เที่ยวเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสีเกาะฮอกไกโด 6 วัน 5 คืน ด้วย JR Hokkaido 5 Days
Model Course เที่ยวเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสีเกาะฮอกไกโด 6 วัน 5 คืน ด้วย JR Hokkaido 5 Days
วันที่ 1 กรุงเทพฯ >> ฮอกไกโด >> ซัปโปโร >> ตลาดนิโจ >> สวนโอโดริ >> หอนาฬิกาซัปโปโร กรุงเทพฯ - ซัปโปโร BKK - CTS โดยการบินไทย TG 23.45 - 08.30 ราคา 22,000 บาท JR ฮอกไกโด 5 วัน ราคา 20,000...
แลนด์มาร์คแห่ง “ภูมิภาคชูบุ” แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้วยรถเช่าในภูมิภาคชูบุ
แลนด์มาร์คแห่ง “ภูมิภาคชูบุ”
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้วยรถเช่าในภูมิภาคชูบุ
ภูมิภาคชูบุ เป็นโซนท่องเที่ยวซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ชูบุจึงเป็นโซนที่ควรลองไปเยือนดูสักครั้งแต่ด้วยความที่ว่าสถานที่เที่ยวหลายแห่งในชูบุเดินทางไปด้วยรถไฟได้ยาก หลายๆ คนจึงถอดใจไปที่อื่นแทนเสียก่อน ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆ เพราะจริงๆ แล้วชูบุนั้นน่าเที่ยวมากจริงๆดังนั้นวันนี้เราขอเสนอวิธีแก้ไขปัญหาด้วยการเช่ารถเที่ยวในภูมิภาคชูบุค่ะ โดยเราจะพาทุกคนไปเยือนแลนด์มาร์กอันโด่งดังมากมายในเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซูโอกะ, เมืองนาโกย่าและเมืองโอคาซากิ จังหวัดไอจิ รวมถึงสถานที่เที่ยวต่างๆภายในจังหวัดมิเอะ
ในเมื่อมีรถแล้ว การจะไปเที่ยวแลนด์มาร์กทุกแห่งของชูบุก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากใครพร้อมจะเช่ารถเที่ยวชูบุแล้วก็ตามเรามาได้เลย!
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักขั้นตอนการเช่ารถยนต์ในประเทศญี่ปุ่นกันบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์นั้น มีบริษัทที่ให้บริการเช่ารถยนต์อยู่หลายแห่งซึ่งสามารถดูได้จากที่นี่ >> https://www.centrair.jp/en/access/rental-car/index.html
ประเภทของรถที่ให้บริการกับราคาค่าเช่ารถนั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทดังนั้นเราขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้ดี และติดต่อจองล่วงก่อนถึงวันจริงสำหรับการจองผ่านเว็บไซต์นั้น บริษัทที่สามารถจองผ่านหน้าเว็บภาษาไทยได้มี 2 บริษัทดังนี้1. https://rent.toyota.co.jp/th/2. http://www.nrgroup-global.com/th/ในระหว่างขั้นตอนการจองจะมีรายละเอียดต่างๆ ระบุไว้อยู่ กรุณาอ่านให้ถี่ถ้วนก่อนจอง
ในการใช้บริการรถยนต์เช่าในประเทศญี่ปุ่นนั้น จะมีระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับรถที่ชื่อ "คาร์นาบิ (カーナビ)" หรือระบบนำทางภายในรถยนต์ ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เพียงแค่ระบุชื่อสถานที่หรือเบอร์โทรศัพท์
โดยสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดที่เราจะมาแนะนำในครั้งนี้ เป็นสถานที่ที่สามารถค้นหาได้ผ่านระบบที่ชื่อว่า "แมพโค้ด (Map code)" (ระบบที่ช่วยระบุตำแหน่งบนพื้นโลกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งนิยมใช้ในประเทศญี่ปุ่น)
หากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหา เราก็แค่เลือกวิธีการค้นหาในระบบนำทางเป็น "แมพโค้ด"...
