

โตเกียว (ภูมิภาคคันโต) ช่วงเวลา : กลางเดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน
โตเกียว (ภูมิภาคคันโต) ช่วงเวลา : กลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน

*** แต่ละที่ แต่ละช่วง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละปีด้วยนะคะ ***

ก่อนจะเดินทางไปชมความงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แอดมินแนะนำให้ศึกษาข้อมูลการเดินทาง และช่วงของใบไม้ที่จะเปลี่ยนสีในแต่ละภูมิภาคด้วยนะคะ เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้เดินทางไปไม่เสียเที่ยว ได้ภาพสวยๆกลับมาอวดเพื่อน และขอให้สนุกกับการเดินทางค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก JNTO

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.) สายด่วน 08-2828-9933 / 08-2828-9944 / 08-2828-9988

ID LINE : @japanallpass
หรือช่องทาง Inbox >>
📱สำหรับโทรศัพท์มือถือ คลิก m.me/japanallpass
💻สำหรับ Computer PC คลิก https://goo.gl/QhNgSN
หรือ [email protected]

ถือ KANSAI THRU PASS สิทธิประโยชน์มากมาย ในบัตรเดียว เที่ยวทั่วคันไซ ตอน 3 (ตอนจบ)

มาถึงตอนที่ 3 กันแล้วนะคะ ถือเป็นภาคจบ ของการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับเพื่อนๆ ที่มี Kansai Thru Pass ติดมือ หรือกำลังตัดสินใจซื้อ มาดูกันเลยค่ะ ว่าวันนี้ แอดมินจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ

อ่านย้อนหลังได้ที่นี่ >> ตอนที่ 1    >> ตอนที่ 2

เริ่มกันที่จังหวัดนารา (Nara) กันก่อนค่ะ

Nara Park

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในนารา เป็นที่ตั้งของสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น วัดสำคัญต่างๆ และ พิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูป และสัมผัสกับฝูงกวางที่เป็นเจ้าถิ่นของจังหวัดนาราเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งเจ้ากวางจะเดินเฉิดฉายไปมาอยู่ทั่วสวนแห่งนี้ หากเพื่อนๆต้องการให้อาหารกวางก็สามารถซื้อขนมเซนเบ้ (senbei) ซึ่งเป็นขนมสำหรับกวางโดยเฉพาะ จะมีร้านจำหน่ายอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นค่ะ
การเดินทาง : จากสถานี Kintetsu Nara เดินอีก 5 นาที

บริเวณโดยรอบของสวนสาธารณะค่ะ
บริเวณโดยรอบของสวนสาธารณะค่ะ

08

น้องกวางจะมานอนอวดโฉมให้ชมและถ่ายรูปกันทั่วบริเวณเลยค่ะ
น้องกวางจะมานอนอวดโฉมให้ชมและถ่ายรูปกันทั่วบริเวณเลยค่ะ

วัดโทไดจิ (Todaiji)

วัดชื่อดังแห่งเมืองนารา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดของเมืองนารา ซึ่งมีวิหารไม้หลังใหญ่ที่หลวงพ่อโต หรือพระใหญ่ไดบุตสึ(Daibutsu) ประดิษฐานอยู่ข้างในพิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา เป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธรูป พระคัมภีร์ และภาพวาดทางศาสนาต่างๆค่ะ
การเดินทาง : เดินประมาณ 30 นาที จากสถานี Kintetsu Nara หรือซื้อรถบัสจากสถานี
Kintetsu Nara สาย70 และสาย97 เพิ่มค่ะ

IMG_4339 12

มาต่อกันที่โกเบ(Kobe) ค่ะ

Kobe Harborland

ย่านโกเบฮาร์เบอร์แลนด์(Kobe Harborland) เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยว ซึ่งสถานที่นี้จะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงของโกเบ(Kobe) ที่มีทั้ง ร้านอาหาร ,ห้าง ,พิพิธภัณฑ์อันปังแมน และชิงช้าสวรรค์ อีกทั้งยังสามารถขึ้น Kobe Port Tower ชมวิวริมอ่าวโกเบยามค่ำคืนได้อีกด้วย
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Harborland Subway Station เดินไปประมาณ 5 นาทีค่ะ