Hells of Beppu บ่อน้ำพุร้อนแห่งเบปปุ
Hells of Beppu บ่อน้ำพุร้อนแห่งเบปปุ เป็นบ่อน้ำพุร้อนหลากสีมีทั้งหมด 8 บ่อ ถือเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของเบปปุ (Beppu) เมืองในจังหวัดโออิตะ (Oita) ประเทศญี่ปุ่น (Japan) สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ คนที่นี่เรียกว่า จิโกกุ เมกุริ (Jigoku Meguri) หรือบ่อนรกนั่นเอง แต่ละบ่อก็จะมีลักษณะและสีของน้ำที่แตกต่างกันไป ซึ่งล้วนเกิดจากธรรมชาติมาแล้วกว่าพันปี
Hells of Beppu เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมบ่อนรกจำนวนนับไม่ถ้วนในเมืองเบปปุ เขตโออิตะ ที่นี่จึงถูกยกให้เป็นแหล่งทิวทัศน์แห่งชาติในวันที่ 23 กรกฎาคม 2009 โดยน้ำพุร้อนหนึ่งใน 8 แห่ง ที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆ ของที่นี่ ก็คือ บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring) หรือ ชิโนอิเกะ จิโกกุ...
ชมความงดงามของศาลเจ้า Konpira Shrine จังหวัดคางาวะ
ศาลเจ้าคอนปิระ (Konpira Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโต ตั้งอยู่ที่เมืองโคโตฮิระ (Kotohira) จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ประเทศญี่ปุ่น (Japan) เป็นศาลเจ้าที่อยู่บนภูเขาโซซุ (Zouzu) ที่มีความสูง 521 เมตร (1,709 ฟุต) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล ชาวญี่ปุ่นทราบกันดีว่าศาลเจ้าคอนปิระนั้นเป็นศาลเจ้าหลัก ของศาลเจ้า “โคโตฮิระ” หรือ “คอนปิระ” ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นก็มีอยู่หลายแห่ง
ศาลเจ้า Konpira Shrine แห่งนี้ได้รับความศรัทธาจากชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ ว่ากันว่าเป็นสถานที่สถิตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลโอโมโนะนุชิ ที่ช่วยปกปักคุ้มครองนักเดินเรือให้แคล้วคลาดปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่จะขึ้นไปบนศาลเจ้านั้น ตัวศาลเจ้าจะตั้งอยู่สุดทางเดินยาวมีบันได 785 ขั้นสู่ศาลเจ้าหลัก และรวม 1,368 ขั้นไปยังศาลเจ้าด้านใน
ศาลเจ้า Konpira Shrine สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วยศตวรรษที่ 1 ตั้งแต่สมัยเอโดะ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันอย่างลึกซึ้งของคนญี่ปุ่น ที่มีความเชื่อกันว่าเป็น “ต้องมาสักการะศาลเจ้าให้ได้สักครั้งในชีวิต”...
Meguro Sakura Tokyo จุดชมซากุระที่แม่น้ำเมกุโระ
Meguro Sakura Tokyo จุดชมซากุระที่แม่น้ำเมกุโระ ที่นี่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุด สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมความงดงามของดอกซากุระในเมืองโตเกียว แม่น้ำเมกุโระเป็นแม่น้ำที่ทอดยาวไปตามแหล่งที่อยู่อาศัยในย่านเมกุโระ (Meguro) ในเขตชินากาว่า (Shinagawa) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว (Tokyo) และไหลไปลงอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay)
ดอกซากุระจะบานสะพรั่งทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเมกุโระ เริ่มตั้งแต่สถานี Ikejiri-ohashi ผ่านสถานี Nakameguro ไปถึงสถานี Meguro โดยมีต้นซากุระปลูกอยู่ประมาณ 800 ต้นขึ้นเป็นแถวเรียงรายไปตามแม่น้ำประมาณ 4 กิโลเมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของชาวโตเกียว
สำหรับที่ Meguro Sakura Tokyo ช่วงเวลาที่ดอกซากุระจะบานแบบ Full Bloom (คือช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน) สำหรับในช่วงดอกซากุระบานที่ริมฝั่งแม่น้ำ Meguro จะถูกประดับด้วยไฟหลากสีและสว่างสวยงามในช่วงยามเย็นจนถึงเวลา 21:00 น. เท่านั้น ทำให้บริเวณแห่งนี้ดูมีมนต์ขลังและบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
จุดชมซากุระที่ Meguro Sakura Tokyo...