IMG_6466

หุ่นยนต์ไอรอนแมน Testsujin หมายเลข 28

สร้างเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมืองโกเบ ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1995 เป็นหุ่นยนต์เหล็กที่มีความสูง 15 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 50 ตัน
ตั้งอยู่ที่สวน Wakamatsu Park สามารถชมฟรีได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่ะ ของฟรียังมีในโลกนะคะ อิอิ
การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Seishin-Yamate Line หรือสาย Kaigan Line
มาลงที่สถานี Shin-Nagata เดินออกมาจากสถานีจะมี ป้ายบอกทางว่า Tetsujin Monument อยู่ทางขวามือของอาคารสีขาว Joy Plaza/ Daimaru พอเดินเลี้ยวมาก็เจอ Tetsujin Street เดินเข้าไปก็จะเจอเจ้า Tetsujin ตั้งอยู่กลางแจ้ง ตัวโตๆค่ะ

694

ร้าน Royal Mouriya , Sannomiya Kobe

มาโกเบเราก็ต้องมากินของดังขึ้นชื่อ นั่นก็คือ… เนื้อโกเบนั่นเองค่า แอดมินจะพาไปวันนี้คือร้าน Royal Mouriya , Sannomiya Kobe ค่ะ ซึ่งนอกเหนือจากเนื้อโกเบ ที่เป็นจุดเด่น จุดขายแล้ว การปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กันค่ะ ตามรอยมาทานกันได้เลย
การเดินทาง : จากสถานี Sannomiya เดินมาเรื่อยๆ มองทางขวานะคะ จะเห็นป้าย Ikuta Road
เข้ามาใน Ikuta Road นิดนึง มองทางขวาก็จะเจอร้าน Royal Mouriya ค่ะ

IMG_7331 IMG_7335   IMG_7295 IMG_7323

IMG_7866

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

มาต่อกันที่ปราสาทฮิเมจิ(Himeji Castle) ซึ่งมีประวัติศาสตร์ก่อตั้งกว่า 400 ปีซึ่งนับเป็นปราสาทที่คงสภาพเดิมที่สุดในญี่ปุ่นและได้รับการประเมินอย่างสูงจากทั่วโลก ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก (Unesco) เป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี 1993 สร้างทิวทัศน์ที่งดงามด้วยความสง่างามของปูนขาวซึ่งได้รับการเปรียบเปรยให้เป็นนกกระยางซึ่งบางทีถูกเรียกว่า“ปราสาทนกกระยางขาว”
การเดินทาง : จากสถานี Himeji ใช้เวลาเดินทางเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น ก็จะถึงตัวปราสาทค่ะ

117254

IMG_7731

อาริมะออนเซน (Arima Onsen) 

เที่ยวกันมาตั้งหลายตอน ปิดท้ายแอดมินจะพาไป “ออนเซน” ซึ่งออนเซนแห่งนี้จะเป็นสถานที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น อยู่ในเขตเมืองโกเบ(Kobe) จังหวัดเฮียวโงะ(Hyogo) ขึ้นชื่อเรื่องของคุณสมบัติการบำบัดรักษาโรค เพราะมีแร่ธาตุต่างๆมากมาย ออนเซนที่แอดมินพูดถึงคือ “อาริมะออนเซน (Arima Onsen)” นั่นเองค่ะ
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Arima Onsen และเดินเที่ยวต่อไปได้ค่ะ

13282821_1766316290322323_1401856867_o

จริงๆ แล้ว ที่เที่ยวสำหรับผู้ใช้ Kansai Thru Pass มีมากมายหลายแห่ง บรรยายกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะสำหรับผู้ซื้อ Kansai Thru Pass จะมีคู่มือแนะนำสถานที่เที่ยว รวมถึงส่วนลดต่างๆ สำหรับที่เที่ยวนั้นๆ วู้วววววว คุ้มค่าขนาดนี้ ไม่มี ไม่ได้แล้ววววว

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty

มาเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ด้วย JR Hokkaido Pass กันเถอะ

ฮอกไกโด (Hokkaido) เกาะในฝันของนักท่องเที่ยว ที่ต้องไปเยือนให้ได้ซักครั้ง กับจุดเด่น ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย การท่องเที่ยวที่เกาะฮอกไกโด จึงเป็นที่นิยมอยู่ตลอดเวลา

สำหรับเพื่อนๆ ที่ถือ JR Hokkaido Pass ก็ชิดจอ รออ่านกันแบบรัวๆ จะรู้ว่า มันคุ้มค่าขนาดไหน…

โทมิตะฟาร์ม (Tomita Farm) นับเวลาลั้นลาเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ กันดีกว่าครับ  เราจะไปเริงร่ากลางทุ่งลาเวนเดอร์กว้างๆ สุดลุกหูลูกตา ที่เมืองฟุราโนะ (Furano) ฮอกไกโด (Hokkaido) กันแล้ว ที่นี่มีทุ่งดอกไม้ฤดูร้อนหลากสีสันกว่า 100 ชนิด มีร้านค้า ร้านอาหาร สามารถมาสัมผัสความหวานของทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วง และดอกไม้อื่นๆ ในฟาร์มโทมิตะ ในช่วงเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนสิงหาคม แต่เดือนกรกฎาคมดอกลาเวนเดอร์จะสวยงามที่สุดครับ.
การเดินทาง โดยสารรถไฟ JR Furano Line รวมถึง Furano-Biei Norokko trains ลงที่ Lavender Batake Station (จาก Furano ใช้เวลา 20 นาที หรือจาก Biei ใช้เวลา 35 นาที) แล้วเดินต่ออีก 5-10 นาทีโทมิตะ1

โทมิตะฟาร์ม2

โทมิตะฟาร์ม4

คลองโอตารุ(Otaru) งานไฟแบบโรแมนติกสุดๆ สำหรับคนมีคู่ ที่งานหนาวๆ อย่าง Otaru Snow Light Path Festival 2015 เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเทศกาลในฤดูหนาว จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ใกล้เคียงกับช่วงที่จัดงานเทศกาลหิมะที่ซัปโปโรบริเวณคลองและในตัวเมืองจะประดับไปด้วยแสงไฟ ท่ามกลางหิมะ สร้างบรรยากาศโรแมนติกน่ามาเดินเที่ยวชมมากๆ

โอตารุ งานไฟ 1
ถ่ายเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2015

โอตารุ งานไฟ 2
สถานที่จัดงานจะอยู่ในเขตบริเวณ Unga Kaijo และ Temiyasen Kaijo จากสถานี Otaru เพียง 15 นาที เพื่อนๆ สามารถเดินชมบรรยากาศระหว่างทาง ที่ชาวบ้านตกแต่งร้านค้าและที่อยู่อาศัยด้วยโคมไฟสวยๆ บริเวณด้านหน้าได้  เตรียมหาคู่มาเที่ยว แล้วรอหน้าหนาวกันเลยครับ..
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line จากซัปโปโรมาลงที่สถานี Otaru Station