ทะเลแหวก “ถนนคุโรชิมะวีนัส” ที่เซโตะอุจิ ...
อุชิมาโดะ เมืองเซโตะอุจิ หรือที่รู้จักในชื่อ "ทะเลอีเจียนของญี่ปุ่น" ฉันได้ยินมาว่าเกาะเล็กๆ สามเกาะ ได้แก่ คุโรชิมะ นากาโนะโคจิมะ และฮาตาโนะโคจิมะ ซึ่งลอยอยู่นอกชายฝั่ง สามารถเชื่อมต่อและเดินในเวลาน้ำลงได้ในวันที่น้ำลด ตอนนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ PV และการถ่ายภาพงานแต่งงาน!
การเดินทาง จากท่าเรือของโรงแรม-รีสอร์ต ริมทะเลไปยังคุโรชิมะโดยเรือเล็ก
อันดับแรก ให้มุ่งหน้าไปยังคุโรชิมะซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นให้ขึ้นเรือจากท่าเรือของโรงแรมแล้วล่องเรือหันหน้าออกสู่ทะเลผ่าน The Hotel Limani & Spa โรงแรม รีสอร์ตทันสมัยที่ในทะเลอีเจียนของอุชิมาโดะ ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที เป็นวิธีที่สะดวกสบายในการล่องเรือรับลมและค่อยๆ เคลื่อนตัวไปบนผิวน้ำ ซึ่งคุณสามารถเห็นสาหร่ายที่เรียกว่าหญ้าอีลกราส ซึ่งโปร่งใสมาก!
ถึงคุโรชิมะแล้ว! มุ่งหน้าสู่ถนนคุโรชิมะวีนัส หรือทะเลแหวกได้ทันที
ถนนคุโรชิมะวีนัส ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจนกว่าจะเข้าใกล้เกาะ แต่เมื่อเรือเดินทางเข้าใกล้แล้วเราก็จะเริ่มมองเห็นสันทรายปรากฏชัดขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคุณลงจากท่าเรือ คุณจะพบคุโรชิมะ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ การเดินเที่ยวบนทะเลแหวกนั้นมีช่วงเวลาที่จำกัดตามเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง
ข้ามแนวสันทรายเส้นแรกไปยัง "นากาโนโคจิมะ"
ในวันที่ท้องทะเลเงียบสงบเป็นวันที่เหมาะสำหรับการออกทะเล ผิวน้ำเรียบเหมือนกระจกส่องสะท้อนภาพของชายฝั่งที่ห่างไกลอย่างสวยงาม...
เที่ยวเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสี 6 วัน 5 คืน ด้วย JR East Nagano Niigata 5 Days
Model Course เที่ยวเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสี 6 วัน 5 คืน ด้วย JR East Nagano Niigata 5 Days
วันที่ 1 กรุงเทพฯ >> NRT >> โตเกียว >> NIKKO โดยสายการบิน ZIP AIR BKK-NRT เวลา 23.10-07.25 ราคา 19,000 บาท สถานีสนามบินนาริตะ – สถานีโตเกียว โดยรถไฟ Narita Express เวลา 09.49 - 10.45 ราคา...