โอตารุ งานไฟ 4

ฟาร์มโอฮาชิ (Ohashi Cherry Farm) มาเด็ดเชอร์รี่ฮอกไกโด กินสดๆ ที่ฟาร์มโอฮาชิ กิจกรรมยอดฮิตช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโด ก็คือการเก็บเชอร์รี่ลูกกลมๆ แสนอร่อย ที่ฟาร์มโอฮาชิ เมืองอาชิเบะสึ (Ashibetsu) ถือเป็นสวนผลไม้ชื่อดังที่อยู่ใกล้ๆ เมืองฟุราโนะ มีหลากหลายสายพันธุ์ สามารถเก็บเชอร์รี่ได้อย่างเพลิดเพลินบนพื้นที่กว้างๆ นอกจากความสนุกสนานของการมาเที่ยวชมสวนแล้ว เรายังได้ลงมือเก็บเชอร์รี่เองสดๆ จากต้น และยังกินได้เลยโดยไม่ต้องล้าง เพราะฟาร์มโอฮาชิเขาปลูกแบบออร์แกนิก เริ่มเก็บได้ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคม ราคาผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็กประถม 1000 เยน สวนนี้อยู่ห่างจากเมืองฟุราโนะไปประมาณ 30 นาที ใครมีแพลนไปเที่ยวเมืองฟุราโนะ อย่าลืมแวะไปเก็บเชอร์รี่อร่อยๆ ที่สวนกันครับ..

การเดินทาง
สามารถเลือกเส้นทางได้ 3 สถานี ครับ

  • Sapporo โดยรถไฟ JR LTD. EXP SUPER KAMUI เพื่อไปสถานี TAKIKAWA
    แล้วต่อรถไฟ JR Nemuro Line for OBIHIRO ถึงสถานี ASHIBETSU
  • FURANO โดยรถไฟ JR Nemuro Line for TAKIKAWA ถึงสถานี ASHIBETSU
  • ASAHIKAWA โดยรถไฟ LTD. EXP SUPER KAMUI เพื่อไปสถานี TAKIKAWA
    แล้วต่อรถไฟ JR Nemuro Line for FURANO ถึงสถานี ASHIBETSU ครับ

เชอร์รี่ฟาร์มโอฮาชิ (Ohashi Cherry Farm) ฮอกไกโด (1)

เชอร์รี่ฟาร์มโอฮาชิ (Ohashi Cherry Farm) ฮอกไกโด (2)

เชอร์รี่ฟาร์มโอฮาชิ (Ohashi Cherry Farm) ฮอกไกโด (3)

Takino Suzuran Hillside National Park กับบรรยากาศทุ่งดอกทิวลิป(Tulip) สีสันสวยงาม ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิที่ฮอกไกโด ซึ่งสวนสาธารณะทาคิโนะซุซุรัน เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งในเกาะฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน จะมีเทศกาลดอกทิวลิป 100 กว่าสายพันธุ์ สร้างสีสันสวยงามจำนวนกว่าแสนต้น ทำให้บนเนินเขาแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาน่ามาเดินเล่นมากๆ ใครที่ชื่นชอบดอกไม้ ชอบความเป็นธรรมชาติท่ามกลางวิวทิวทัศน์สวยๆ ก็มาชมทุ่งดอกทิวลิปบนเนินเขาที่ TakinoSuzuran กันครับ
การเดินทาง Makomanai Subway Station ไปสถานี Suzuran Park Higashi Guchi
และต่อด้วยรถบัส Chuou Bus Ariake Line ราคาประมาณ 620 เยน เด็ก 310 เยน ครับ

Takino Suzuran Hillside National Park (1)

Takino Suzuran Hillside National Park (2)

Takino Suzuran Hillside National Park (3)

เกาะฮอกไกโด ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายเลยครับ ถ้ามีที่ไหน น่าสนใจ แอดมินจะมาแนะนำเพื่อนๆ เพื่อวางแผนไปเที่ยวกันแบบจุใจ และที่ขาดไม่ได้พาสเดินทาง ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว อย่างเช่น JR Hokkaido Pass

>> สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เจแปน ออล พาส จำกัด ( Japan All Pass Co.Ltd. )

โทร. 02-514-7473 (วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-18.00 น.)
หรือติดต่อฝ่ายขายโดยตรงได้ที่ LINE : https://lin.ee/jKISGty