Oyasu Hot Springs Akita จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและบ่อน้ำพุร้อนอายุกว่าพันปี
Oyasu Hot Springs Akita ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและมีบ่อน้ำพุร้อนอายุกว่าพันปี ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกที่เมืองยูซาวะ (Yuzawa) เมืองทางตอนใต้สุดจังหวัดอาคิตะ (Akita) ประเทศญี่ปุ่น (Japan) ที่ “หุบเขาโอยาสุ” แห่งนี้เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำมินาเสะที่ไหลผ่านหุบเขาเป็นรูปตัววี ระยะเวลายาวนานหลายพันปี ในส่วนของ Oyasu Onsen กล่าวกันว่า เป็นออนเซ็นอันเก่าแก่ที่ได้รับการก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะตอนต้น มีน้ำพุร้อนทางธรรมชาติ ที่ร้อนถึง 98 องศา ด้วยความร้อนของน้ำพุแห่งนี้ ทำให้เกิดไอน้ำพุ่งลอยอยู่เหนือพื้นผิวจากรอยแยกของพื้นดินเบื้องล่าง ทำให้เกิดภาพบรรยากาศที่น่าอัศจรรย์และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
หุบเขาโอยาสุ (Oyasu Valley) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนทางธรรมชาติที่ไม่ค่อยได้รับการพูดถึงสักเท่าไหร่ แต่เป็นที่รู้จักในหมู่ของคนท้องถิ่นมากกว่า ที่ Oyasu Hot Springs Akita มีเส้นทางเดินลงสู่หุบเขาที่ยาวประมาณ 60 เมตร นอกจากนี้ ที่นี่มีบริการออนเซ็นและบ่อแช่เท้าสาธารณะอยู่หลายแห่ง พื้นที่โดยรอบของแถบนี้ มีการเกิดรอยแตกจากความร้อนที่สะสมในชั้นใต้ดิน ทำให้เกิดลักษณะรูปแบบที่แปลกตา...
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ Katsuyama Fukui ศูนย์กลางการวิจัยไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ Katsuyama Fukui มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับ 1 ในจังหวัดฟุกุอิ ตั้งอยู่ที่ เมืองคัตสึยาม่า (Katsuyama) จังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ในประเทศญี่ปุ่น (Japan) ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีการออกแบบครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 4 ชั้น โดยที่ชั้นหลักนั้นจะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับข้อมูลไดโนเสาร์เป็นจำนวนมาก โดยห้องนิทรรศการจะมีขนาดกว้างประมาณ 4,500 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเป็นห้องนิทรรศการที่มีขนาดใหญ่มหึมาเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโครงสร้างกระดูกไดโนเสาร์มากกว่า 44 ชิ้น มีทั้งแบบสายพันธุ์ชนิดกินพืชและสายพันธุ์ชนิดกินเนื้อ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ Fukui Prefectural Dinosaur Museum แห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศภายในที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังหลงเข้าไปในป่าที่มีไดโนเสาร์อาศัยอยู่จริงๆ มีแบบจำลองการฟื้นคืนชีพ พร้อมมีคำแนะนำบรรยายตามจุดต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวได้ทำความเข้าใจในความหมายอีกด้วย ที่นี่ถือได้ว่ามีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ (Dinosaur Fossil) มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แถมยังเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับใช้วิจัยด้านธรณีวิทยาและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และยังติด 3 อันดับแรกของโลก
อาณาจักรไดโนเสาร์ “Fukuisaurus” และ...
แพลนเที่ยวเกี่ยวก้อย 2 ภูมิภาค 5 วัน ด้วย JR EAST PASS (Tohoku area)
แพลนเที่ยวเกี่ยวก้อย 2 ภูมิภาค 5 วัน
ด้วย JR EAST PASS (Tohoku area)
ถ้าพูดถึงโซนโทโฮคุ ภูมิภาคนี้จะอยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชูครับ ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอะโอโมริ, จังหวัดอะคิตะ, จังหวัดอิวะเตะ, จังหวัดมิยะงิ, จังหวัดยะมะงะตะ และจังหวัดฟุคุชิมะครับ ซึ่งทั้ง 6 จังหวัดสามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) เดินทางท่องเที่ยวได้แบบครอบคลุมทุกพื้นที่เลยครับ บริเวณพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ซึ่งหลายๆแห่งมีความอุดมสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วยครับ และส่วนอื่นๆ ก็ยังคงความเป็นชนบทท้องถิ่นของญี่ปุ่น ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งทะเลสาบ น้ำตก ออนเซนธรรมชาติท่ามกลางหุบเขาครับ และฤดูการท่องเที่ยวของภูมิภาคโทโฮคุที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจะมีทั้งหมด 3 ฤดูครับ ได้แก่ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี,...